
8 สิงหาคม 2567 คุณมีของขวัญพิเศษสำหรับคุณแม่ เนื่องในเทศกาล "วันแม่" ปีนี้ แล้วหรือยัง ถ้ายังเรารวมไอเดียสร้างสรรค์มาให้ มีทั้งขนมที่เป็นงานศิลปะกินได้ และของใช้ เริ่มจาก
วุ้นกะทิแฟนซี งานศิลปะที่กินได้
พาไปกันที่ ร้านขนมวุ้นกะทิแฟนซี "ข้าวหอม" หมู่ 7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล พบกับ น.ส.ขวัญชนก อายุ 38 ปี เจ้าของร้านฯ ผู้รังสรรค์เค้กวุ้นกะทิแฟนซี และพวงมาลัยช่องามจากงานศิลปะที่กินได้
โดย น.ส.ขวัญชนก เปิดเผยว่า เค้กวุ้นกะทิของที่นี่ตอบโจทย์คนที่แพ้นมสด แพ้แป้งสาลี โดยทำด้วยวิธีได้คัท ตัดแปะทีละชิ้น สร้างสรรค์เป็นงานศิลปะที่กินได้ ราคาเพียงปอนด์ละ 300 บาท,พวงมาลัยวันแม่ ราคาชิ้นละ 100 บาท (ขายราคานี้มา 3 ปีแล้วเมื่อครั้งขายที่ภูเก็ต) และวุ้นจิ๋วกะทิ กล่องละ 30 บาท มี 8 ชิ้น และจุดเด่นของที่นี่คือ สามารถออกแบบลวดลายได้ตามต้องการ เช่น ลายดอกมะลิ สัญลักษณ์แห่งความรักของแม่ หรือจะเป็นของขวัญวันเกิดตามอาชีพ หมอ พยาบาล สามารถมาร่วมสร้างสรรค์ออกแบบร่วมกันได้
"เรื่องราวของร้าน เริ่มจากการทำวุ้นกะทิให้คุณย่าทาน แก้ขมปากจากการกินยา จนกลายเป็นอาชีพที่รัก ด้วยประสบการณ์กว่า 3 ปีในภูเก็ต และความรู้จากปริญญาโทด้านการจัดการการท่องเที่ยวพร้อมสร้างสรรค์ขนมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว นอกจากวุ้นกะทิยังมีลูกชุบและขนมชั้นที่อร่อยไม่แพ้กัน สำหรับวันแม่นี้ สั่งล่วงหน้าได้รับรองว่าจะได้ของขวัญสุดพิเศษสำหรับคุณแม่" น.ส.ขวัญชนก ระบุ
ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้โทร 082-2618153/095-4695517 , Facebook Page : khaowann
อาลัวมาลัยทอง-อาลัวทองแท่ง-ทองก้อน สื่อรักที่รับประทานได้
ขณะที่ ร้านหนมไทยครูทราย ต.นาโยงใต้ อ.เมือง จ.ตรัง ของนางสาวพาขวัญ หรือ ครูทราย วัย 33 ปี อดีตครูที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านขนมไทยชื่อดัง ได้สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ "อาลัวมาลัย และอาลัวมาลัยทอง ทองคำอาลัว" เพื่อเป็นของขวัญเนื่องในเทศกาลวันแม่ ประจำปี 2567
ครูทราย บอกว่า แนวคิดในการทำพวงมาลัยที่รับประทานได้นี้ เกิดจากความตั้งใจที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในทุกเทศกาลสำคัญ ประกอบกับสถานการณ์ที่พวงมาลัยดอกมะลิสดมีราคาสูงขึ้นมาก และมีความตั้งใจที่จะมอบของขวัญให้กับแม่ของตนเองด้วย จึงคิดค้นสูตรพวงมาลัยที่สามารถรับประทานได้ เพื่อเป็นของขวัญที่ดีสำหรับลูกๆ ที่ต้องการมอบสิ่งพิเศษให้แม่ในวันแม่ปีนี้
ส่วนผสมอาลัวมาลัยทอง มีส่วนผสมหลักเป็นแป้งข้าวไรซ์เบอรี่ นม น้ำตาลมะพร้าว น้ำตาลทราย และกะทิ ใช้เวลาอบ 4-6 ชั่วโมง โดยไม่ใส่สารกันบูด สามารถเก็บได้นาน 2-3 สัปดาห์นอกตู้เย็น หรือ 1-2 เดือนในตู้เย็น ขนมอยู่ได้หลายวัน เนื่องจากใช้วิธีการอบสามารถส่งต่างจังหวัดได้ สำหรับรสชาติขนมอาลัวทอง รสชาติไม่หวานมากอร่อย จะออกรสนมผสมข้าวไรซ์เบอรี่ จะมีไส้สับปะรด จะมีกลิ่นหอมของข้าวไรซ์เบอรี่และสับปะรด ส่วนอาลัวธรรมดาจะมีกลิ่นหอมของข้าวไรซ์เบอรี่และนม มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 30-250 บาท
ครูทราย บอกอีกว่า นอกจากนี้ ทางร้านยังมีชุดของขวัญพิเศษที่ประกอบด้วย อาลัวทองรูปทรงต่างๆ เช่น ทองแท่ง ทองก้อน และพวงมาลัยทอง พร้อมธนบัตรในกล่องสีแดงสวยงาม ซึ่งลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยนมูลค่าของธนบัตรได้ตามต้องการ และยังมีเซตอาลัวข้าวไรซ์เบอรี่ราคา 250 บาทต่อกล่อง และเซ็ตดอกมะลิกินได้ไส้ถั่ว โดยลูกค้าสามารถเลือกจัดเซตได้ตามความต้องการ
ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือเป็นสื่อรักสร้างสรรค์จากลูกๆ ที่สามารถรับประทานได้ ผู้สนใจสามารถสั่งจองผ่านเพจ "หนมไทยครูทราย" หรือโทร 088-752-6802 โดยครูทรายทิ้งท้ายว่า "ขนมสายมูเมื่อเรามูสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้วก็อยากให้มามูพระในบ้านกันด้วย วันแม่ 1 ปีมีครั้งเดียว"
"พวงมาลัยผ้าขาวม้าวันแม่" ส่งความสุขจากลูกสู่แม่ต่อยอดไปถึงพ่อ
ส่วนที่ ร้านรัชชาคุณ ฟลอริสท์ มีผ้าขาวม้าสีสันสวยงาม ซึ่งถูกนำมาประดิษฐ์ประดอยพับจับจีบแปรรูปเป็นมาลัยกรหลากสีสัน เป็นงานฝีมือของน้องสุ หรือ น.ส.สุวิมล อายุ 40 ปี เจ้าของร้านฯ ซึ่งเป็นร้านรับจัดดอกไม้สด ใน อ.แสวงหา ที่มีแนวคิดจากการนำผ้าขาวม้ามาต่อยอดเป็นของขวัญวันแม่แทนพวงมาลัยดอกมะลิที่มีราคาสูงและใช้งานได้เพียงครั้งเดียว โดยสั่งผ้าขาวม้าพื้นบ้านจากชาวบ้านใน จ.ขอนแก่น นำมาจับจีบติดโบว์ได้อย่างสวยงาม และนำไปโพสต์ขายในโซเชียล ทำให้มีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก
น้องสุ เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นเกิดจากร้านตนเองเป็นร้านจัดดอกไม้สดในเทศกาลต่างๆ แต่มองเห็นว่าการใช้ดอกไม้สดทำพวงมาลัยมอบให้ผู้ใหญ่ในเทศกาลต่างๆ จะมีราคาสูงและใช้ได้เพียงครั้งเดียวเมื่อเวลาผ่านไปก็ต้องทิ้งสูญเปล่า จึงมีแนวคิดที่จะทำพวงมาลัยจากผ้าขาวม้าที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง โดยสั่งซื้อผ้าขาวม้าที่ทอจากผ้าฝ้าย จากชาวบ้านที่ จ.ขอนแก่น ก่อนนำมาพันจับจีบและติดโบว์เพิ่มความสวยงาม และโพสต์ในโซเชียล
ซึ่งก็มีลูกค้าสนใจสั่งเข้ามาเป็นของขวัญมอบให้ผู้ใหญ่ ยิ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลวันแม่ที่ดอกมะลิเพิ่มราคาสูง พวงมาลัยกรจากผ้าขาวม้าเป็นทางเลือกที่จะนำไปไหว้แม่ได้อย่างดี เพราะนอกจากจะมีราคาถูกแล้วยังสามารถนำไปใช้งานได้อีกด้วย
"ในวันแม่ลูกๆ นำพวงมาลัยผ้าขาวม้าไปไหว้แม่ และส่งต่อไปให้พ่อใช้ประโยชน์ ก็ทำให้มีความสุขทั้งครอบครัว รวมถึง ยังเป็นการวส่งเสริมรายได้ให้กับชุมชนที่ผลิตผ้าขาวม้าอีกด้วย" น.ส.สุวิมล กล่าว
สำรับราคาของพวงมาลัยผ้าขาวม้าก้ำไม่แพง อยู่ที่ราคา 180 บาททุกแบบ ซึ่งหากท่านใดสนใจสามารถโทรไปสอบถามน้องสุ ได้ที่หมายเลข 092-9956416 ซึ่งน้องสุบอกว่าสามารถส่งให้ได้ทั่วไทย