สัญญาณดี! สำรวจพบ "พะยูน" ตรัง เริงร่า รวมฝูง 20 ตัว บริเวณหาดหยงหลำ-เกาะมุกด์

12 กรกฎาคม 2567 เพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 3 จ.ตรัง" ได้เผยแพร่ข้อมูลพร้อมภาพ ระบุ ระหว่างวันที่ 5-10 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกับ อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้สำรวจติดตามในโครงการสำรวจและศึกษาพฤติกรรมพะยูนในพื้นที่แหล่งหญ้าทะเลหาดหยงหลำ-เกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรัง เเละเเนวเชื่อมต่อของพะยูน บริเวณอุทยานเเห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง 

เบื้องต้น จากการสำรวจตลอดระยะเวลา 6 วัน พบพะยูน จำนวน 20 ตัว โดยมีคู่แม่-ลูก 1 คู่ พบพะยูนช่วงวัยรุ่นและพะยูนโตเต็มวัย ทั้งนี้ ในการสำรวจสังเกตเห็นพฤติกรรมการนอน การกิน การเล่นน้ำพักผ่อน การรวมฝูง การหากินเป็นฝูง การเลี้ยงลูก เเละการพลิกตัวไปมาระหว่างพะยูน 2 ตัว คาดว่าเป็นพฤติกรรมการผสมพันธุ์ 


นอกจากนี้ ทีมสำรวจยังได้ได้ทำการสำรวจหญ้าทะเลเพิ่มเติม บริเวณเเหล่งหญ้าทะเลหาดหยงหลำ-เกาะมุกด์ อ.กันตัง จ.ตรัง เเละเเนวเชื่อมต่อ โดยในเบื้องต้นพบหญ้าทะเลจำนวน 6 ชนิด ซึ่งมีชนิดเด่น 2 ชนิด ได้แก่ หญ้าใบมะกรูด (Halophila ovalis) และหญ้าชะเงาเต่า(Thalassia hemprichii) โดยข้อมูลจากการสำรวจที่ได้จะนำไปวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การสำหรับพบพฤติกรรมของฝูงพะยูนดังกล่าว นับเป็นเรื่องน่ายินดี สะท้อนสัญญาณการฟื้นตัวของระบบนิเวศ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เกิดวิกฤตโลกร้อน น้ำทะเลมีอุณหภูมิสูงขึ้น เกิดวิกฤตปะการังฟอกขาว โดยเฉพาะวิกฤตหญ้าทะเลเสื่อมโทรมในพื้นที่ จ.ตรัง แหล่งอาศัยของพะยูนฝูงใหญ่ฝูงสุดท้ายของประเทศไทย จนส่งผลให้พะยูนเกิดการอพยพเคลื่อนย้ายไปหาแหล่งหญ้าทะเลแหล่งใหม่กระจัดกระจายตัวไปทั่วทะเลอันดามันโดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต จนปรากฏข่าวพะยูนตายจากอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากเครื่องมือประมง และการเดินเรือ เนื่องจากบริเวณเส้นทางดังกล่าว ยังไม่มีการวางแผนคุ้มครองพะยูน ทำให้พะยูนต้องเสี่ยงชีวิต และท้าทายการทำงานของฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดูแลอนุรักษ์พะยูน 


โดยการสำรวจพบพฤติกรรมพะยูนฝูงในครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบการรวมฝูงใหญ่เป็นครั้งที่ 2 หลังจากในการสำรวจก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา 2567 โดยใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน บริเวณท่าเทียบเรือเกาะมุกด์ ในเขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้พบฝูงพะยูนเข้ามาใช้ประโยชน์ในพื้นที่บริเวณด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะมุกด์ จำนวน 25-30 ตัว โดยในครั้งนั้นถือเป็นจำนวนที่มากที่สุด ตั้งแต่ทำการสำรวจมาหลังเกิดวิกฤตพะยูนและหญ้าทะเลใน จ.ตรัง จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อเนื่อง



ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก :
ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเล ที่ 3 จ.ตรัง 
อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม