
เป็นเรื่องราวที่สร้างความตกใจ และหวาดวิตกให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อย กรณีข่าวการแพร่ระบาด "โรคแบคทีเรียกินเนื้อคน" หรือ "โรคเนื้อเน่า" ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย "สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ" ในประเทศญี่ปุ่น เพิ่มสูงถึง 517 ราย ที่ทางการญี่ปุ่นกำลังสืบหาสาเหตุของการเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด 19 ร่วมกับอาจมีสาเหตุอื่น ๆ ร่วมด้วย
โดยในส่วนของประเทศไทย กรมควบคุมโรค ยังคงติดตามสถานการณ์โรคติดเชื้อ "สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ" ในญี่ปุ่นนี้ อย่างต่อเนื่อง ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก แนะนำประชาชน ถ้ามีไข้ เจ็บคอ ร่วมกับมีผื่นสากนูน หรือตุ่มหนองที่ผิวหนัง หรือปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก ควรรีบไปพบแพทย์ (โดยเฉพาะถ้าหลังกลับจากต่างประเทศ ภายในช่วง 1 สัปดาห์แรก) เพื่อรับการวินิจฉัย รักษา และแยกโรคอย่างถูกต้อง
ล่าสุด ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan หัวข้อ แบคทีเรียกินเนื้อ ระบุว่า
แบคทีเรียกินเนื้อ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด ไม่ใช่โรคใหม่ ส่วนใหญ่เกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ กินยากดภูมิต้านทาน หรือมีโรคที่ทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
ที่มีข่าวกันมากขณะนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Streptococcus group A เป็นแบคทีเรียที่เกิดโรคได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในคนที่แข็งแรงดีก็จะไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โต สามารถรักษาได้ แต่ถ้าภูมิต้านทานต่ำ และการติดเชื้อที่ผิวหนังก็จะทำให้ลุกลามอย่างรวดเร็วได้ อย่างที่เป็นข่าวในประเทศญี่ปุ่น ในประเทศไทยก็พบได้ แต่ไม่ได้มากมายและสามารถรักษาได้ มียาปฏิชีวนะที่รักษาเชื้อดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีแบคทีเรียอย่างอื่นอีกหลายชนิดที่อาจจะรุกลามอย่างรวดเร็ว เช่น Clostridium perfringens ทำให้เกิด Gas gangrene ผมเคยเห็นคนไข้แล้ว น่ากลัวมาก ใครสนใจค้นดูรูปจาก Google คงไม่ยาก
แต่ที่อยากให้เห็นวันนี้ ทีมของผมรายงานผู้ป่วยที่เกิดการอักเสบของแบคทีเรียจะเรียกว่ากินเนื้อก็ได้ ที่เกิดจากแบคทีเรียที่อยู่ในน้ำทะเล โดยทั่วไปจะเป็น Shewanella algae
แต่รายงานนี้เป็นรายงานแรกที่ผมได้รายงานเป็นภาษาอังกฤษ ที่เกิดจากเชื้อ Shewanella haliotis ในผู้ป่วยที่กินยากดภูมิต้านทาน
แบคทีเรียตัวนี้ที่พบครั้งแรกพบในหอยเป๋าฮื้อ ทีมของเราได้ เผยแพร่ในในวารสาร EID โดยรอยโรคการติดเชื้อเกิดที่ขาเป็นภาพที่ไม่น่าดูเลย จึงต้องขอ เบลอภาพดังกล่าว
ทั้งนี้เคยมีบทความเตือนถึงการเฝ้าระวัง แบคทีเรียกินเนื้อ ถูกตีพิมพ์เผยแพร่ใน The Academic Journal Scientific Report ซึ่งเผยว่าปีนี้ให้เฝ้าระวังแบคทีเรียกินเนื้อมีชื่อว่า Vibrio Vulnificus ซึ่งกำลังเพิ่มปริมาณมากขึ้นในทะเล จากสภาวะโลกร้อนที่ทำให้น้ำทะเลอุณหภูมิสูงขึ้น
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยเยล ยังออกโรงเตือนอีกว่า หากมีบาดแผลไม่ควรเล่นน้ำทะเลเนื่องจากแบคทีเรียกินเนื้อจะสามารถเข้าไปส่งผลเกิดการติดเชื้อ ทำให้เกิดโรคแบคทีเรียกินเนื้อ (flesh-eating disease หรือ necrotizing fasciitis) ซึ่งเป็นโรคเนื้อเน่าเป็นภาวะติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณเนื้อเยื่ออ่อนที่อาจส่งผลให้ผิวหนังและกล้ามเนื้อถูกทำลายได้ ผู้ป่วยอาจมีอาการร้อนบริเวณผิวหนัง ผิวเปลี่ยนเป็นสีแดง รู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลซึ่งจะรู้สึกปวดมาก
เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวนางแบบสาวชาวอเมริกัน เป็นแผลเล็กๆ ที่ขาลงเล่นน้ำทะเลเกิดอาการติดเชื้อ ช็อก มีภาวะไตวายและต้องตัดขาทิ้ง หมอชี้เป็น โรคเนื้อตายหรือ แบคทีเรียกินเนื้อ (necrotizing fasciitis) และจากรายงานพบผู้ป่วยจากแบคทีเรียกินเนื้อในประเทศสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ปีที่ผ่านมามีผู้ที่ติดเชื้อจากแบคทีเรียกินเนื้อแล้ว 5 ราย จากการเล่นน้ำในอ่าวเม็กซิโกซึ่งมีอุณหภูมิสูงขึ้น มีผู้รอดชีวิตเป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปีได้รับแบคทีเรียกินเนื้อหลังจากเล่นน้ำในอ่าวเดสติน รัฐฟลอริดา มีอาการปวดขามาก และตรวจพบว่าติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อที่บริเวณเข่า การรักษาต้องใช้เวลานานหลายเดือนกว่าจะกลับมาเดินได้อีกครั้ง
นอกจากนี้ มนุษย์เรายังสามารถติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อได้จากการน้ำดื่ม หรือจับสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็งซึ่งอยู่ในน้ำ ที่อาจมีแบคทีเรียปนเปื้อนได้ เช่น หอยนางรมดิบ ปูทะเลดิบ และอาจติดเชื้อโดยเข้าทางแผล จากผู้ที่มีบาดแผลเมื่อเล่นน้ำทะเล รวมทั้งผู้มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งการติดเชื้อจากแบคทีเรียนี้ทำให้เกิดอาการปวด คลื่นไส้ และมีอาการเหมือนเป็นหวัด และทำลายร่างกายอย่างรวดเร็ว
ขอบคุณภาพและข้อมูล : FB Sonthi Kotchawat
FB : Yong Poovorawan