svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เพื่อนบ้าน "ครอบครองปรปักษ์" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

26 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คดี "ครอบครองปรปักษ์" เพื่อนบ้านยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาคดีบุกรุก เจอโทษจำคุก 5 ปีหรือไม่ Nation STORY จะพาไปย้อนดูคดีดังคดีนี้ มีจุดเริ่มต้นอย่างไร เกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วจะจบจริง ๆ เมื่อไหร่

เกือบจะจบจริง ๆ แล้ว สำหรับคดีที่เพื่อนบ้าน "ครอบครองปรปักษ์" ด้วยการบุกเข้ายึดบ้านหลังหนึ่ง ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซอยรามอินทรา 58  ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้กว่า 30 ปี เป็นบ้านของตัวเอง หรือ "คดีบ้านอากู๋"

สิ่งที่สร้างความฮือฮาให้สังคมวิพากษ์วิจารณ์คือ การที่ฝ่ายบุกรุกยื่นฟ้อง "ครอบครองโดยปรปักษ์" จนนำสู่เรื่องราวต่าง ๆ มากมาย ทั้งการต่อสู้ทางกฎหมาย และเรื่องเศร้า 

ในส่วนของการฟ้อง "ครอบครองโดยปรปักษ์" ที่สุดแล้ว หลังการต่อสู้กันทางคดี เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ศาลแพ่งมีนบุรี มีคำสั่งอนุญาตให้ "ศรีพรรณ" เพื่อนบ้านที่บุกรุก ถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ "บ้านอากู๋" ได้ 

คดีการฟ้องครอบครองปรปักษ์ จึงถือว่า "จบลง" เหลือเพียงในส่วนคดีบุกรุก และการเจรจาค่าเสียหาย ที่ศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 25 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา 

ล่าสุด ในส่วนของคดีการบุกรุก และการเจรจาค่าเสียหาย มีความคืบหน้า เมื่อคู่กรณีทั้งหมดยอมรับสารภาพ และเจรจาเรื่องค่าเสียหายที่ 1 ล้านบาท โดยจะทยอยจ่ายให้กับทางเจ้าของบ้าน ส่วนคดีบุกศาลนัดพิพากษา วันที่ 7 พ.ค. 67 นี้

Nation STORY จึงจะขอสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้ง คดีนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้างอย่างไร และจะจบได้อย่างสมบูรณ์จริง ๆ เมื่อใด....
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

 

คดีการฟ้อง "ครอบครองปรปักษ์" หรือคดี "บ้านอากู๋" เริ่มมาจากข่าวที่ "อาย" และ "ซัน" คู่รักกำลังจะแต่งงานกัน แล้วอากู๋เหม ยกบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ซอยรามอินทรา 58 ที่ซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2534 ให้เป็นของขวัญแต่งงาน

ต่อมาเมื่อ 31 สิงหาคม 2566 ทั้งคู่เดินทางไปดูบ้าน หวังจะรีโนเวทเป็นเรือนหอ แต่กลับพบว่า เพื่อนบ้านได้บุกรุกเข้าไปต่อเติม และยึดบ้านเป็นของตัวเอง โดยอ้างว่า อยากซื้อบ้านหลังนี้มานาน แต่ไม่สามารถติดต่อเจ้าของบ้านได้ ว่าที่บ่าวสาว จึงนำเรื่องไปร้อง ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ จนกลายเป็นข่าวใหญ่พอสมควร

กระทั่ง 17 กันยายน 2566 เพื่อนบ้านที่บุกรุกได้ย้ายของออก แต่ขอเรียกเก็บค่าต่อเติมทั้งหน้าบ้านหลัง  ทางเจ้าของบ้าน จึงนำกุญแจมาล็อกบ้านทั้งหลังไว้ และได้แจ้งความดำเนินคดี กับผู้บุกรุกจำนวน 5 ราย ไว้ที่ สน.โคกคราม 3 ข้อหา คือบุกรุก ลักทรัพย์ ทำให้เสียทรัพย์ มีการนัดเจรจาค่าเสียหายกัน ในช่วงเดือนตุลาคม 2566 แต่ตกลงกันไม่ได้ 
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก
 

ต่อมาวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 น.ส.ศรีพรรณ หนึ่งในคู่กรณี ได้ยื่นฟ้องแพ่งที่ศาลแพ่งมีนบุรี อ้างกรรมสิทธิ์ "ครอบครองปรปักษ์" พร้อมกลับมาเปิดร้านอาหารอีกครั้ง และมีหมายศาลส่งมาที่บ้านของ "ซัน หลานอากู๋" ในวันที่ 6 มกราคม 2567 
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 29 มกราคม 2567 "อาย" และ "ซัน" ได้ยื่นค้านในคดีแพ่ง พร้อมกับเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง คิดเป็นค่าเช่าเดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปี รวมถึงแจ้งความเอาผิด น.ส.ศรีพรรณ ในคดีอาญาข้อหาบุกรุก

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 "อาย" และ "ซัน" เจ้าของบ้านผู้เสียหาย เข้าปรึกษากับ "ทนายเดชา" อีกครั้ง หลังกลับเข้าดูบ้าน พบเพื่อนบ้านกลับมาอยู่ซ้ำเปิดร้านขายไก่ ภายในบ้านมีเครื่องครัว โต๊ะเก้าอี้ มีการติดป้ายอ้างได้สิทธิ์ครองครองปรปักษ์ทั้ง ๆ ที่คดีเก่ายังไม่จบ
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

นายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายความฝั่งเพื่อนบ้านคู่กรณี ระบุตามหลักกฎหมายครอบครองโดยปรปักษ์ จะต้องครอบครองโดยสงบเปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของ ซึ่งลูกความของตน ครอบครองโดยสงบ เปิดเผย และเจตนาเป็นเจ้าของ มาเกิน 10 ปี ซึ่งคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว นำมาสู่เสียงวิจารณ์อย่างหนักของสังคม 

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 น.ส.อำนวยพร มณีวรรณ์ หรือ "ทนายกุ้ง" พร้อมตำรวจ สน.โคกคราม และ "ซัน" เจ้าของบ้านตัวจริง เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ มีการตัดแม่กุญแจ ที่ล็อกบริเวณหน้าบ้าน เพื่อตรวจสอบสภาพภายในบ้าน ก่อนที่จะปลดป้ายไวนิลขายไก่ตะเกียบออก และนำป้ายไวนิลมีข้อความระบุว่า "พื้นที่ส่วนบุคคล ห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต หรือเข้ามากระทำการใดๆ ทั้งสิ้น หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย" มาติดแทน
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้นำตัว น.ส.ศรีพรรณ กับพวกรวม 5 คน ในคดีบุกรุกครอบครองบ้านบ้านอากู๋รอบแรก มาส่งสำนวนอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 มีความเห็นสั่งฟ้อง ในข้อหาบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ และลักทรัพย์

มี "ซัน" พร้อมทนายความ เดินทางมาพบพนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ด้วยเช่นกัน เพื่อยื่นหนังสือคำร้องคัดค้านการปล่อยชั่วคราว โดยให้เหตุผล กลุ่มผู้ต้องหาบุกรุกเข้ามาในบ้านของตนหลายครั้ง เพื่อมาครอบครองบ้าน และมีการฟ้องปรปักษ์ไว้ พฤติการณ์เหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย" โดยอัยการนัดฟังคำสั่งคดี วันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 09.00 น. 

วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ตำรวจ สน.คันนายาว ได้รับแจ้งพบผู้ผูกคอเสียชีวิตในบ้านพักย่านรามอินทรา ตรวจสอบคือ "น.ส.ภานุมาศ" หรือ "นุ" 1 ใน 5 ผู้ต้องหาคดีบุกรุกบ้านอากู๋รอบแรก เบื้องต้นคาดเกิดจากความเครียด หลังเกิดเหตุ ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางที่ สน.คันนายาว เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย  

ขณะที่ "ทนายกุ้ง" ก็ได้เดินทางมาที่ สน.คันนายาว เช่นกัน เพื่อสังเกตการณ์และรายงานให้ทางลูกความทราบ พร้อมยืนยัน ลูกความไม่ได้ใช้สื่อกดดันคู่กรณี 
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

ด้าน "ซัน" พร้อมทนายเดชา ได้ร่วมกันแถลงข่าว แสดงความเสียใจกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมเปิดเผยว่า คู่กรณีได้เข้ามาเจรจาเบื้องต้น คู่กรณีหลายรายติดต่อมาแสดงความสำนึกผิด รับสารภาพทุกอย่าง ยินดีที่จะรับผิดชอบกับค่าเสียหายทั้งหมด และจะถอนฟ้องคดีครอบครองปรปักษ์ เพราะผู้ร้องคือ "ศรีพรรณ" เป็นพี่สาวผู้ตาย
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ที่งานศพของ น.ส.ภาณุมาศ ที่วัดบางเตย "น.ส.ศรีพรรณ" ผู้ยื่นฟ้องครอบครองปรปักษ์ เปิดใจว่า ยินดีถอนฟ้องครอบครองปรปักษ์ให้ พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษ "อากู๋เหม" เจ้าของบ้าน ที่ทำให้เรื่องราวบานปลาย โดยขอเคลียร์เรื่องน้องสาวให้จบก่อน
น.ส.ศรีพรรณ" ผู้ยื่นฟ้องครอบครองปรปักษ์

ด้าน "นายวัฒนา เรืองแก้ว" ทนายความ "น.ส.ศรีพรรณ" ระบุว่า คดีครอบครองปรปักษ์ที่ น.ส.ศรีพรรณ เป็นผู้ยื่นฟ้องนั้น ยังอยู่ในชั้นศาล หากเจ้าตัวประสงค์ถอนฟ้อง ก็สามารถทำได้ รวมถึงยินดีหากลูกความจะเปลี่ยนตัวทนาย ตามเงื่อนไขของคู่กรณี
"นายวัฒนา เรืองแก้ว" ทนายความ "น.ส.ศรีพรรณ"

วันที่ 1 มีนาคม 2567 "ทนายเดชา" โพสต์คดีครอบครองปรปักษ์บ้านอากู๋ คู่กรณี "น.ส.ศรีพรรณ" ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์แล้ว โดยการถอนคำร้องดังกล่าว เพื่อต้องการระงับและลดข้อพิพาท รวมทั้งปัญหาความขัดแย้ง จากความเห็นต่างๆ ในสังคม ที่ได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา


วันที่ 6 มีนาคม 2567 อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญามีนบุรี 1 ศาลนัดฟังคำสั่งคดีบุกรุกบ้านอากู๋รอบแรก กับผู้ต้องหาที่เหลืออยู่ 4 ราย ในความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์ ลักทรัพย์ ส่วน "น.ส.ภาณุมาศ" ผู้ต้องหาที่เสียชีวิต ได้ถูกจำหน่ายคดีออกไป โดยอัยการสั่งฟ้อง 3 ข้อหา พร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลทันที ก่อนจะมีการขอประกันตัวออกไป

"ทนายกุ้ง" ทนายความเจ้าของบ้าน เผยว่า จนถึงตอนนี้ คู่กรณีรวมถึงทนายความ ยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาพูดคุยกับลูกความอย่างเป็นทางการ แม้ที่ผ่านมาจะแสดงความประสงค์ที่เจรจา โดยลูกความจะเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นเป็นเงิน 3 แสนบาท และเรียกเก็บค่าเช่า เดือนละ 20,000 บาท ย้อนหลัง 6 ปีตามที่มีหลักฐาน

ส่วนสำนวนคดีที่ 2  ที่มีการแจ้งความ "น.ส.ศรีพรรณ" ในคดีบุกรุกนั้น พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ยังคงสอบสวนอยู่ และในส่วนคดีฟ้องครอบครองปรปักษ์ที่ "น.ส.ศรีพรรณ" ยื่นคำร้องต่อศาล เพื่อถอนการฟ้องนั้น ศาลนัดฟังคำสั่งศาลอีกครั้งวันที่ 18 มีนาคม 2567
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 18 มีนาคม 2567 ศาลแพ่งมีนบุรี มีคำสั่งอนุญาตให้ "น.ส.ศรีพรรณ" ถอนคำร้องครอบครองปรปักษ์ ซึ่งภายหลังการฟังคำสั่งศาล ทั้ง "อากู๋เหม" และ "น.ส.ศรีพรรณ" ต่างได้เดินทางกลับไปทันที 

"ทนายกุ้ง" ทนายเจ้าของบ้านตัวจริง เผยว่า วันนี้ "อากู๋เหม" ได้พบกับคู่กรณีด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก โดย "น.ส.ศรีพรรณ" ยืนยันว่า จะขนย้ายทรัพย์สินทั้งหมดออกไปจากบ้าน และจะไม่มาบุกรุกและฟ้องครอบครองปรปักษ์อีก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยถึงการชดเชยค่าเสียหาย จึงมีนัดคุ้มครองสิทธิ์วันที่ 25 มีนาคม 2567 นี้ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยกันอีกครั้ง
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 18 มีนาคม 2567 เวลา 16.20 น. "ซัน" พร้อม "ทนายกุ้ง" เดินทางจากศาลมีนบุรี เพื่อนำกุญแจมาเปิดประตูรั้วบ้าน ในซอยรามอินทรา 58 ที่ถูกบุกรุก ให้ "น.ส.ศรีพรรณ" คู่กรณีได้ขนย้ายสิ่งของภายในบ้านออกไป โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงขนของออกมาหมด
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

"ทนายกุ้ง" กล่าวว่า หลังฟังคำสั่งศาลเสร็จสิ้น คู่กรณียินยอมถอนฟ้อง "ครอบครองปรปักษ์" คดีนี้จึงจบสิ้นไป ก่อนจะส่งมอบบ้านเป็นครั้งที่ 2 หลังจากส่งมอบครั้งแรก แล้วกลับมาบุกรุกอีกครั้ง แต่คดียังไม่หมดสิ้น ยังคงเหลือการชดเชยเยียวยาเงินค่าเสียหาย ที่มีนัดไกล่เกลี่ยวันที่ 25 มีนาคม 2567 นี้

ขณะที่ "ซัน" ระบุว่า ตอนนี้ก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาแล้ว จากนี้จะติดต่อช่าง เข้ามาซ่อมแซมบ้าน ก่อนปล่อยให้เช่า เพราะก่อนหน้านี้เคยมีผู้ติดต่อเข้ามาขอเช่าแล้ว แต่ก็ยกเลิกไป เพราะคดีความยังไม่จบ
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก

วันที่ 26 มี.ค. 2567 ทนายความของ "ซัน" หลานอากู๋ เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ทางคู่กรณีขอผ่อนจ่ายเป็น 3 งวด โดยวันนี้จ่ายทันที 1 แสนบาท อีก 4 แสนบาท จะจ่ายภายในสิ้นเดือน มี.ค. และอีก 5 แสนบาทสุดท้าย จะจ่ายในวันที่ 7 พ.ค. 67 นี้ ซึ่งเป็นวันที่ศาลนัดพิพากษา ในส่วนของคดีอาญากรณีบุกรุก เป็นคดีที่มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี

จึงต้องคอยดูว่า ศาลจะมีคำพิพากษาอย่างไร โดยศาลสั่งสืบเสาะพฤติกรรมของจำเลยก่อน และดูว่าจำเลยได้เยียวยาให้กับผู้เสียหายมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ศาลยังได้มีคำสั่งห้าม 4 เพื่อนบ้าน เข้ามาข้องเกี่ยวกับบ้านหลังนี้อีก 

ทั้งนี้ ทนายความ เผยด้วยว่า การเจรจาในวันนี้ เป็นการเจรจาผ่านตัวกลาง ไม่ได้พูดคุยกันโดยตรง แต่ทางผู้ต้องหาทั้งหมดก็ขอโทษอากู๋ด้วย โดยในจำนวนเงิน 1 ล้านบาท เป็นการคำนวณยอดที่รวมค่าเช่าและค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น ซึ่งทางอากู๋ตกลงยอมลดให้ ด้วยความเมตตา
เพื่อนบ้าน \"ครอบครองปรปักษ์\" ยอมจ่ายค่าเสียหาย 1 ล้าน ลุ้นศาลพิพากษาบุกรุก
 

logoline