svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต

22 มี.ค. ของทุกปี เป็นวันน้ำโลก ชวนร่วมตระหนักอนุรักษ์น้ำ โดยปีนี้ธีมการจัดงานคือ "น้ำเพื่อสันติภาพ" เพื่อกระตุ้นสร้างความตื่นตัวถึงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำจืด มลพิษทางน้ำ สุขอนามัย และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจทำให้เกิดภาวะแย่งชิงทรัพยากรน้ำในอนาคต

หลายคนอาจเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "น้ำคือชีวิต" ซึ่งคงไม่ผิดนัก เพราะ "น้ำ" เป็นแหล่งกำเนิดชีวิตของสัตว์และพืช อีกทั้งคนเรามีชีวิตอยู่โดยขาดน้ำได้ไม่เกิน 3 วัน นอกจากนี้ น้ำยังมีความจำเป็นทั้งในภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม รวมทั้งสาธารณูปโภค ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ 

สำหรับโลกของเราประกอบด้วยพื้นดินและพื้นน้ำ โดยมีส่วนที่เป็นพื้นน้ำมีอยู่ประมาณ 3 ส่วน หรือร้อยละ 75 ที่เหลือเป็นพื้นดิน 1 ส่วน หรือร้อยละ 25 น้ำจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อทั้งมนุษย์ สัตว์ และพืชพันธุ์ต่างๆ

"วันน้ำโลก" มีที่มาอย่างไร
22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต

วันน้ำโลก จัดขึ้นโดยมีที่มาเนื่องจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ตระหนักถึงปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจก่อให้เกิดปัญหาการแย่งชิงน้ำขึ้นได้ในอนาคต ดังนั้น ในปี ค.ศ.1992 สมัชชาสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเป็นวันน้ำโลก เพื่อย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของน้ำ ซึ่งเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวในหมู่มวลมนุษยชาติ ในเรื่องการอนุรักษ์น้ำ และการพัฒนาแหล่งน้ำ

"น้ำเพื่อสันติภาพ" ธีมวันน้ำโลก 2024

22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต
สำหรับปี 2567 นี้ ทางองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดประเด็นรณรงค์ว่า "Water for Peace" หรือ "น้ำเพื่อสันติภาพ" เพื่อกระตุ้นสร้างความตื่นตัวถึงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำจืด มลพิษทางน้ำ สุขอนามัย และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่อาจทำให้เกิดภาวะแย่งชิงทรัพยากรน้ำในอนาคต รวมถึงส่งเสริมให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ให้น้ำสะอาดสร้างสุขภาพที่ดีให้กับประชาชนและสังคม
22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต
ในส่วนของประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะหน่วยงานรัฐบาลที่มีบทบาทหลักในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ จึงได้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรม "วันน้ำโลก" ในนามรัฐบาลไทยพร้อมกับนานาประเทศทั่วโลก ในวันที่ 22 มี.ค. ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 1 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ กรุงเทพฯ ภายในงานจะมีการฉายวิดีทัศน์การแถลงสารจากนายกรัฐมนตรี เพื่อประกาศนโยบายและเจตนารมณ์ในการสร้างสันติภาพด้านน้ำให้เกิดขึ้นในแผ่นดินไทยและขยายผลสู่ประชาคมโลก โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน
22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต
วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้และประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนรุ่นใหม่วัยทำงานให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับรู้ และมีบทบาทในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง กระตุ้นเตือนทุกภาคส่วนในสังคมให้ตื่นตัวถึงปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรน้ำจืด และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากภาวะโลกร้อน เข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า "โลกเดือด" หรือ Global Boling จนอาจทำให้เกิดภาวะแย่งชิงทรัพยากรน้ำในอนาคต

นอกจากนี้ ในงานยังมีนิทรรศการหัวข้อต่างๆ รวมถึง การเสวนาในหัวข้อ "Leveraging Water for Peace" โดยมีผู้ร่วมเสวนาจะมาพูดถึงมุมมองและประสบการณ์ด้านการจัดการน้ำที่เกิดจากความร่วมมือภาคส่วนต่างๆ 
22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต
กปน. ชวนทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ 

เนื่องในวันน้ำโลกปีนี้ ทางการประปานครหลวง หรือ กปน. ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก การประปานครหลวง กปน. (Metropolitan Waterworks Authority - MWA) เชิญชวนทุกคนมาร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ เพื่อให้เราทุกคนมีน้ำสะอาดใช้อย่างยั่งยืน ซึ่งวิธีประหยัดน้ำง่าย ๆ ที่เราสามารถทำได้ โดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำ เช่น

  • รองน้ำใส่ถังเพื่อล้างรถ 
  • ปิดน้ำระหว่างถูสบู่และสระผม 
  • หมั่นตรวจระบบประปาภายในบ้าน หากพบรอยรั่วควรรีบซ่อมแซมทันที 
  • เปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่มีฉลากประหยัดน้ำของ กปน. เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เราจะได้ร่วมมือกันใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า

22 มีนาคม "วันน้ำโลก" ชวนตระหนักรักษ์น้ำ ทรัพยากรสำคัญต่อการดำรงชีวิต
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรับชมกิจกรรม "วันน้ำโลก" ที่ สทนช. เป็นเจ้าภาพ ได้จากการถ่ายทอดสดทาง Facebook Live ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ตั้งแต่เวลา 9.00 น. เป็นต้นไป


ขอบคุณข้อมูลจาก :
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
https://tna.mcot.net/agriculture-1338051
https://www.mnre.go.th/th/news/detail/178581
https://www.facebook.com/MWAthailand