svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ยิ่งลักษณ์-อุ๊งอิ๊งค์"เคลื่อนไหวปลุกพลังสู้คืนศักดิ์ศรี “วันสตรีสากล”

08 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“ยิ่งลักษณ์-อุ๊งอิ๊งค์” ขยับปลุกพลังหญิง “วันสตรีสากล” ต้องกล้าลุกขึ้นต่อสู้เพื่อคืนศักดิ์ศรี หนุนสตรีสู่เวทีการเมือง ขณะที่“กลุ่มแรงงานหญิง” บุกทำเนียบยื่นหนังสือเรียกร้องเพิ่มวันลาคลอด

8 มีนาคม 2567  วันนี้ซึ่งถูกกำหนดให้เป็น “วันสตรีสากล” จึงเห็นกลุ่มสตรีออกมาเคลื่อนไหนทำกิจกรรมกันในวันนี้ อาทิ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra ในโอกาสวันที่ 8 มีนาคม ของทุกปีตรงกับวันสตรีสากล โดยระบุว่า

ดิฉันอ่านเจอข้อมูลตัวเลขของ UNODC และ สสส. ที่ระบุว่า จำนวนผู้หญิงไทยถูกคนในครอบครัวใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย จิตใจ และทางเพศ โดย 87.4% ไม่เคยขอความช่วยเหลือ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนเคสผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรง สูงถึง 30,000 เคสต่อปี นี่คือปัญหาที่ยังไม่หมด และต้องได้รับการแก้ไขค่ะ

สิทธิสตรี คือ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เราทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ทุกคน คือคนเท่ากัน ดังนั้น ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ดิฉันรู้ถึงบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันของผู้หญิง บางคนเป็นแม่ บางคนเป็นลูกสาว เป็นพี่สาว เป็นน้องสาว แต่ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ‘สิทธิ’ ที่ควรได้รับต้องไม่แตกต่างกันค่ะ

 

เนื่องในวันสตรีสากล ดิฉันขอให้ผู้หญิงทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่า และศักยภาพของตัวเราเอง และขอส่งกำลังใจให้ทุกคน กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคืนศักดิ์ศรีให้ตัวเองในทุกกรณี และเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะช่วยเหลือให้ผู้หญิงที่กล้ายืนหยัดได้มีหนทางในการช่วยเหลือตัวเองต่อไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งก่อนหน้านี้ภายใต้รัฐบาลของดิฉัน เคยมีการก่อตั้ง "OSCC" One Stop Crisis Center หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อให้การช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการขึ้นเพื่อรองรับตรงนี้ โดยทำงานบูรณาการการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาเพื่อสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของ กระทรวงสาธารณสุข วันนี้ดิฉันยังเห็นการทำงานของศูนย์ฯนี้ ดิฉันหวังว่า จะเป็นทางสายเล็กๆที่ขยายเป็นทางสายใหญ่ให้ผู้หญิงทุกคนเดินต่อไป เหมือนเช่นเดิมที่ได้ก่อตั้งไว้

สุดท้าย ดิฉันยังเชื่อเสมอว่า หากเรามองเห็นคุณค่าในตัวเอง เราจะไม่มีวันยอมให้ใครมาลดทอนคุณค่าของเรา Happy International Women’s Day 

\"ยิ่งลักษณ์-อุ๊งอิ๊งค์\"เคลื่อนไหวปลุกพลังสู้คืนศักดิ์ศรี “วันสตรีสากล” “อุ๊งอิ๊งค์”ชูผลักดันผู้หญิงในสนามการเมือง

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ร่วมเวทีแสดงวิสัยทัศน์เนื่องในวันสตรีสากล ณ UNESCAP องค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย พร้อมด้วยตัวแทนผู้หญิงจากพรรคเพื่อไทย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี , น.ส.จิราพร สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย , น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

การปรากฎตัวบนเวที UNESCAP นี้ ถือเป็นการส่งเสียงจาก ‘ผู้นำหญิง’ ในสนามการเมือง นำทัพพรรคเพื่อไทยทั้งการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อปี 2566 ปัจจุบันคือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สถาบันการเมืองที่ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ของผู้ชาย

น.ส.แพทองธาร ยืนยันว่าผู้หญิงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ เรามีผู้นำหญิงมากมายทั้งในภาครัฐและเอกชน อย่างไรก็ตาม แม้ผู้หญิงจะมีบทบาทในการขับเคลื่อนประเทศและประเทศไทยเคยมีนายกรัฐมนตรีที่เป็นผู้หญิงมาแล้ว แต่การผลักดันผู้หญิงให้เข้ามามีส่วนร่วมในแวดวงการเมืองยังเป็นเรื่องสำคัญของประเทศไทย ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อัตราส่วนของ สส. หญิง มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากอดีต แต่ก็ยังถือว่าต่ำกว่ามาตรฐานของสภาทั่วโลก โดยพรรคเพื่อไทยถือเป็นพรรคการเมืองที่มีสัดส่วนนักการเมืองผู้หญิงมากที่สุดในประเทศไทย

น.ส.แพทองธารย้ำว่า ที่ผ่านมาการทำงานของพรรคเพื่อไทยเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงได้มีส่วนร่วมทางการเมืองให้มากขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนวิธีคิดที่สังคมมีต่อผู้หญิง (empowerment) ให้โอกาสผู้หญิง และผลักดันนโยบายเพื่อลดอุปสรรคทางเพศ และพรรคเพื่อไทยไม่ได้ผลักดันเพียงเพศใดเพศหนึ่ง แต่คำนึงถึงความสามารถ ความเป็นไปได้ และความพร้อมของบุคลากรเป็นหลัก โดยไม่ได้มีข้อจำกัดทางเพศ

นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ได้พูดถึงแนวทางนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่พร้อมสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพของผู้หญิงไทยไม่ว่าจะเป็น นโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก การส่งเสริมและพัฒนาการคุ้มครองสวัสดิภาพเพื่อปกป้องและเยียวยาเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว นโยบายหนึ่งครอบครัว หนึ่งศักยภาพซอฟต์พาวเวอร์ (One Family one Soft Power) และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และย้ำถึงประเด็นที่ยังต้องผลักดันเพื่อลดช่องว่างระหว่างเพศกันต่อไป ทั้งการขยายวันลาคลอด สิทธิ์ในการเข้าถึงผ้าอนามัย สวัสดิการเด็กแรกเกิด และประเด็นอื่น ๆ ที่ต้องต่อสู้กับค่านิยมและมายาคติในสังคม โดยอาศัยเวลาและเชื่อมั่นจากประวัติศาตร์ที่ผ่านว่าทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้

“พรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำรัฐบาล เราเชื่อว่า เศรษฐกิจที่ดีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ทำให้ทุกเพศทุกคนเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจ จะเป็นการแก้ปัญหาเรื่องความเท่าเทียมในระยะยาวได้มากที่สุดค่ะ เพราะการเข้าถึงโอกาสทางเศรษฐกิจเป็นอำนาจที่สำคัญที่สุด” น.ส.แพทองธาร กล่าว

\"ยิ่งลักษณ์-อุ๊งอิ๊งค์\"เคลื่อนไหวปลุกพลังสู้คืนศักดิ์ศรี “วันสตรีสากล”

“กลุ่มแรงงานหญิง” ยื่นหนังสือ “วันสตรีสากล” เรียกร้องเพิ่มสวัสดิการ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของ “กลุ่มแรงงานหญิงนัดรวมตัวยื่นหนังสือ เนื่องในวันสตรีสากล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปกป้องคุ้มครองไม่ให้ผู้หญิง เด็ก บุคคลในครอบครัว และบุคคลหลากหลายทางเพศ ถูกกระทำรุนแรงหรือปฏิบัติไม่เป็นธรรม ประกอบด้วย

  • ให้รัฐบาลต้องรับประกันสิทธิลาคลอด 180 วัน โดยได้รับค่าจ้างตลอดการลา และจัดวันหยุดให้คู่ชีวิตทุกเพศลาเพื่อเลี้ยงลูกได้อย่างน้อย 30 วัน รวมถึงจัดให้มีสวัสดิการแม่และเด็กอย่างเหมาะสมถ้วนหน้า
  • รัฐบาลและกระทรวงแรงงานต้องทำหน้าที่เป็น "หลักประกัน" สิทธิแรงงานของแรงงานหญิงและแรงงาน ทุกเพศ ด้วยการกำกับดูแลอย่างเข้มงวดให้นายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
  • ยกเลิกนโยบาย กฎหมาย ธรรมเนียม ที่เลือกปฏิบัติต่อสตรีและผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การตรวจครรภ์ก่อนเข้าทำงาน, การตีตราผู้ต้องการยุติการตั้งครรภ์เป็นคนบาปหรืออาชญากร, การตีตราผู้ขายบริการทางเพศ
  • รัฐบาลและนายจ้างต้องเพิ่มสิทธิลาเมื่อมีประจำเดือน อย่างน้อยเดือนละ 2 วัน และเพิ่มวันลารับบริการอนามัยเจริญพันธุ์ทุกประเภท เช่น การยุติการตั้งครรภ์ การคุมกำเนิด การตรวจครรภ์การฝากครรภ์ และการข้ามเพศ
  • รัฐบาลและนายจ้างต้องอุดหนุนงบประมาณการแจกจ่ายผ้าอนามัยฟรี ขยายบริการยุติการตั้ง ครรภ์ที่ปลอดภัยและบริการอนามัยเจริญพันธุ์อื่นๆ และจัดให้มีห้องน้ำสาธารณะที่ถูก สุขลักษณะสำหรับแรงงานสตรี และแรงงานทุกเพศที่ทำงานบนท้องถนน

ทั้งนี้เรียกร้องให้รัฐบาลประกาศให้การอยู่ การยุติความรุนแรงทางเพศ เพศสภาพ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายตามกับที่ขายตามหลักสิทธิพื้นฐานมนุษยชน

ผิดหวังถูกกันไม่ให้เข้าใกล้ทำเนียบฯ

ด้าน น.ส.ติมาพร เจริญสุข ตัวแทนกลุ่มสหภาพแรงงานสตรี ระบุว่า ก่อนหน้านี้พรบ.เรื่องลาคลอดถูกบรรจุเข้าไปในสภาแล้ว ให้กลุ่มแรงงานมีหวัง ซึ่งไม่หวังที่จะได้วันหยุดถึง 180 วัน แต่ขอให้เป็นจุดเริ่มต้น ที่ไม่ใช่แค่ 98 วัน เพราะไม่เพียงพอต่อการเลี้ยงดูบุตร

ขณะที่ น.ส.ชนฐิตา ไกรศรีกุล ตัวแทนกลุ่มฯเราตระหนักในเรื่องของ คำจำกัดความที่กว้างขึ้น ของคำว่าวันสตรี วันนี้จึงรวมถึงข้อเรียกร้อง ของทั้งกลุ่มสตรีและของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ไว้ด้วยกัน พร้อมยอมรับว่ารู้สึกผิดหวัง ที่ถูกกันไว้ไม่ให้เข้าใกล้ทำเนียบรัฐบาล เนื่องจากมีการประสานงานมาอย่างถูกต้อง ซึ่งที่จริงแล้ว ข้อเรียกร้องในวันนี้เป็นสิทธิ์ที่กลุ่มแรงงานสตรีควรจะได้ แต่ท่าทีการรับมือของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น

 

logoline