
มันไม่ใช่เรื่อง "กะเทยตบกันเอามันส์" แต่มันคือ "การใช้ความุรนแรง" โดยมีผลประโชน์จากแมงดามีสีค่ะ #สุขุมวิท11 สำหรับเรา มันไม่ใช่เรืองขบขัน มันคือการแย่งชิงพื้นที่ เอาคืน เอารัดเอาเปรียบ อิทธิพล..ทับซ้อน..ภายใต้เศรษฐกิจ..กายใต้กฎหมายที่ยังเอื้อกับแมงดามีสีทั้งหลาย
นี่เป็นความเห็นจากผู้ใช้ X (ทวิตเตอร์)รายหนึ่ง แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ #วันกะเทยผ่านศึก ผ่านแฮชแท็ก #สุขุมวิท11 ที่ตอนนี้ได้รับความนิยมในไทย กว่า 2 ล้านโพสต์
ทั้งนี้ มีผู้ใช้ X อีกหลายคน เห็นด้วยกับข้อความประโยคข้างต้น โดยมองว่า เหตุผลที่ "Sex Worker" ไทย ต้องถูกกฎหมาย และมาเฟียประจำย่านต้องหมดไป เพราะคนไทยโดนเอาเปรียบ คนที่ทำงานในบาร์แถบสุขุมวิทมีคนไทยจริงๆ น้อยมาก (บาร์โฮสก็เหมือนกัน) เอาคนต่างชาติมาทำอยู่ได้ด้วยอิทธิพลมืด กลับมากดทับคนไทย แจ้งตำรวจก็ไม่ได้ เพราะโดนรวบหมด รัฐไทยต้องปกป้องพวกเขาได้แล้ว
อีกรายบอกว่า เขาเป็นกะเทย+Sex Worker สังคมมี Discrimination (การเลือกปฏิบัติ) อยู่แล้ว ทั้งมองว่าเป็นเพศที่สาม อิมเมจขำขัน ยกทีมมาตีกันตลกๆ แต่เบื้องหลังคือปัญหาเรื่อง Sex Worker ที่ปัจจุบันไม่ถูกกฏหมาย ไม่ได้รับความคุ้มครอง ธุรกิจเทาดำ มีส่วย มีมาเฟีย ต้องแก้ให้ถึงต้นตอ คือ Legalize Sex Worker ด้วย
ด้าน นายเบญจมินทร์ ปันสน อดีตผู้สมัคร สส.สุรินทร์ พรรคก้าวไกล โพสต์ผ่าน X ว่า สนับสนุน Sex Worker ถูกกฎหมาย เสนอให้รัฐออก พ.ร.บ.ค้าประเวณีและคุ้มครองผู้ให้บริการ เพื่อให้ได้รับการคุ้มครองการทำงานและมีอำนาจต่อรอง น่าจะเป็นการปิดช่องกดขี่แรงงาน ยุติการฟอกเงินของทุนสีเทา + สร้างรายได้เข้ารัฐในรูปแบบของภาษี และค่าธรรมเนียมใบอนุญาตได้อีกด้วย
ข้อเสนอต่อรัฐบาล Sex Worker ถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ มีการเชิญชวนร่วมลงชื่อยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ถูกมองว่าถูกนำมาใช้แสวงหาผลประโยชน์จากผู้มีอิทธิพล และการค้าแรงงานข้ามชาติ
ซึ่งภาคประชาชนนำโดยมูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ (SWING) ใช้สิทธิเข้าชื่อเสนอกฎหมาย และอธิบายว่า หากยกเลิก พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ จะส่งผลต่อพนักงานบริการอย่างไรบ้าง
การมีอยู่ของ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 จะส่งผลต่อพนักงานบริการอย่างไร