svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เห็นด้วยไหม ป้ายเมืองปายถูกแปะสติกเกอร์จนล้น แนะทางแก้ทำที่ให้แปะไปเลย

เห็นด้วยไหม! ดรามาป้ายทางหลวงอำเภอปาย ถูกไบค์เกอร์รุมแปะสติกเกอร์เช็กอินจนล้น คนในพื้นที่เสนอไอเดีย ห้ามไม่ไหวก็ทำป้ายแบบใหม่ มีพื้นที่แยกให้ติดไปเลย แล้วรู้ไหมทำแบบผิดกฎหมายอย่างไร กระซิบว่าโทษหนักนะ

เป็นประเด็นที่ผู้คนในโซเชียลนั้น มีความเห็นที่หลากหลายอย่างมาก กรณีที่มีการแชร์ภาพป้ายทางหลวง “ยินดีต้อนรับสู่ อำเภอปาย” จ.แม่ฮ่องสอน ที่บรรดานักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ "กลุ่มไบค์เกอร์" หรือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขี่มอเตอร์ไซค์ทางไกลเที่ยว มักจะไปถ่ายรูปเช็กอิน และแปะสติกเกอร์เช็กอินว่า เดินทางมาถึงปาย เมืองที่ขึ้นชื่อว่า ผู้ที่จะเดินทางไปด้วยรถมอเตอร์ไซค์นั้น จะต้องมีความอึดถึกทนเป็นอย่างมาก ซึ่งสภาพป้ายทางหลวงดังกล่าว เต็มไปด้วยสติกเกอร์หลากสีสัน ของบรรดาผู้ที่มาเช็กอิน ที่แปะจนแทบจะอ่านข้อความไม่ออก
ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เที่ยวแม่ฮ่องสอน

ดรามาที่เกิดขึ้นคือ ภาพดังกล่าวชาวเน็ตได้มีความคิดเห็น แยเป็น 2 มุมใหญ่ มุมหนึ่งก็มองว่า เป็น "กิมมิก" ที่ดีในการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทำให้คนอยากจะไปเช็กอิน หรือตามรอยไปเที่ยวที่จุดดังกล่าว ขณะที่อีกมุมก็มองว่า ป้ายดังกล่าวเป็นเป็นทรัพย์สินของทางราชการ ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่ หากเป็นป้ายเอกชนคงไม่มีปัญหาอะไร   
เห็นด้วยไหม ป้ายเมืองปายถูกแปะสติกเกอร์จนล้น แนะทางแก้ทำที่ให้แปะไปเลย

ทั้งนี้สำหรับกรณีดังกล่าว คนในพื้นที่อย่าง เพจเที่ยวแม่ฮ่องสอน ได้ออกมาระบุว่า  

เรียนทุกท่าน ร้านที่เป็นของเอกชน หรือเป็นบุคคล

ถ้าเปิ้นอนุญาตก็ลุยโลด จัดหื้อเต็มที่ เอาตี้สบายใจเจ้า แต่ . . .ป้ายจราจร ป้ายทางหลวง ควรพิจารณาหื้อดีๆ ก่อนจะกระทำโตย

แคปชั่นก็เขียนหื้อชัดเจน

สิ่งที่จะสื่อก็ตรง ๆ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว ถ้าเห็นต่าง. . .ก็แสดงสิ่งที่คิดออกมาแบบมีมารยาท บ่าใจ้ตอบโตเอาฮา เอามันส์ และส่วนที่แชร์ไป แคปไปโพสต์ใหม่ เพื่อบิดเบือนจากความเป็นจริง ก็รับผิดชอบต่อสิ่งที่ตนได้กระทำโตย

จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ถ้าไม่ทราบ และยังกระทำอีก
ก็ขออนุญาตถีบออกจากเพจเจ้า 


และยังระบุว่า 

มันคือ . . .ความสวยงาม

หรือ . . .ความรกรุงรัง

ส่วนตัวเฮา ถ้า . . . ไม่มีสติ๊กเกอร์

จะสบายตาแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก และเวลาถ่ายรูปรูปจะสวยงามขนาดเจ้า

>>ร้านกาแฟช้างไทย แม่ฮ่องสอน

 

และล่าสุด เพจเที่ยวแม่ฮ่องสอน ได้นำเสนอไอเดียเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยโพสต์ตัวอย่างป้ายแบบใหม่ ที่เว้นพื้นที่สำหรับแปะสติกเกอร์โดยเฉพาะ หรือไม่ก็ทำสองป้าย ป้ายหนึ่งเป็นป้ายยินดีต้อนรับ อีกป้ายเป็นพื้นที่สำหรับแปะสติกเกอร์ได้เลย พร้อมข้อความว่า

เรียน  . . .ผู้ใหญ่ของบ้านเมือง หรือผู้ที่รับผิดชอบป้ายแห่งนี้

ถ้าท่านได้พบเห็นโพสต์นี้ ได้โปรดพิจารณา เนื่องจากเกิดประเด็นถกเถียงกัน เรื่องความเหมาะสมในการติดสติกเกอร์บนป้ายแห่งนี้ จากโพสต์ต้นทาง ซึ่งแบ่งความคิดเห็นต่างเป็น 2 ฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด ต่างก็มีเหตุผลในมุมของตน  เพื่อหาทางออกร่วมกัน และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอปาย  ควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะมีการปรับปรุงป้ายแห่งนี้ใหม่ เพื่อให้ตอบโจทย์ทุกการเดินทาง อย่างสร้างสรรค์

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และพิจารณา



ภายหลังโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเป็นไอเดียที่ดี ยังช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และยังเป็นการแก้ปัญหาป้าย ถูกแปะสติกเกอร์ทับข้อความจนเลอะเทอะ มองไม่เห็นข้อความ ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่ควรสนับสนุนด้วยการทำให้สิ่งที่ผิดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ตัวอย่างความคิดเห็นชาวเน็ต
ตัวอย่างความคิดเห็นชาวเน็ต

รู้ไหมการแปะสติกเกอร์ป้ายทางหลวงมีความผิดแถมโทษยังหนักอีกด้วย

สำหรับป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร เครื่องหมายสัญญาณ เครื่องหมายสัญญาณไฟฟ้า เครื่องแสดงสัญญาณ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย รั้ว หลักสำรวจ หลักเขต หรือหลักระยะนั้น มีความสำคัญต่อความปลอดภัยของการใช้รถใช้ถนนอย่างมาก แต่ก็มักพบว่า ป้ายและเครื่องหมายจราจรต่าง ๆ ถูกขีดเขียน ทำลาย ทำให้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ และความสับสน เป็นปัญหาต่อผู้ใช้รถใช้ถนนอยู่เสมอ จึงมี

กฎหมายตามมาตรา 40 แห่งพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งได้บัญญัติไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เปลี่ยนแปลง ขีดเขียน เคลื่อนย้าย รื้อถอน หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเครื่องหมายจราจร ป้ายจราจร เครื่องหมายสัญญาณ เครื่องหมายสัญญาณ ไฟฟ้า เครื่องแสดงสัญญาณ อุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย รั้ว หลักสำรวจ หลักเขต หรือหลักระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ติดตั้งหรือทำให้ปรากฏในเขตทางหลวง”

ผู้ที่กระทำการดังกล่าวมีโทษตามมาตรา 73 ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งเป็นความผิดที่มีโทษ หนักมาก เนื่องจากอุปกรณ์งานทางดังกล่าวมีไว้เพื่อเป็นสิ่งที่สื่อความหมายให้ผู้ขับขี่ ต้องปฏิบัติตาม หรือมีไว้เพื่ออำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้ทาง การทำให้สิ่งของเหล่านี้เสียหายย่อมส่งผลกระทบแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนในวงกว้าง กฎหมายจึงได้กำหนดโทษไว้สูง

ทั้งนี้หากพบเห็นการกระทำดังกล่าว สามารถแจ้งเหตุให้กรมทางหลวงชนบททราบ ผ่านสายด่วน 1146 ได้ตลอดเวลา

ขอบคุณข้อมูล : เพจเที่ยวแม่ฮ่องสอน