
ในช่วงเช้าวันดังกล่าว กองกำลังกะเหรี่ยงกลุ่ม "ก๊อดอาร์มี่" หรือ "กองกำลังพระเจ้า" นำโดย นายเบดาห์ หรือ ปรีดา ได้นำกองกำลัง จำนวน 10 คน พร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 ครบมือ บุกยึด โรงพยาบาลราชบุรี ที่มีผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยใน ญาติผู้ป่วย แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่รวมกว่า 1,000 คน โดยเบื้องต้นได้ยื่น 2 ข้อเรียกร้องหลัก คือ
1. ขอนำแพทย์และพยาบาลของโรงพยาบาลไปรักษาชาวกะเหรี่ยง ที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกทหารพม่าปราบปรามอย่างหนักในช่วงนั้น
2. ขอให้ทหารไทยเลิกกดดัน ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงที่หนีเข้ามาฝั่งไทย
ในช่วงเวลานั้น นายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ ผู้บัญชาการกองทัพบก ในขณะนั้น ทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการแก้ไขเหตุการณ์ โดยได้กำชับว่า "ตัวประกันทุกคนต้องปลอดภัยและเกิดการสูญเสียให้น้อยที่สุด"
ขณะที่ รัฐบาลทหารพม่า ออกแถลงการณ์ ระบุว่า "ก๊อดอาร์มี่" ที่บุกยึด โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี เป็นพวก "ผู้ก่อการร้าย" รัฐบาลพม่า จะไม่ดำเนินการใดๆ ให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลไทยดำเนินการได้ตามความเหมาะสม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประเทศไทยเลี้ยงอสรพิษไว้ สักวันหนึ่งก็จะถูกแว้งกัดแน่นอน
ทางด้าน เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือตัวประกัน แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้ก่อการได้วางระเบิดดักไว้ที่ลานจอดรถ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยจึงเปลี่ยนมาใช้วิธีเจรจาต่อรอง จนมีการทยอยปล่อยตัวประกันออกมาเป็นครั้งคราว
ต่อมา กลุ่มก๊อดอาร์มี่ ได้ยื่นข้อเรียกร้อง อย่างเป็นทางการทั้งหมด 5 ข้อ ที่แสดงถึงเจตนาที่แท้จริงของการก่อเหตุในครั้งนี้ คือ
1. ขอให้ทหารไทยหยุดใช้ปืน ค 120 มม. ยิงผู้อพยพชายแดน เช่น กะเหรี่ยง มอญ พม่า ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 200-300 คนแล้ว และมีทั้งเด็ก ผู้หญิง ซึ่งเป็นพลเรือนไม่ใช่ทหาร
2. ขอร้องให้ทหารไทยหยุดช่วยเหลือทหารพม่า ในด้านนำกำลังเข้ามาทางเขตไทย หยุดยิงจากเขตชายแดนไทย หยุดการฆ่า ข่มขืน พวกอพยพ
3. ขอร้องให้รัฐบาลไทยทำการช่วยเหลือผู้อพยพ โดยให้นำผู้อพยพเข้ามาอยู่ในเขตไทย เนื่องจากผู้อพยพไม่มีอาหารประทังชีวิต โดยด่วน และเต็มที่
4. ขอร้องให้รัฐบาลไทย และ UN ประชุมปรึกษากัน และกดดันรัฐบาลพม่า ให้ยอมรับและช่วยเหลือผู้อพยพ ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
5. ให้รัฐบาลไทยดำเนินคดีลงโทษ หัวหน้าทหารไทย ซึ่งเป็นผู้สั่งให้ยิงผู้อพยพในพื้นที่ดังกล่าว
หลังการเจรจาผ่านไปเกือบ 20 ชั่วโมง กลุ่มก๊อดอาร์มี่ ได้ร้องขอเครื่องมือสื่อสารและเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ ให้พากลับไปส่งยังชายแดน ด้านอำเภอสวนผึ้ง
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ไทย พยายามจัดหาสิ่งที่ กลุ่มก๊อดอาร์มี่ ต้องการ อีกด้านหนึ่ง ทหารและตำรวจ พยายามต่อรองเพื่อหันเหความสนใจ เพื่อเป็นการถ่วงเวลาให้ กลุ่มก๊อดอาร์มี่ อ่อนล้าและรอกำลังเสริม เพราะต้องการจัดการขั้นเด็ดขาด
กระทั่งเวลา 04.00 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 43 กองกำลังผสม หน่วยนเรศวร 261 และหน่วยอรินทราช 26 จำนวน 50 นาย นำโดย พล.ท.ทวีป สุวรรณสิงห์ ได้บุกเข้าไปช่วยเหลือตัวประกัน โดยใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที สามารถช่วยเหลือตัวประกันทั้งหมดได้อย่างปลอดภัย และกลุ่มก๊อดอาร์มี่ เสียชีวิต 9 คน หลบหนีได้ 1 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ไทย ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่ไหปลาร้าเพียง 1 นาย
วันนี้ในอดีต 24 ม.ค.43 จึงเป็นวันที่ ชาวราชบุรีและคนทั้งประเทศ ที่ได้รับรู้เรื่องนี้ ต่างยังคงจำกันได้ แม้จะผ่านมา 24 ปีแล้วก็ตาม