svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หลวงพ่อฉันต้มปลา เจอ "ตะขอเบ็ด" โชคดียังไม่กลืน ฝากเป็นอุทาหรณ์

22 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เจ้าอาวาสวัดที่ จ.สุรินทร์ ฉันต้มปลา รู้สึกเหมือนมีลวดแข็งๆอยู่ พอคายออกมาเป็น "ตะขอเบ็ดตกปลา" โชคดียังไม่กลืน ฝากถึงญาติโยมเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้มีความระมัดระวังในการทานอาหาร หรือการปรุงอาหาร คอยพึงสังเกต

22 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า พระครูกิตติธีราภรณ์ ชุ่มสูงเนิน เจ้าอาวาสวัดสีโควนาราม ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้โพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า "#เกือบไปแล้วซิ่เรา!! กลืนเข้าลำคอแล้วยังดีที่ขย้อนคายออกมาทัน!! ไม่งั้นคงได้เป็นปลาติดเบ็ดแน่นอน!! 22ม.ค."

ซึ่งภาพในโพสต์ดังกล่าว เป็นภาพของต้มปลาที่มีชาวบ้านนำมาใส่บาตรถวาย แต่ระหว่างที่หลวงพ่อได้ฉันต้มปลาเข้าไปก็ได้รู้สึกว่ามีวัตถุแข็งๆอะไรบ้างอย่างอยู่ในปาก พอคายออกมาก็พบว่า เป็นตะขอเบ็ด จากนั้นจึงได้นำเอาตะขอเบ็ดที่หลวงพ่อฉันเข้าไป มาปักไว้ที่ไข่ต้มเพื่อที่จะถ่ายรูปโพสต์ไว้เป็นอุทาหรณ์ หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก มีทั้งบอกว่า อันตรายมากๆ , น่ากลัว รวมถึงบ้างคอมเม้นท์ก็ได้ตำหนิคนที่ทำต้มปลาว่าสะเพร่ามากๆ ไม่ดูให้ดีก่อนที่จะทำเป็นอาหารมาใส่บาตรถวายพระ

หลวงพ่อฉันต้มปลา เจอ \"ตะขอเบ็ด\" โชคดียังไม่กลืน ฝากเป็นอุทาหรณ์
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสีโควนาราม และได้พบกับ พระครูกิตติธีราภรณ์ เล่าว่า เมื่อเช้าที่อาตมาโพสต์ภาพลงไปในเฟซบุ๊ก เป็นช่วงที่อาตมาฉันเช้าตามปกติ หลังจากที่พระลูกวัดได้จัดอาหารที่มีญาติโยมนำมาใส่บาตรถวาย เพื่อนำมาถวายให้อาตมาฉันที่กุฏิ เป็นปกติเหมือนทุกวัน ซึ่งมีอาหารอยู่ประมาณ 3-4 อย่าง หนึ่งในนั้นก็มีต้มปลา พอฉันได้ประมาณ 4-5 คำ จังหวะที่เคี้ยวอยู่ก็รู้สึกว่าเหมือนมีลวดแข็งๆอยู่ พอคายออกมา ก็เห็นว่ามีลักษณะเป็นเบ็ดตกปลา อาตมาจึงสันนิฐานว่า อาจจะติดมากับเหงือกปลา 

"ตอนนั้นอาตมาก็ไม่ได้รู้สึกตกใจหรือแปลกใจอะไร เพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อยู่แล้ว เพราะปลาที่ชาวบ้านนำมาถวาย ก็อาจจะเป็นปลาที่ชาวบ้านหามา หรือไม่ก็อาจจะซื้อมาจากท้องตลาด และอีกอย่างคนที่ปลุงอาหารนำมาใส่บาตรถวาย อาจจะเป็นผู้สูงอายุ จึงอาจทำให้ไม่ได้ดูความสะอาดให้เรียบร้อย" พระครูกิตติธีราภรณ์ กล่าว 

เจ้าอาวาสวัดสีโควนาราม ยังฝากถึงญาติโยมเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ว่าอยากให้ญาติโยมมีความระมัดระวังในการทานอาหาร หรือการปรุงอาหาร อยากให้คอยพึงสังเกต แต่ก็อยากให้ใช้ชีวิตตามปกติ ระมัดระวังได้ แต่ไม่ต้องถึงกับระแวง 

logoline