svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เปิดใจ พ่ออาสากู้ภัย ป.6 ถูกเก๋งชนดับ ขณะช่วยอำนวยการจราจรให้รถเสีย

19 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดใจ พ่ออาสากู้ภัย ป.6 ถูกเก๋งชนดับ ขณะกำลังช่วยอำนวยการจราจรให้รถเสีย ระบุ เป็นความฝันอยากทำงานจิตอาสา เผย เคยได้รางวัลนักพากย์แข่งเรือ รองอันดับ 1

19 มกราคม 2567 จากกรณีเมื่อเวลา 00.30 น. วันนี้ (19 ม.ค.) ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุรถยนต์ชน ด.ช.วีรยุทธ จินดาแดง หรือ น้องทู อายุ 13 ปี นักเรียนช้ัน ป.6 อาสาสนับสนุนกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง เสียชีวิต ขณะเข้าไปตรวจสอบเหตุรถยนต์ที่จอดเสีย อยู่จุดเกิดเหตุบริเวณใต้ทางด่วนงามวงศ์วาน ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี และมีรถชนท้ายซ้ำซ้อน ทำให้ ด.ช.วีรยุทธฯ ซึ่งยืนโบกรถอยู่กระเด็นไปเลนขวาของถนนฝั่งตรงข้าม ก่อนจะถูกรถเบนซ์ที่ขับมาด้วยความเร็วจากแยกพงษ์เพชร พุ่งชนซ้ำเสียชีวิต

นายปรีชา จินดาแดง อายุ 30 ปี พ่อน้องทูผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายว่า จะออกไปช่วยรถเสียกับน้องทู หลังจากนั้นไม่นานได้โทรฯมาบอกว่า รถชนน้องทู ตนจึงรีบตามไปที่เกิดเหตุ พบพี่ชายตนร้องไห้อยู่ข้างลูกของตน เพราะเห็นสภาพแล้วทำใจไม่ได้ รู้สึกเสียใจมาก ลูกของตนเป็นคนดี จิตใจดี อารมณ์ดี คอยหยอกเล่นกับเพื่อนๆ พี่ๆ ทำให้คนรอบตัวมีความสุข มีรอยยิ้ม

พ่อ อาสากู้ภัยป.6

ตนรักลูกมาก ช่วยเหลือพ่อแม่ ช่วยเหลือสังคม น้องทู เห็นตนและลุงของเขา ทำงานจิตอาสาจึงอยากทำบ้าง เป็นความใฝ่ฝันของเขา และลูกชายของตนชอบ จะไปกับตนบ้าง ไปกับลุงบ้าง อยากจะมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือคน ส่วนมากจะอยู่จุดแยกบิ๊กซี ติวานนท์ ปกติเวลาออกไปปฏิบัติงานเสื้อผ้าจะมีเส้นสะท้อนแสง ไฟฉาย และมีอุปกรณ์ต่างๆสำหรับปฏิบัติงาน

นอกจากนี้ลูกชายยังเป็นนักพากย์เรือตัวแทนของโรงเรียน ไปพากย์ให้กับเทศบาลนครนนท์ คุณครูคงเห็นพรสวรรค์ จึงช่วยฝึกฝนลูกชายให้ทำ และคัดเลือก 10 คน น้องติด 1 ใน 10 ฝึกทุกวันจนได้เป็นตัวแทน ล่าสุดเพิ่งไปพากย์เรือที่ท่าน้ำนนท์ ได้รางวัลรองอันดับ 1 พากย์ไทย

ตนอยากฝากถึงรถคันที่เมาและขับชนจนเกิดเหตุว่า หากคุณเมาคุณทำได้ แต่คนที่สูญเสียคือ คนที่ไม่รู้เรื่อง อยากให้ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนต้องมาสูญเสียลูกชาย ซึ่งยังมีอนาคตอีกไกล ตนเสียใจมาก ตนสอนให้ลูกเป็นคนดีคอยช่วยเหลือสังคม พอเกิดเรื่องแบบนี้ตนรับไม่ได้ ตนจะเดินทางไปรับศพน้องทู นำไปไว้ที่วัดสมรโกฏิ ซ.เรวดี เอาไว้ 3 วัน และทำพิธีฌาปนกิจในวันจันทร์ที่ 22 ม.ค.

ลุง ของอาสากู้ภัยป.6

ด้านนายโจ้ ลุงผู้เสียชีวิต กล่าวถึงวันเกิดเหตุว่า ตนได้รับแจ้งว่ารถเสียจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปดูกับหลาน โดยได้จอดรถ อยู่ตรงกลางถนนและเปิดไฟไซเรนไว้ ผ่านไปประมาณ 10 นาที หันมาอีกทีตนโดนชนสลบไปแล้ว หมวกกันน็อคก็ไม่ได้ใส่ ดีหมอตรวจแล้วไม่เป็นอะไร และได้ยินมีคนบอกว่าหลานตนโดนรถชนลากไป พอรู้สึกตัวจึงตามหาหลาน มีคนพาไปดู เห็นแล้วทำใจไม่ได้ เสียใจ มีเจ้าหน้าที่นำตัวตนส่งโรงพยาบาลก่อน เพราะรู้สึกชาที่ขา ขาบวม

“หลานตน เห็นตนทำกู้ภัยก็ชื่นชอบและอยากทำด้วยบ้าง ตนไม่ทราบเมื่อคืนรถอะไรชน แต่เห็นสภาพศพหลานแล้วทำใจไม่ได้ เพราะกระโหลกเปิด เห็นแล้วจะเป็นลม ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กรู้สึกเสียใจมาก” นายโจ้ กล่าว

สำหรับความคืบหน้าด้านคดี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก. สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจนำตัวคนขับรถแอคคอร์ดที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุทำให้เด็กอายุ 13 ปี เสียชีวิตและมีรถยนต์ได้รับความเสียหายไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ประชาชื่น ตอนนี้รอผลตรวจประมาณ 7 วัน หลังจากนี้จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่วนรถเบนซ์ที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามได้ขับมาตามปกติ แต่เด็กผู้เสียชีวิตได้กระเด็นออกไปตัดหน้า ทำให้มีการเฉี่ยวชน พนักงานสอบสวนได้สอบสวนกันไว้เป็นพยาน

พร้อมทั้งอยากเตือนในเรื่องของการขับรถประมาท อาจจะทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต บาดเจ็บ และทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย  อยากให้ขับรถด้วยความระมัดระวัง

ทั้งนี้ เหตุการณ์ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 19 ม.ค.67 พ.ต.ต.ชัชวาล สุวรรณหงษ์ สว.สอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุรถชนกันหลายคันมีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนงามวงศ์วาน ขาเข้า ใกล้ทางด่วนงามวงศ์วาน มุ่งหน้าแยกพงษ์เพชร หลังรับแจ้งรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าที่หน่วยแพทย์ฉุกเฉินของเทศบาลนครนนทบุรี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

เปิดใจ พ่ออาสากู้ภัย ป.6 ถูกเก๋งชนดับ ขณะช่วยอำนวยการจราจรให้รถเสีย

ที่เกิดเหตุเลนขวาสุดพบรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น แอคคอร์ด สีขาว ทะเบียนกรุงเทพฯ มี นายคมสันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี เป็นผู้ขับขี่ อยู่ในอาการคล้ายคนเมา กู้ภัยได้นำตัวส่ง ร.พ.พระนั่งเกล้า โดยสภาพรถชนอัดติดอยู่กับท้ายรถเก๋งยี่ห้อฟอร์ด รุ่นอีโค่ สีส้ม ทะเบียน กรุงเทพฯ มี นายสุรชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี เป็นผู้ขับขี่ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น เวฟ สีดำแดง ทะเบียน กรุงเทพฯ ล้มคว่ำพังเสียหาย

ส่วนอีกฝั่งถนนขาออกเลนขวาสุด พบรถเก๋งยี่ห้อ เบนซ์ รุ่น C200 สีขาว ทะเบียน กรุงเทพฯ มี น.ส.นนลณีย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เป็นผู้ขับขี่ อยู่ในอาการตกใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนสภาพรถด้านหน้าพังเสียหาย กระจกแตก

ห่างจากหน้ารถพบศพ ด.ช.วีรยุทธ จินดาแดง อายุ 13 ปี ชื่อเล่นน้อง ทู นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนเทศบาลนครนนท์วิทยา 4 (วัดท้ายเมือง) ถูกรถเบนซ์ที่วิ่งสวนทางมาจากแยกพงษ์เพชรมุ่งหน้าแยกแคราย ชนซ้ำอีกครั้งหนึ่ง นอนเสียชีวิตอยู่บนถนน

เปิดใจ พ่ออาสากู้ภัย ป.6 ถูกเก๋งชนดับ ขณะช่วยอำนวยการจราจรให้รถเสีย

นายสุรชัย ศิริทรัพย์ธนากร อายุ 50 ปี คนขับรถเก๋งฟอร์ด กล่าวว่า ได้ขับมาทางด้านเลนขวาจะกลับบ้านพักที่ลาดพร้าว ไม่รู้ไปทับโดนอะไรทำให้ยางรถด้านขวาแตกทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ตนทำอะไรไม่ถูกมาหยุดอยู่ตรงเลนขวาสุด ตนจึงลงจากรถมาโบกให้สัญญาณอยู่ประมาณ 10-15 นาที ได้มีน้องอาสากู้ภัยมาช่วยเหลือ และถามว่าต้องเรียกรถสไลด์หรือไม่ โดยที่อาสาได้หันหน้ารถจักรยานยนต์กลับสวนไป เพื่อให้ไฟสัญจรกับรถที่ขับมา เนื่องจากตรงนั้นไฟส่องสว่างน้อยเกรงว่าจะเกิดอันตราย

ระหว่างกำลังพูดคุยกันอยู่ มีรถเก๋งขับพุ่งมาชนอย่างแรงทางด้านหลัง ทำให้น้องอาสากู้ภัยที่ยืนอยู่หน้ารถของตน ถูกแรงกระแทกจากการชนกระเด็นข้ามฝั่งก่อนถูกชนซ้ำเสียชีวิต ส่วนรถคันที่มาชนไม่ทราบว่า มาจากทางไหนแต่ไม่ได้มาทางตรงแน่นอน น่าจะเบี่ยงมาชน

เปิดใจ พ่ออาสากู้ภัย ป.6 ถูกเก๋งชนดับ ขณะช่วยอำนวยการจราจรให้รถเสีย

ด้าน นายศิวบุตร ขันทอง อายุ 21 ปีอาสากู้ภัย กล่าวว่า ขณะนั้นได้รับแจ้งมีเก๋งจอดเสียทางด้านเลนขวา ตนจึงได้มาจอดรถช่วยเหลือเปิดสัญญาณไฟไซเรน ปิดท้ายรถเก๋งที่จอดเสียไว้ โดยเปิดสัญญาณไฟได้ประมาณ 3-4 นาที ต่อมาน้องผู้เสียชีวิตได้มาช่วย โดยจอดรถทางด้านหน้ารถเก๋งฟอร์ด โดยน้องมากับนายโจ้ จินดาแดง อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นลุง และเป็นอาสาสมัครศูนย์วิทยุชาลีกรุงเทพฯ

ขณะที่น้องยืนอำนวยการจราจรอยู่นั้น มีรถเก๋งคันขาวได้ชนรถคันสีส้มพร้อมกับตัวน้องผู้เสียชีวิต ทำให้น้องนั้นกระเด็นข้ามไปยังอีกฝั่งในเลนสวนกัน แล้วถูกรถเบนซ์ชนซ้ำ

จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า รถเก๋งสีส้ม ขับข้ามแยกแครายมุ่งหน้าแยกพงษ์เพชร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ ยางรถด้านขวาแตกทั้งหน้าและหลัง จึงจอดเลนขวาสุด ก่อนมีอาสากู้ภัยป่อเต็กตึ๊ง มาช่วยเหลือ โดยมีอาสากู้ภัยรวมทั้งผู้เสียชีวิต มาช่วยโบกรถอำนวยการจราจร อยู่ประมาณ 15 นาที ได้มีรถเก๋งสีขาว พุ่งมาชนท้าย ระหว่างนั้นได้มีรถเก๋งอีกคันพุ่งเข้ามาชน จนผู้เสียชีวิตกระเด็นข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง ก่อนที่จะถูกรถเบนซ์ชนซ้ำ

ต่อมานายปรีชา พ่อของ ด.ช. วีรยุทธ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาดูศพลูกชาย ถึงกับเข่าทรุดนั่งร้องไห้เสียใจโดยมีญาติคอยนั่งปลอบใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ได้ชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่า ผู้เสียชีวิตมีบาดแผลกระโหลกศรีษะเปิด แขนขาหัก และมีแผลฉีกขาดข้างลำตัวด้านขวา จากนั้นจึงมอบผู้เสียชีวิต ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตร

ขณะเดียวกันได้ประสานกับทางแพทย์โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าให้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดซึ่งจะต้องรอผล ถึงจะแจ้งข้อกล่าวหากับนายคมสันต์ต่อไป โดยนายคมสันต์ ได้รับบาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า

logoline