svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ตำนานค้านกระเช้าขึ้นภูกระดึง "พวงเพ็ชร" ปั้นมาตั้งแต่ปี 39 ชี้ ชาวบ้านหนุน

ตำนานคัดค้านสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง ปัจจุบัน "พวงเพ็ชร" ปั้นมาตั้งแต่ปี 39 ชี้ ชาวบ้าน-เอกชนในพื้นที่ หนุน หวังดึงนักท่องเที่ยวสร้างเม็ดเงินเพิ่มในปัจจุบัน ระบุ รอผลสำรวจสิ่งแวดล้อม

6 ธันวาคม 2566 นางพวงเพ็ชร​ ชุน​ละเอียด​ รัฐมนตรี​ประจำ​สำนักนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงกรณี นายอำเภอภูกระดึง​ จ.เลย​ ระบุว่า ประชาชนในพื้นที่เห็นด้วยกับโครงการก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงกว่า 99% ว่า​ มีหลายหน่วยงาน อาทิ เรื่องการท่องเที่ยว นายอำเภอ คนในจังหวัด สมาคมพ่อค้าต่างๆ ก็ออกมาสนับสนุน อยากจะให้มีโครงการดังกล่าว ซึ่งเราได้บอกไปแล้วว่า จะต้องส่งไปให้จัดทำแบบสำรวจผลกระทบสิ่งแวดล้อม​ หรือ EIA เพื่อออกแบบก่อน​ ซึ่งขณะนี้มีหลายหน่วยงานสอบถามเข้ามาจำนวนมาก​ แต่ตนอยากให้กลับไปในส่วนจังหวัด​ เพื่อศึกษาเรื่องการออกแบบ และนำมาประกอบกับการรายงานผลสำรวจ EIA เพื่อส่งต่อให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาต่อไป

เมื่อถามถึง ในฐานะอดีต สส.ในพื้นที่ จังหวัดเลย จะมีกระบวนการอะไรที่จะทำให้โครงการเดินหน้า​ นางพวงเพ็ชร​ กล่าวว่า เรื่องนี้ทางจังหวัดจะต้องหารือกับทางสำนักงบประมาณ ถึงข้อมูลที่มีการขอไปเพียงพอหรือไม่ ฉะนั้นจะต้องตรวจสอบกับทางจังหวัดต่อไป​

พวงเพ็ชร ชุนละเอียด

"พวงเพ็ชร" ดัน กระเช้าขึ้นภูกระดึง ตั้งแต่ปี 2539

เมื่อถามว่า หวังให้โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จช่วงใด นางพวงเพ็ชร​ กล่าวว่า ประเด็นดังกล่าว ตนก็เคยผลักดันตั้งแต่เป็น สส.สมัยแรกเมื่อปี​ 2539 ว่า อยากให้มีกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง แต่ที่ผ่านมาจะมีผู้ต่อต้านบ้าง​ แต่ก็ยังมีผู้สนับสนุน​ และเมื่อมาในยุคนี้ ซึ่งเป็นยุคที่เศรษฐกิจค่อนข้างตกต่ำ และจากที่นายอำเภอรายงานมา ขณะนี้ยอดนักท่องเที่ยวขึ้นภูกระดึงลดน้อยลง ฉะนั้นจึงอยากมีกระเช้าเพื่อเพิ่มรายได้ และยังคงให้มีทางขึ้นลง 2 ทาง ทั้งทางเดินเท้าและทางกระเช้า​ โดยจะทำให้ลูกหาบในพื้นที่ยังคงมีรายได้ต่อไป​

พร้อมย้ำว่า เรื่องนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดเลย เนื่องจากที่ผ่านมานักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวเมืองเคียงคาน,​ ภูเรือ,​ ภูหลวง,​ รวมถึงภูบ่อบิด​ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวจ.เลย​ ภูกระดึงก็น่าจะเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนมาก

ตำนานค้านกระเช้าขึ้นภูกระดึง "พวงเพ็ชร" ปั้นมาตั้งแต่ปี 39 ชี้ ชาวบ้านหนุน

ชาวภูกระดึงเห็นด้วย 99%

นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เปิดเผยว่า เรื่องกระเช้าขึ้นภูกระดึงประชาชนในพื้นที่มีความหวังและรอมานาน และมีมากถึงร้อยละ 99 เห็นด้วยกันทั้งอำเภอ ไม่ว่าจะเป็นลูกหาบ ร้านค้าต่างๆ ในอำเภอภูกระดึง และบนอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ลูกหาบส่วนใหญ่อายุมากแล้ว เริ่มทำอาชีพลูกหาบไม่ไหว ที่สำคัญปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจำนวนลดลงทุกปี นอกจากนี้ ยังมีปัญหานักท่องเที่ยวเสียชีวิตทุกปี ส่วนใหญ่บริเวณซำแฮก หรือก่อนถึงบริเวณซำแฮกเกิดขึ้นทุกปี รวมถึงเรื่องการนำคนเจ็บป่วยลงจากภูกระดึง ซึ่งการที่นักท่องเที่ยวลดลงทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ไม่ค่อยดี คน อ.ภูกระดึง อยากให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวฟื้นกลับมา

คนภูกระดึงก็รักและหวงแหนสิ่งแวดล้อม

“ส่วนข้อกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม เชื่อว่าคนภูกระดึงก็รักและหวงแหนสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน ในเรื่องนี้จึงจะอยากจะฝากถึงองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(อพท.) ที่จะทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA สภาพสิ่งแวดล้อมอุทยานฯภูกระดึงปัจจุบัน ให้ศึกษาและเสนอถึงเรื่องก่อสร้างอารยสถาปัตย์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในส่วนด้านล่างของอุทยานฯ ส่วนด้านบนให้คงรักษาอนุรักษ์ให้เหมือนเดิม หากมีการสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึงจริง คาดว่าจะมูลค่าการท่องเที่ยวมีเงินสะพัดใน อ.ภูกระดึง ไม่น้อยกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี” นายภูริวัจน์ กล่าว

ทั้งนี้จากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอโครงการของแต่ละจังหวัดให้ครม.พิจารณา โดย จ.เลย ได้เสนอโครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นภูกระดึงเข้ามาด้วย โดยครม.ได้อนุมัติในหลักการ เพื่อนำไปเรียงลำดับพิจารณาความสำคัญในการจัดสรรงบประมาณ โดยรายละเอียดโครงการ มีการเสนอให้ออกแบบการก่อสร้างใช้งบประมาณ 28 ล้านบาท นำไปประกอบการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ให้กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาได้ทำ EIA มาแล้วหลายครั้ง โดยการก่อสร้างใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน

กระเช้าขึ้นภูกระดึง คิดมาแล้วเกือบ 3 ทศวรรษ

อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง เริ่มมีแนวคิดตั้งแต่ปี 2539 หลังจากนั้นถูกประชาชนคัดค้านหลายครั้ง จนกระทั่งยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี นายชุมพล ศิลปอาชา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตอบกระทู้ถามนางเปล่งมณี เร่งสมบูรณ์สุข สส.จังหวัดเลย พรรคเพื่อไทย เรื่อง โครงการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าในบริเวณอุทยานแห่งขาติภูกระดึง โดยได้แสดงรายงานผลการศึกษา “โครงการศึกษาเพื่อกำหนดรูปแบบและวิธีการจัดการด้านนันทนาการ/การท่องเที่ยวแบบยั่งยืน ณ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง” โดยกรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และบริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (พฤษภาคม 2543) สรุปได้ว่า

กรณีมีกระเช้าลอยฟ้า 

ปัญหา

ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการ พัฒนาโครงการกระเช้าลอยฟ้า 

  • ด้านชีวภาพและกายภาพต่อทรัพยากรธรรมชาติ เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นและระยะเวลาที่ยาวนานขึ้นของฤดูท่องเที่ยว 
  • ฝ่ายบริหารอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จะต้องรับภาระหนักขึ้นในการอํานวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว การดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ
  • กระทบต่ออาชีพรายได้ของลูกหาบ

ข้อจำกัด 

  • ด้านกฎหมาย (การดำเนินการพัฒนากระเช้าลอยฟ้า ต้องเป็นไปตามพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และระเบียบกรมป่าไม้)
  • พื้นที่บางส่วนอยู่ในเขตลุ่มน้ำชั้น 1 A และ 1 B ก่อนใช้ประโยชน์ต้องทำเรื่อง ขอยกเว้นมติ ครม.และจะต้องทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม EIA
  • ยังขาดสิ่งอํานวยความสะดวกที่จําเป็น สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาใช้บริการกระเช้าลอยฟ้า

ศักยภาพ

  • กระเช้าลอยฟ้า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาภูกระดึงมากขึ้น และการท่องเที่ยวเป็นไปได้ทุกฤดูกาล 
  • อุตสาหกรรมท่องเที่ยวจะขยายตัวขึ้น เกิดผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของชุมชนและภูมิภาค 
  • เพิ่มศักยภาพในการจัดการปัญหาขยะ ของภูกระดึง โดยการลําเลียงขยะลงมา กําจัดภายนอกเขตอุทยาน ฯ 
  • เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติงานควบคุมและป้องกันการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติบนภูกระดึง

ข้อดี

  • เป็นการอํานวยความสะดวกและเพิ่มโอกาสการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มทุกวัย 
  • เป็นประโยชน์ในกรณีฉุกเฉิน อุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยกะทันหัน สามารถลําเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที
  • ก่อให้เกิดการกระจายรายได้และการขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ

ข้อเสีย 

  • เกิดผลกระทบต่ออาชีพและรายได้ของลูกหาบ  
  • อาจเกิดปัญหาการผูกขาดในธุรกิจ ด้านการบริการ 
  • ทำลายเอกลักษณ์ในการท่องเที่ยว ภูกระดึง และทำลายทัศนียภาพ 
  • กระเช้าไฟฟ้า จะเป็นตัวผลักดันให้เกิดสิ่งก่อสร้างในลักษณะเมือง และปัญหาของเมืองในพื้นที่อุทยานฯ 
  • ใช้งบประมาณมาก

นอกจากนี้ยังมีการล่ารายชื่อคัดค้านผ่านเว็บไซด์ change.org ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ 2 มีนาคม 2559 ได้รายชื่อรวมกว่า 17,000 รายชื่อ ที่ร่วมลงชื่อคัดค้านการสร้างกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง โดยนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน(ในขณะนั้น) ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชนที่มีหัวใจรักธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้นำ 17,000 รายชื่อ มอบแก่นายกิตติ ลักษมีมงคล ผู้อำนวยการส่วนประสานการเมือง สำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งต่อไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ และนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรี เพื่อระงับโครงการก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง 

คัดค้านการก่อสร้างกระเช้าขึ้นภูกระดึง