ในการแถลงเงื่อนไข เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ในกรณีคนที่ไม่เข้าเงื่อนไข มีอีกหนึ่งโครงการ ที่เรียกว่า e-refund หนึ่งในนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่เปิดให้ประชาชนที่ไม่ได้รับสิทธิ์โครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท นั่นก็คือ โครงการ "e-refund" คืนภาษี 50,000 บาท โดยการนำค่าซื้อสินค้าและบริการ มาใช้ในการลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาทแทน
โครงการ e-refund เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาล ได้ปรับปรุงเป็นเงื่อนไขผู้ที่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท ใหม่ โดยให้สิทธิกับเฉพาะผู้ที่มีเงินเดือนไม่ถึง 70,000 บาท และมีเงินฝากทุกบัญชีรวมกันไม่เกิน 500,000 บาท ส่งผลให้ผู้ที่มีเงินในบัญชีเกิน 5 แสนบาท มีจำนวน 3.5 ล้านคน และคนที่มีเงินเดือนเกิน 7 หมื่นบาทจำนวน 1.3 ล้านคน ไม่ได้รับสิทธิ์เงินดิจิจิทัล 10,000 บาท
โครงการ E-refund จะมีเงื่อนไขคือจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่า 50,000 บาท และขอใบกำกับภาษีเพื่อมายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งใช้สิทธิได้ตั้งแต่เดือน ม.ค.2567 เป็นต้นไป
ล่าสุด ในประเด็นนี้ทางด้าน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า
"ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ได้ รัฐบาลจะออกโครงการ e-Refund ให้คนไทยสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการซื้อสินค้าและบริการมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้นำใบกำกับภาษี มาประกอบการยื่นภาษีบุคคลธรรมดา และรัฐจะคืนเงินภาษีให้ท่าน เพราะฉะนั้น คนที่ไม่ได้รับสิทธิ Digital Wallet ก็สามารถเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการนี้ได้ และจะทำให้ร้านค้าเข้าระบบภาษีดิจิทัลมากขึ้นด้วย"
นโยบาย Digital Wallet ไม่ใช่การสงเคราะห์ประชาชนผู้ยากไร้ แต่เป็นการเติมเงินลงไปในระบบเศรษฐกิจผ่านสิทธิการใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนมีบทบาทร่วมกับรัฐบาล (Partnership) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ผ่านสิทธิการใช้จ่าย 10,000 บาท
สำหรับ โครงการ e-Refund นั้น ประชาชนจะได้รับภาษีคืนจากการจับจ่ายสินค้าและบริการรวมมูลค่าไม่เกิน 50,000 บาท จากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี และเฉพาะที่ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบ electronics เท่านั้น เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในขณะที่จูงใจให้ร้านค้าเข้าสู่ระบบภาษีดิจิทัลมากขึ้น มุ่งไปสู่การเป็น e-Government ในอนาคต ซึ่งโครงการ e-Refund จะเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 เป็นต้นไป
มาส่องรายละเอียดและเงื่อนไขของ โครงการ "e-Refund" คืนภาษี 50,000 บาท
สำหรับนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นและระยะยาวเพิ่มเติมจากกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบาย e-refund เพื่อจะกระตุ้นการใช้จ่ายร้านค้าออนไลน์ และกองทุนเพิ่มขีดความสามารถ นำมาต่อยอดอุตสาหกรรมใหม่ๆ ของประเทศ เช่น ยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมดิจิทัล การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การพัฒนาบุคลากรและการศึกษา เป็นต้น นายกรัฐมนตรี กล่าว