
กลายเป็นประเด็นร้อนแรง ที่คนไทยต่างจับจ้อง นับตั้งแต่มีกระแสข่าว นายทักษิณกลับประเทศไทย โดยเฉพาะในวันนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (22 สิงหาคม 2566 ) เวลา 06.45 น. หลังมีรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางออกจากประเทศสิงคโปร์ ด้วยเครื่องบินส่วนตัวกลับมายังประเทศไทย โดนคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 8 ปี 3 คดี
สำหรับในประเด็นนี้ ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ยืนยันว่า
นายทักษิณ ไม่ได้นอนห้องแอร์ นอนห้องขังพัดลม มีลูกกรง เหมือนทั่วไป เป็นห้องใหญ่ แต่แบ่งเป็น 2 ห้อง อีกห้องเป็นห้องตรวจแพทย์
และยังมีกระแสร้อนๆ ตามมา อาทิ กระแส การขอพระราชทานอภัยโทษ !!
'กรมราชทัณฑ์' เผย การขอพระราชทานอภัยโทษทำได้ตั้งแต่วันนี้ คาดจบใน 2 เดือน
"กรมราชทัณฑ์" ชี้ คดีนายทักษิณ สามารถ "ขอพระราชทานอภัยโทษ" ได้ตั้งแต่วันนี้ คาดกระบวนการจบใน 2 เดือน ขึ้นอยู่กับความพร้อมเอกสารของญาติ แจง เป็นคนละเรื่องกับ "การลดโทษ" ตามหลักเกณฑ์
สำหรับในกรณีนี้ ทางด้าน นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ ได้เปิดเผยว่า การขอพระราชทานอภัยโทษว่า นายทักษิณ ชินวัตร สามารถยื่นเรื่องได้เลย โดยทางเรือนจำมีความพร้อม ซึ่งหลังจากนี้ ขั้นตอนกระบวนการจะพร้อมหรือไม่ขึ้นอยู่กับญาติ และเมื่อญาติยื่นเอกสารแล้ว คณะกรรมการของกรมราชทัณฑ์ ก็จะพิจารณาเสนอกระทรวงยุติธรรม และนายกรัฐมนตรี หลังจากนี้ก็ขึ้นอยู่กับพระราชอำนาจ
โดยการพระราชทานอภัยโทษมี 2 ประเภท คือ เป็นการทั่วไป กับ เฉพาะราย แต่ในกรณีของนายทักษิณ จะยื่นเฉพาะราย คาดว่ากระบวนการแล้วเสร็จ ไม่เกิน 1-2 เดือนในการพิจารณาและมีผล ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเอกสารและพระราชอำนาจ
ส่วนกระบวนการลดโทษของกรมราชทัณฑ์ คือ ตามระเบียบจะต้องรับโทษมาแล้ว 2 ใน 3 ของการกำหนดโทษ แต่ในกลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป จะต้องจำคุกมาแล้ว 1 ใน 3 ซึ่งนาย ทักษิณ อยู่ในเกณฑ์ ต้องจำมาแล้ว 1 ใน 3 ซึ่งทางเรือนจำก็จะพิจารณาหลักเกณฑ์ต่างๆ ซึ่งของนาย ทักษิณ เป็นผู้สูงอายุ มีอาการป่วย และหากผ่านการอบรมต่างๆของเรือนจำ และชั้นของนักโทษ ซึ่งเมื่อถึงเวลาหนึ่ง ชั้นนักโทษก็คงมีการขยับแล้ว
รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวย้ำว่า
การขอพระราชทานอภัยโทษ กับ การลดโทษ เป็นคนละเรื่องกัน จึงต้องแยกกัน ซึ่งการพระราชทานอภัยโทษสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันนี้
ความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังจากที่ นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดนคุมตัวส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ หลังกลับถึงไทยและศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 8 ปี 3 คดี นั้น
ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาแถลงถึงอาการป่วยและแนวทางการรับตัวนายทักษิณคุมขังในเรือนจำ โดยให้นายทักษิณเปลี่ยนไปใส่ชุดนักโทษแล้วแต่เป็นชุดสีขาว ไม่ต้องตัดผม อยู่ห้องกักโรค จำเป็นต้องใช้แพทย์เฉพาะทางในการดูแล
กรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า นายทักษิณเป็นนักโทษกลุ่มเปราะบาง เพราะอายุเกิน 70 แล้ว โดยมีอายุ 74 ปี และมีโรคประจำตัวหลายโรคทั้งโรคหัวใจขาดเลือด โรคปอด มีพังผืดในปอดหลังหายจากโควิด ความดันโลหิตสูง โรคกระดูกเสื่อม ตอนนี้ทางเรือนจำจึงให้อยู่ในแดนเจ็ด ที่เป็นแดนสำหรับเคสที่มีปัญหาทางสุขภาพ
ตอนนี้ถูกคุมตัวอยู่คนเดียว มี รปภ. คอยดูแล 24 ชม. เพื่อความปลอดภัย และอยู่ใกล้มือแพทย์หากมีปัญหาทางสุขภาพขึ้นมา และหากป่วยเป็นโรคที่ทางกรมราชทัณฑ์ไม่มีหมอเฉพาะทางดูแล ตามหลักก็ต้องส่งตัวไป โรงพยาบาลตำรวจ
เรื่องการเข้าเยี่ยม ตอนนี้มีคนเดียวที่เข้าเยี่ยมได้ คือทนายความ ส่วนครอบครัวจะผ่อนปรนให้เยี่ยมได้ผ่านทาง Line ในอีก 5 วันต่อจากนี้
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุ ไม่สามารถให้ทักษิณอยู่รวมกับนักโทษคนอื่นได้ เพราะเรื่องความปลอดภัย
ในส่วนความรู้สึกของนายทักษิณขณะเข้าเรือนจำนั้น ดร.อายุตม์ ระบุว่า
"นายทักษิณเดินทางมาโดยใส่เสื้อขาว ไม่มีอาการวิตกแต่อย่างใดขณะทำประวัติและเข้าข้างใน ทุกอย่างเป็นไปตามปกติและไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ" ทั้งนี้การเข้าระเบียบของนายทักษิณ เบื้องต้นยังไม่มีการกล้อนผมและผมสั้นอยู่แล้ว จึงไม่ต้องตัดผม เว้นแต่ผมยาวก็จะตัดรองทรงตามระเบียบ ตอนนี้เน้นเรื่องของความปลอดภัยและสุขภาพของนายทักษิณ ยังกักแยกภายในแดนสถานพยาบาลไม่ปะปนกับผู้อื่น เพื่อความปลอดภัย ส่วนหลังพ้นระยะกัก 10 วันแรกจะไปแดนไหนและขังเดี่ยวหรือรวม จะต้องพิจารณาจำแนกตามลักษณะโดยคณะกรรมการเรือนจำกันต่อไปในอนาคต โดยจะจำแนกตามชนิดโทษและอายุ
ส่วนเรื่องอาหารการกินภายในเรือนจำ นายสิทธิกล่าวว่า
ด้วยความที่นายทักษิณเป็นกลุ่มนักโทษเปราะบาง ทางเรือนจำได้จัดอาหารประเภทพิเศษเพื่อรองรับและมีบริการอาหารเสริมให้อยู่แล้ว ร่วมการยารักษาประจำตัวของนายทักษิณเอง ขณะที่นายนัสทีกล่าวว่า หลังจากที่รับตัวนายทักษิณในช่วงประมาณก่อนเที่ยง นายทักษิณแจ้งว่ายังไม่หิว แต่เบื้องต้นได้ทานน้ำเปล่าและเบเกอรี่เป็นอาหารว่างมื้อแรกในเรือนจำ ส่วนนี้มื้อเย็นของวันนี้จะเป็นข้าวต้มและผัดผัก ซึ่งก็ต้องมาดูว่า นายทักษิณจะสามารถปรับตัวและทานได้หรือไม่
นายทักษิณสามารถยื่นได้ตั้งแต่วันนี้สามารถ แต่ขึ้นอยู่กับนายทักษิณหรือญาติมีความพร้อมด้านเอกสารหรือไม่ ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อส่งเอกสารมาที่เรือนจำแล้ว จะมีคณะกรรมการพิจารณาเพื่อส่งต่อให้กรมราชทัณฑ์กับกระทรวงยุติธรรม ก่อนจะนำเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีเพื่อส่งต่อไปยังสำนักงานองคมนตรีและนำความกราบบังคมทูลต่อไป ซึ่งในส่วนนี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน ส่วนใหญ่อาจจะมีปัญหาเรื่องของเอกสาร หลังจากนั้นจะเป็นไปตามพระราชอำนาจและพระราชวินิจฉัยต่อไป ซึ่งในกรณีนี้จะเป็นการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการเฉพาะราย ซึ่งแตกต่างจากการพระราชทานอภัยโทษในช่วงวโรกาสพิเศษ
น.พ.วัฒน์ชัย กล่าวเพิ่มเติม ถึงการเฝ้าระวังโรคภัยไข้เจ็บของนายทักษิณว่า ถึงแม้ว่าตอนนี้นายทักษิณจะมีเพียงแค่อาการความดันสูงผิดปกติ ที่เหลือไม่มีอาการน่ากังวล แต่แพทย์ยังคงเฝ้าระวังต่อไป ขณะนี้ได้ติดต่อกับทางญาติเพื่อขอประวัติการรักษาพยาบาลเพิ่มเติมจากต่างประเทศ เพื่อนำมาวางแผนในการดูแลรักษานายทักษิณร่วมกับการเฝ้าระวังโรคแฝงจากต่างประเทศ โดยเฉพาะวัณโรคหรือโควิด ส่วนการนำตัวนายทักษิณไปรักษานอกเรือนจำนั้น ขึ้นอยู่กับวินิจฉัยของคณะแพทย์ หากพบว่ามีอาการหนักและทัณฑสถานโรงพยาบาลไม่มีอุปกรณ์หรือแพทย์เฉพาะทางที่รองรับ ก็สามารถนำส่งได้ทันทีแม้อยู่ในช่วงกัก 10 วันแรก เบื้องต้นจะพิจารณาส่งรักษายังโรงพยาบาลตำรวจเป็นที่แรก ลำดับถัดมาจะเป็นโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลเฉพาะทางของรัฐบาลต่อไป
ล่าสุดเมื่อคืนนี้
ล่าสุดเมื่อคืนนี้ นายสิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกประจำกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ได้รับรายงานจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ระบุว่า เมื่อเวลา 23.59 น. ของวันที่ 22 ส.ค.2566 พัศดีเวรได้รายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร ซึ่งควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร แดน 7 อยู่ระหว่างการกักโรค มีอาการนอนไม่หลับ แน่นหน้าอก วัดความดันโลหิตสูง ระดับออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ พยาบาลเวรเรือนจำ ได้ติดต่อขอคำแนะนำกับแพทย์ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์ได้สอบถามอาการโดยละเอียดแล้ว
ตลอดจนพิจารณาจากรายงานประวัติการรักษาของผู้ป่วยโดยแพทย์จากโรงพยาบาลต่างประเทศสิงคโปร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบมีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง พังผืดในปอด กระดูกสันหลังเสื่อม
โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ คือ โรคหัวใจ เนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิต เห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่า โดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อชีวิตจะมีการส่งตัวรักษาให้ทันท่วงที หลังจากนั้น เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งได้รับตัวไว้เพื่อทำการบำบัดรักษาเมื่อเวลา 00.20 น. ของวันที่ 23 ส.ค. 2566
นายนัสที ทองปลาด ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เผยอีกว่า หลังจากรับตัวเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรื่องกังวลความปลอดภัย ท่านก็นิ่ง ๆ ไม่ได้มีอะไร ตอนนี้เป็นหน้าที่ของฝ่ายราชทัณฑ์ ที่จะต้องดูแลบริหารจัดการเรื่องนี้ร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องของการจัดให้พบกับนักโทษทางการเมืองคนอื่นนั้น ตอนนี้ทางกรมราชทัณฑ์ ยังไม่ได้มีการคิดหรือวางแผนเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเพิ่งรับตัวเข้ามา ต้องให้ผ่านช่วงของการกักโรคก่อน และยังมีการยืนยันว่า ตอนนี้มีการย้ายออกไปโรงพยาบาลจริง โดยย้ายไปที่โรงพยาบาลตำรวจ
ทั้งนี้ นายทักษิณ ชินวัตร รักษาตัวอยู่ที่ชั้น 14 หอผู้ป่วยพิเศษระดับสูง อาคารมหาภูมิพลราชานุสรณ์ 88 พรรษา โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งชั้นดังกล่าวมีอยู่แค่ 2 ปีก ปีกละ 1 ห้อง ซึ่งเป็นห้อง รอยัล สูท เลขที่ห้อง 1401 โดยมีรายงานว่าเบื้องต้นทางแพทย์ศัลยกรรมระบบปราสาท ได้ให้ยาละลายลิ่มเลือด ยาความดัน ยาคลายเครียด เนื่องจากผู้ป่วยมีโรคประจำอยู่แล้ว โดยขณะนี้ นายทักษิณ อยู่ระหว่างการพักผ่อน โดยมีเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งคำวินิจฉัยอื่น ๆ ต้องรอดูทางทีมแพทย์และกรมราชทัณฑ์แถลงข่าวต่อไป