ปิดตำนาน ป้าต้อยเมืองนนท์ พ่อค้าขนมใส่ไส้คนดัง เสียชีวิตหลังรถชน เลือดคั่งในสมอง
สืบเนื่องจากรายงานข่าวสุดเศร้า บีบหัวใจชาวเน็ต ชาวโซเชียลบ่ายวันนี้ ย้อนไปเมื่อเวลา 22.15 น. ของคืนวันที่ 4 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา ทางพ.ต.ต.ณัฐพัชร์ วิริยาเส้น สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้แจ้งเหตุมีรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนรถเข็นขายของ ที่ถนนนนทบุรี 1 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพบ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ทะเบียน 4 ขต 98XX กรุงเทพมหานคร ซึ่งนายทักษิณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี ผู้ขับขี่ และ น.ส.กนกทิพย์ อายุ 18 ปี เป็นผู้ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ
ชมคลิป >> เหตุการณ์สุดเศร้าที่ชาวเน็ตยังทำใจไม่ได้ !!
นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นขายของพังเสียหาย โดยทราบว่า คนเข็นรถได้รับบาดเจ็บสาหัสพลเมืองดีได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้าไปก่อนแล้ว ต่อมานายสุระศักดิ์ กรุดอ่ำ มาแจ้งว่าคนเดินเข็นรถขายของ ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเป็นลูกจ้างของแม่ตน ชื่อ นายสมชาย ยุ่นสุ่น หรือฉายา ป้าต้อยเมืองนนท์ คนขายขนมใส่ไส้คนดังของจังหวัดนนทบุรี ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลช่วยเหลือได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง
ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 5 สิงหาคม 2566 นางสุทธิศา ยุ่นสุ่น อายุ 53 ปี น้องสาวนายสมชาย ยุ่นสุ่น อายุ 65 ปี หรือป้าต้อย เมืองนนท์ ได้เเดินทางมายังโรงพัก สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี เพื่อติดต่อนำใบบันทึกประจำวันและเอกสารต่าง ๆไปรับศพที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และไปแจ้งการเสียชีวิตที่เทศบาลนครนนทบุรี เพื่อเตรียมรับศพป้าต้อย เมืองนนท์ไปบำเพ็ญกุศลที่วัดนครอินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี ต่อไป
นางสุทธิศา ยุ่นสุ่น อายุ 53 ปี น้องสาวป้าต้อยเมืองนนท์ เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. คืนวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา นายสมชาย ยุ่นสุ่น หรือ ป้าต้อยเมืองนนท์ (พี่ชาย อายุ 65 ปี) ได้รับอุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชน ในขณะที่กำลังจะเข็นรถเข็นกลับบ้านพักในตอนกลางคืน ซึ่งโดยปกตินั้นพี่ชายตนบางวันก็จะกลับเร็วประมาณ 5-6 โมงเย็น เพราะจะต้องมาเอาข้าวที่ทำไว้ให้ทุกวันแล้วก็กลับไปบ้านพัก
หลังเกิดเรื่องขึ้น ตนก็ใจหายเหมือนกัน ไม่รู้ว่าแกจะไปในตอนเกิดเหตุ หลังถูกรถจยย.ชนแล้ว เมื่อตนไปถึงที่โรงพยาบาลหมอบอกว่า เปอร์เซ็นต์รอดไม่มีแล้ว ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจนเวลา 02.42 น. ของเช้าวันที่ 5 ส.ค.66 ตนได้รับแจ้งว่าพี่ชายตน ป้าต้อยได้เสียชีวิตแล้ว หลังจากทำเรื่องเอกสารเสร็จแล้ว ในวันที่ 6 ส.ค.66 จะเดินทางไปรับศพป้าต้อย ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำร่างมาทำพิธีที่วัดนครอินทร์ต่อไป
นางสุทธิศา กล่าวว่า คู่กรณีเป็นผู้ใช้รถจักรยานยนต์ คนขับเป็นผู้ชายอายุ 27 ปี ขี่ไปขับไปรับน้องสาวซึ่งเป็นคนซ้อนอายุ 18 ปี กลับมาจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้าน โดยคู่กรณีให้การว่า เมื่อขับรถจยย.มาถึงตรงที่เกิดเหตุ ก็พุ่งชนกับรถเข็นเลย โดยเป็นการชนจากด้านหน้ารถเข็นไม่ได้ชนข้างหลัง ตนก็เลยงง เพราะพี่ต้อยเวลาเขากลับบ้าน จะกลับมาทางเดียวกับรถจักรยานยนต์ต้องชนจากข้างหลัง แต่นี่เขาบอกว่าชนข้างหน้า
เมื่อคืนตนได้โทรไปหาคนขับ คู่กรณีเพื่อขอพรบ.ผู้ประสบภัยจากรถ ไปใช้สิทธิ์ในการรักษาพี่ต้อย เพราะพยาบาลเขาบอกว่าถ้าเกี่ยวกับรถต้องใช้พรบ.รถอย่างเดียว ใช้สิทธิ์ 30 บาทไม่ได้ แต่เขาได้ติดต่อที่สภ.เมืองนนทบุรีเอาไว้แล้ว
ทางด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี เปิดเผยว่า แม้คู่กรณีคนขับขี่ รถจยย.จะให้การว่า ถนนมืดมองไม่เห็นผู้เสียชีวิตที่เข็นรถย้อนทางมาก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในจุดที่เกิดเหตุเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่อย่างไรก็ตามผู้ขับขี่รถจยย. ก็มีความผิดในข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.ได้ให้มอบหมายให้นายตำรวจติดตามประสานไปทางนางสุทธิศา น้องสาวป้าต้อย เพื่อขอรับเป็นเจ้าภาพจัดงานสวดอภิธรรมศพให้กับ ป้าต้อยเมืองนนท์ ทั้งหมดในฐานะที่เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนกันมาก่อน
ขณะที่โลกออนไลน์ ได้ร่วมย้อนความทรงจำและแสดงความเสียใจในการจากไปของ ป้าต้อยเมืองนนท์ เป็นจำนวนมาก