
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NARIT) เปิดโผ ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก 77 จังหวัดของไทย ไร้เงาและอาจไม่ใช่วันร้อนที่สุด
วันที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก กับ 77 จังหวัดของประเทศไทย ครั้งแรก เริ่มจากใต้สุด 4 เมษายนนี้ที่ อ. เบตง จ. ยะลา และสิ้นสุดที่เหนือสุด 22 พฤษภาคม 2566 ที่ อ. แม่สาย จ. เชียงราย ในวันและเวลาดังกล่าวหากยืนกลางแดด เงาของร่างกายจะตกอยู่ใต้เท้าพอดี แต่อาจไม่ใช่วันที่ร้อนที่สุด ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย
อย่างไรก็ตาม การที่ดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก ทำให้ได้รับพลังงานจากดวงอาทิตย์อย่างเต็มที่ แต่อุณหภูมิจะสูงที่สุดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณฝน เมฆ อิทธิพลจากมรสุม ความร้อนสะสม ฯลฯ ก็อาจส่งผลต่ออุณหภูมิได้
เนื่องจาก ประเทศไทยของเรา ตั้งอยู่ในเขตร้อน ระหว่างแนวละติจูด 5-20 องศาเหนือ ประเทศที่อยู่ในบริเวณนี้จะมีวันที่ดวงอาทิตย์ผ่านใกล้จุดเหนือศีรษะมากที่สุดปีละ 2 วัน โดยจะมีคาบการโคจรพาดผ่านแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัดของประเทศไทยจึงเห็นดวงอาทิตย์ผ่านเหนือศีรษะไม่พร้อมกัน
อีกหนึ่ง ปรากฎการณ์ "ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก" หรือที่นิยมเรียกกันว่า "ปรากฎการณ์ไร้เงา" โดยครั้งเเรก เกิดขึ้น ที่ อ. เบตง จ. ยะลา เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา โดยดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในแนวตั้งฉากกับพื้นที่ต่าง ๆ ของไทยไล่ลำดับขึ้นเหนือมาเรื่อย ๆ และจะสิ้นสุดที่ อ. แม่สาย จ. เชียงราย วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 12:17 น. ซึ่งนี้ถือเป็นช่วงเเรกของปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย ทำให้วัตถุที่อยู่กลางแดดในช่วงดวงอาทิตย์ตั้งฉากนั้นดูเหมือนจะไร้เงา เพราะว่าเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุนั้นพอดี โดยแต่ละจังหวัดของไทยจะตั้งฉากในวันที่ต่างกัน
ขณะที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับประเทศไทย ครั้งที่ 2 ของปี เริ่มจากเหนือสุดของประเทศ จากนั้นเปลี่ยนตำแหน่งเคลื่อนลงทางใต้เรื่อย ๆ จนกระทั่งวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ดวงอาทิตย์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งตั้งฉากกับกรุงเทพมหานคร เวลา 12:22 น. หากยืนกลางแดดช่วงเวลาดังกล่าว เงาของร่างกายจะตกอยู่ใต้เท้าพอดี
คอข่าว แฟนข่าวเนชั่นออนไลน์ คนรักปรากฎการณ์ธรรมชาติ ที่สนใจก็สามารถดูไปสืบค้นข้อมูล ตรวจวันเเละเวลา ปรากฎการณ์ "ดวงอาทิตย์ตั้งฉาก" ปี 2566 ใน 77 จังหวัดของไทย 2566 (คลิกที่นี่)
ย้อนอ่าน >> วันและเวลาที่พระอาทิตย์ตั้งฉากทั้ง 77 จังหวัดประเทศไทยในปี 2565
NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ เผย ปี 2566 ดวงอาทิตย์ตั้งฉากวันไหนบ้าง เช็กข้อมูลครบทั้ง 77 จังหวัด >> คลิกที่นี่
ตะลึงกันทั้งวงการกับภาพถ่ายสุดคมชัดของ #ดาวยูเรนัส จากกล้องเจมส์ เว็บบ์
วันที่ 6 เมษายน 2023 องค์การอวกาศยุโรปหรือ ESA เปิดเผยภาพถ่ายดาวยูเรนัสจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) เผยให้เห็นเมฆในชั้นบรรยากาศ วงแหวนสุดคมชัดถึง 11 ชั้น และดวงจันทร์ขนาดใหญ่อีก 6 ดวง
ภาพนี้ถ่ายโดยอุปกรณ์ NIRCam ของ JWST ซึ่งเป็นกล้องถ่ายภาพในย่านรังสีอินฟราเรดใกล้ (near-infrared) ประมวลผลรวมกันระหว่างช่วงคลื่น 1.4 และ 3.0 ไมครอน แสดงในภาพเป็นสีฟ้าและสีส้มตามลำดับ ดังนั้น สีฟ้าที่แสดงในภาพนี้เป็นเพียงสีของตัวแทนข้อมูลที่ได้จากช่วงคลื่น 1.4 ไมครอน ไม่ใช่สีที่แท้จริงที่จะมองเห็นได้ในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองเห็น
พื้นที่บนดาวยูเรนัสที่สว่างที่สุดในภาพนั้นเป็นบริเวณขั้วของดาว (polar cap) ซึ่งนักดาราศาสตร์พบว่า บริเวณนี้จะส่องสว่างขึ้นเป็นพิเศษในช่วงที่ขั้วของดาวหันเข้าหาดวงอาทิตย์พอดี และจะค่อย ๆ จางหายไปเมื่อขั้วดาวหันออกจากดวงอาทิตย์ สำหรับจุดที่สว่างเด่น 2 จุดนั้นคือเมฆในชั้นบรรยากาศของยูเรนัสที่สว่างโดดเด่นในช่วงคลื่นอินฟราเรด นักดาราศาสตร์คาดว่า เมฆเหล่านี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดพายุบนดาวยูเรนัส ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก JWST ในครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มความเข้าใจเกี่ยวกับกลไกของชั้นบรรยากาศดาวยูเรนัสที่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่หลายส่วนได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภาพจาก JWST ยังแสดงให้เห็นวงแหวนของดาวยูเรนัสจำนวน 11 ชั้น จากทั้งหมด 13 ชั้น ซึ่งดาวยูเรนัสมีวงแหวนบางมาก มองเห็นได้ยากในช่วงคลื่นแสงที่ตามองเห็น แต่จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนในช่วงคลื่นอินฟราเรด รวมถึงในภาพมุมกว้างยังแสดงให้เห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวยูเรนัสจำนวน 6 ดวง จากทั้งหมด 27 ดวง (ภาพในคอมเมนต์)
ทั้งหมดนี้ เป็นการเก็บข้อมูลด้วยระยะเวลาเพียง 12 นาที และใช้ช่วงคลื่นในการประมวลผลเพียง 2 ช่วงคลื่นเท่านั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ทีมนักวิจัยวางแผนที่จะใช้ JWST อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพื่อเก็บข้อมูลดาวยูเรนัสให้ได้ความละเอียดมากยิ่งขึ้น
เรียบเรียง : ธนกร อังค์วัฒนะ - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์
อ้างอิง :
https://www.esa.int/.../Webb_scores_another_ringed_world...
ภาพถ่ายมุมกว้าง แสดงให้เห็นดวงจันทร์ขนาดใหญ่ของดาวยูเรนัสจำนวน 6 ดวง จากทั้งหมด 27 ดวง (ภาพ : NASA, ESA, CSA, STScI, J. DePasquale (STScI))
ภาพปรากฏการณ์หาชมยาก Mock Mirage & Green Flash เป็น #ภาพถ่ายดาราศาสตร์ฝีมือคนไทย ประจำสัปดาห์นี้ ผลงานของคุณกษิดิศ ลี่อำนวยเจริญ ภาพนี้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ปี 2564 ประเภทภาพถ่ายปรากฏการณ์ที่เกิดในบรรยากาศของโลก
ภาพที่เห็นนี้มี 2 ปรากฏการณ์เกิดขึ้น ได้แก่ "ม็อคมิราจ" (mock mirage) ดวงอาทิตย์ที่ปรากฏเป็นลักษณะบิดเบี้ยวไม่เป็นทรงกลม และ "กรีนแฟลช" (green flash) แสงสีเขียวที่ปรากฏอยู่บริเวณส่วนบนของดวงอาทิตย์ ปรากฏการณ์ทั้งสอง อาจเรียกรวมกันได้ว่า Mock mirage green flash หรือ M-Mir green flash ถือเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยาก
หากสังเกตดวงอาทิตย์ที่อยู่ใกล้ขอบฟ้าในตอนเช้าหรือตอนเย็น บางครั้งอาจเห็นดวงอาทิตย์มีลักษณะแปลกตาไม่เป็นทรงกลม ขึ้นอยู่กับลักษณะอุณหภูมิของอากาศเหนือพื้นผิวว่าเป็นเช่นไร ในกรณีดังภาพนี้เกิดจากการที่อากาศในบางระดับเหนือพื้นผิวมีอุณหภูมิสูงขึ้นแทนที่จะลดลง เรียกว่า การผกผันของอุณหภูมิ (temperature inversion) กล่าวคือในระดับชั้นอากาศนั้น อุณหภูมิสูงขึ้นเมื่อความสูงเพิ่มขึ้น แสงจากดวงอาทิตย์จะเกิดการหักเหจนบิดเบี้ยวไม่เป็นทรงกลม และยังสามารถเกิดแสงสีเขียวปรากฏขึ้นเหนือส่วนบนของดวงอาทิตย์ ในช่วงเวลาสั้นๆ
นอกจากนี้ ความแตกต่างของอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นผิว ยังสามารถส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์รูปโอเมกา (Omega Sun) เมื่อบริเวณพื้นผิวมีอุณหภูมิร้อนจัด อากาศที่อยู่ใกล้พื้นจึงร้อนตามไปด้วย ในขณะที่อากาศที่อยู่เหนือขึ้นไปจะเย็นกว่า ทำให้รังสีของแสงจากวัตถุบางส่วนเบี่ยงโค้งกลับด้านขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เราจะเห็นภาพหนึ่งตรงมาจากวัตถุนั้นเป็นภาพปกติ และอีกภาพหนึ่งมาจากรังสีของแสงที่เบี่ยงโค้งเป็นภาพหัวกลับอยู่ใต้ภาพแรก เรียกว่า มิราจแบบอยู่ใต้วัตถุจริง (inferior mirage) เมื่อดวงอาทิตย์ใกล้จะตกลับขอบฟ้าในขณะนั้นขอบล่างของดวงอาทิตย์จะสัมผัสกับขอบบนของภาพมิราจ แล้วผนวกรวมกัน บริเวณที่ผนวกรวมกันนี้จะปรากฏเป็นสีแดงขึ้น เรียกว่า red flash
#รายละเอียดการถ่ายภาพ
วัน / เดือน / ปี ที่ถ่ายภาพ : 11/12/2020
เวลา ที่ถ่ายภาพ : 6:45:00
สถานที่ถ่ายภาพ : ยอดดอยหลวงเชียงดาว
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพ : Nikon D810, Nikkor 70-200 f2.8 FL
ขนาดหน้ากล้อง : f 5.0
เวลาที่ใช้ในการถ่ายภาพ : 1/8000 sec
ความยาวโฟกัส : 200 mm
อัตราส่วนทางยาวโฟกัส : 77/200
ความไวแสง : 800
ภาพ : กษิดิศ ลี่อำนวยเจริญ - ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 การประกวดภาพถ่ายดาราศาสตร์ ปี 2564 ประเภทภาพถ่ายปรากฏการณ์ที่เกิดในบรรยากาศของโลก
ข้อมูล : ดร. บัญชา ธนบุญสมบัติ
#ภาพถ่ายดาราศาสตร์ฝีมือคนไทย
#ThaiAstrophographyoftheWeek #TAW