อุตุฯ เตือน 18 จังหวัดภาคเหนือ - อีสาน เตรียมรับมือพายุฤดูร้อนเข้าพัดถล่ม
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฉบับที่ 6 พายุฤดูร้อนเตรียมพัดเข้าถล่ม 18 จังหวัด ภาคเหนือ - ตะวันออกเฉียงเหนือ
12 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา เวลา 05.00 น. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 6 (76/2566) (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12 - 14 มีนาคม 2566) ระบุ
ในช่วงวันที่ 12 - 14 มีนาคม 2566 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลาง จากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตก จะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
โดยจะมีผลกระทบดังนี้
วันที่ 12 มีนาคม 2566
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอุดรธานี
วันที่ 13 มีนาคม 2566
ภาคเหนือ : จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ และนครราชสีมา
ภาคกลาง : จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 14 มีนาคม 2566
ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี และตราด
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา จะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.
ขณะที่ ลักษณะอากาศทั่วไป ประจำวันที่ 12 มีนาคม 2566
ภาคเหนือ
- อากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
- โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่
- อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
- อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 5-15 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง
- โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู และอุดรธานี
- อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
- อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
- อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 30-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
- เมฆบางส่วน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
- ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ยะลา และนราธิวาส
- อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร
- ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
- อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง
- อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส
- ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
- ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพและปริมณฑล
- อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
- อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส
- ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.