ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 12 (58/2566) คาดมีผลกระทบถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566
คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจจะเกิดขึ้นได้ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรง
สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย และดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้
โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบดังนี้
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ หลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเรือเล็กบริเวณอ่าวไทยตอนล่างควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลาดังกล่าว
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประกาศ ณ วันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับนี้เป็นฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้
(ลงชื่อ) ชมภารี ชมภูรัตน์
(นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 18:00 น. วันนี้ ถึง 18:00 น. วันพรุ่งนี้
ภาคเหนือ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง
ภาคตะวันออก
ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)
ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)
กรุงเทพและปริมณฑล
ปัจจัยพื้นฐาน
ความกดอากาศที่มีกำลังแรงมักทำให้เกิดลมแรง ซึ่งฝุ่นละอองสามารถระบายได้ดีหากแต่ช่วงที่มีกำลังอ่อนลงมักจะทำให้มวลอากาศนิ่ง และเกิดปรากฏการณ์อากาศปิด (อินเวอร์ชั่น) ซึ่งอากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นในแนวดิ่งได้ตามปกติ และสามารถสังเกตเห็นได้ถึงสภาวะลมสงบหรือลมอ่อน ปัจจัยเช่นนี้ ทำให้ฝุ่นละอองที่่อยู่ในอากาศไม่สามารถระบายได้ และเกิดการสะสมในอากาศได้หลายวัน-หลายสัปดาห์ หรือนานกว่า (หากไม่มีฝนชะล้างออกไป) ในกรณีที่เกิดมีชั้นอินเวอร์ชั่นที่ความสูงระดับต่ำใกล้พื้นดิน หรือเพดานการลอยตัว ของอากาศต่ำลงจะทำให้ค่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองเพิ่มขึ้น (อัตราส่วนน้ำหนักต่อปริมาตรอากาศ) ซึ่งมักเกิดในเวลากลางคืนหรือเช้า
ในทางกลับกันค่าความเข้มข้นนี้จะสามารถลดลงได้โดยที่ปริมาณอนุภาคไม่เปลี่ยนแปลงหากเพดานการลอยตัวของอากาศสูงขึ้น ซึ่งมักเกิดขึ้นในเวลากลางวันที่มีแสงแดดส่องถึงอันเป็นต้นกำเนิดของพลังงาน การลอยตัว การประเมินปริมาณฝุ่นละอองที่มีในอากาศในพื้นที่หนึ่งๆ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน มักจะมีการวัดคุณสมบัติทางเคมี เช่นค่าความเข้มข้น หรืออัตราส่วน น้ำหนักต่อปริมาตร (ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) ส่วนการประเมินปริมาณฝุ่นละอองที่มีในบรรยากาศรวมทั้งหมดตลอดชั้นบรรยากาศ มักจะมีการวัดคุณสมบัติทางฟิสิกส์ต่างๆ เช่น Aerosol Optical Thickness (AOT) เป็นต้น