
ลูกอมรูปหัวใจที่ฮิตมากในช่วงเทศกาลแห่งความรัก
เป็นอีกวันที่อบอวลไปด้วยกระแสสีสมพู ช่วงเวลาแห่งความรัก 14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ 2023 ปีนี้ ย้อนตำนานแห่งแรงบันดาลใจ เกี่ยวกับ ‘ลูกอมฮาร์ทบีท’ ที่คนในยุค 90s ต่างก็ยกให้เป็น ‘ลูกอมสื่อรัก’ สำหรับช่วง poppy love ของวัยรุ่นยุคนั้น ซึ่งที่มาของไอเดียลูกอมรูปหัวใจเป็นเอกลักษณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ
ตำนานลูกอมสื่อรักรูปหัวใจต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น
ย้อนเวลาไปเกือบ 40 ปีก่อน หรือในราวๆ ปี 2527 กลับไปสู่จุดเริ่มต้นของ ‘ลูกอมฮาร์ทบีท’ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ขายดีของ บริษัท เยเนอรัลแคนดี้ (ในเยเนอรัล กรุ๊ป) ก่อตั้งโดย ‘ไพศาล อังคเศกวิไล’ ซึ่งอาชีพในตอนนั้นของ ไพศาล ไม่ใช่การขายลูกอม หรือเปิดบริษัททำลูกอมตั้งแต่แรก แต่เขาทำงานในโรงงานยามาก่อน
จากบทสัมภาษณ์ของ ‘จิตราภา อังคเศกวิไล’ ทายาทรุ่นที่ 3 ของบริษัท เยเนอรัลแคนดี้ ได้พูดถึงความชอบของคุณพ่อไพศาล ตั้งแต่ที่ยังเป็นพนักงานในบริษัทยาไว้ว่า
"เป็นคนที่สนใจเรื่องนวัตกรรมด้านขนม ลูกอม และอาหารอยู่เสมอ และมักจะอ่านหนังสือของต่างประเทศเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านอาหารและขนม"
จุดเปลี่ยนของ ไพศาล เกิดขึ้นในระหว่างที่เขาเดินทางไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น และเกิดเห็นลูกอมรูปทรงหัวใจน่ารักน่าสะดุดตา และในขณะนั้นประเทศไทยก็ยังไม่มีลูกอมรูปทรงแบบนี้เลย (มีแต่วงกลมและวงรีเท่านั้น) และนั่นเป็นจุดเปลี่ยนของไพศาลครั้งใหญ่ก็ว่าได้
จิตราภา ได้พูดอีกว่า “คุณพ่อเป็นคนที่ค่อนข้างเชี่ยวชาญอย่างมากในเรื่องการสร้างสรรค์นวัตกรรมขนม ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ไอเดียมาจากญี่ปุ่น และเขาก็นำมาต่อยอดกับบริษัท”
ทั้งนี้ ในช่วงแรก ๆ ที่เปิดตัวลูกอมฮาร์ทบีท บริษัทได้ห่อลูกอมด้วยพลาสติกและห่อลูกอมธรรมดาเหมือนลูกอมทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้คนรู้จักเร็ว และพูดกันปากต่อปากก็คือ ‘รูปทรงหัวใจ’ ซึ่งฮาร์ทบีทเป็นลูกอมรายแรกในประเทศที่เป็นรูปทรงนี้ ซึ่งตั้งแต่ในยุคแรก ๆ ฮาร์ทบีท ก็กลายเป็นลูกอมที่ใช้แสดงความรัก ความชอบของเหล่าวัยรุ่น
จากกระแสความนิยมนี้เอง ลูกอมฮาร์ทบีท จึงได้ต่อยอดการตลาดจากปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น ผ่านกลยุทธ์ Love Marketing เช่น การใส่ข้อความน่ารัก ๆ หรือ คำคมในซองลูกอม ต้องแกะเท่านั้นถึงจะเห็น ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในมาร์เก็ตติ้งนี้
จากลูกอม กลายเป็นสื่อรักแทนความหมายของใจ
อย่างที่พูดตั้งแต่ต้นบทความว่า ฮาร์ทบีท เป็นลูกอมที่ได้รับความนิยมอย่างมากของวัยรุ่นในยุค 90s ซึ่งการที่ ฮาร์ทบีท ยังคงความเป็นรูปทรงเดิมเห็นได้ชัดว่าเพื่อต้องการตอกย้ำภาพจำและความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับแบรนด์ แต่ที่ผ่านมาฮาร์ทบีทมีการเพิ่มรสชาติใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดกว่า 20 รสชาติ นั่นถือว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผลิตลูกอมสัญชาติไทยที่พัฒนาและคิดค้นรสชาติค่อนข้างบ่อย
ในปี 2547 น่าจะเป็นอีกหนึ่งครั้งของฮาร์ทบีทที่ทำการตลาดในคอนเซ็ปต์ ‘ฮาร์ทบีทพูดได้’ โดยมีการพูดถึงอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนข้อความจากที่อยู่ข้างในซองมาเป็นด้านนอกของซองลูกอมเพื่อเป้นเครื่องมือให้ช่วยบอกรัก สื่อแทนการบอกชอบอีกคนนั่นเอง
จากนั้นในปี 2550 ฮาร์ทบีท ทำการตลาดอีกครั้งที่ชื่อว่า ‘ฮาร์ทบีทเขียนได้’ ก็คือ มีการเว้นที่ว่างบนกระดาษห่อลูกอมเพื่อให้เขียนความในใจได้ ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีบอกรักสุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
ปัจจุบันบริษัทฯ ได้ส่งออกสินค้าไปกว่า 40 ประเทศ ซึ่งกลุ่มตลาดหลักก็คือ ‘ตะวันออกกลาง’ และ ‘อินเดีย’ ที่ถือว่าลูกอมฮาร์ทบีทกับกลุ่มกัมมี่ค่อนข้างติดตลาด ทั้งนี้ ช่วงหลัง ๆ ประเทศแอฟริกาใต้ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นำเข้าลูกอมฮาร์ทบีทมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เทศกาลวาเลนไทน์ในปีนี้ลูกอมฮาร์ทบีทพยายามตีตลาดด้วยการปล่อย ‘ฮาร์ทบีทเขียนได้’ โดยยกตัวอย่างข้อความน่ารัก ๆ ที่ใช้จีบกันหรือแสดงความรักบน Facebook page อีกทั้งยังจัดโปรโมชั่นสินค้ารัว ๆ ในหลายประเภทด้วย ถือว่าฮาร์ทบีทก็ยังเป็นหนึ่งในลูกอมแห่งเทศกาลความรัก ไม่ว่าตอนนี้จะผ่านไปกี่ยุคสมัยแล้วก็ตาม
เครติดภาพ: GeneralGroup / THE PEOPLE