svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

15 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดปมร้อน ย้อนเส้นทางชีวิต "แบงค์แมน-ฟรีด" จากที่สุดแห่งมหาเศรษฐีคริปโต ร่ำรวยติดอันดับ2 ของโลก ผู้ก่อตั้ง FTX สู่การเป็นผู้ต้องหาคดีอาญา

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

นับเป็นข่าวสะเทือนวงการคริปโตฯ ครั้งอีกข่าวที่สนั่น สะเทือนไปทั้งโลก  เมื่อล่าสุด แซม แบงค์แมน-ฟรีด (Sam Bankman-Fried) หรือที่รู้จักกันในวงการคริปโตในนาม SBF ผู้ก่อตั้ง เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) มหาเศรษฐีคริปโตโลก ที่นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เคยจัดอันดับให้เขา รวยที่สุดในอันดับ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน ณ ขณะนั้น ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ สุดท้ายถูกกลายเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา ที่ถูกจับกุมตัว

 

เส้นทางชีวิต..สู่มหาเศรษฐี ของ นายแซม แบงค์แมน-ฟรีด

แซม แบงค์แมน-ฟรีด (Sam Bankman-Fried) หรือที่รู้จักกันในวงการคริปโตในนาม SBF เป็นผู้ก่อตั้ง เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) เมื่อปี 2019 (พ.ศ.2562) ร่วมกับนายแกรี หวัง (Gary Wang) เพื่อนนักศึกษาที่มหาวิทยาลัย MIT

นิตยสารฟอร์บส์ (Forbes) เคยจัดอันดับให้เขา รวยที่สุดในอันดับ 2 ด้วยมูลค่าทรัพย์สิน ณ ขณะนั้น ที่ 24,000 ล้านดอลลาร์ ในฐานะมหาเศรษฐีคริปโตโลก โดยเวลานั้นเขามีอายุเพียง 30 ปี ส่วนบริษัท FTX เคยมีมูลค่าสูงกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยลูกค้าหลักของบริษัทเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ซื้อขายในจำนวนมาก ๆ

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

ในวันชีวิตขาลง..ซ้ำยังตกเป็นผู้ต้องหาคดี FTX

เผยเค้าลาง...ความล่มสลายของ FTX เริ่มชัดเจน เมื่อฉางเผิง จ้าว หรือ CZ เจ้าของ Binance แพลตฟอร์มเทรดคริปโตอันดับ 1 ได้ทวีตข้อความระบุว่า เขาจะขาย FTT ซึ่งเป็นเหรียญของ Exchange FTX ทั้งหมด เนื่องจากตรวจพบพฤติกรรมบางอย่างของ Alameda Research ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ FTX ที่อาจจะส่งผลเสียต่อตัว Binance เอง 

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

และยังมีเหตุการณ์ ที่เปรียบเสมือนการนำอัฐยายไปซื้อขนมยาย เมื่อแซม แบงก์แมน-ฟรายด์ หรือ SBF ผู้ก่อตั้ง FTX และ Alameda Research ได้นำ FTT หรือเหรียญที่ออกโดยตัวเองไปค้ำประกัน เพื่อกู้เงินจาก FTX ออกมาใช้ ซึ่งเว็บไซต์ข่าว CoinDesk ได้เปิดเผยว่า สินทรัพย์ภายใต้การดูแลของ Alameda Research กว่า 80% นั้นเป็น FTT

ประเด็นกระแสข่าวร้อนๆ นี้ ส่งผลให้ บรรดานักลงทุน จึงแห่กันเทขาย FTT จนราคาร่วงลงเกือบ 10 เท่าอย่างรวดเร็ว พร้อมถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มมากถึง 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่ง SBF เองได้พยายามแก้ไขปัญหาด้วยการขอความช่วยเหลือจากนักลงทุนรายอื่นเพิ่ม หนึ่งในนั้นคือ CZ แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากผลการเข้าตรวจสอบกิจการหรือ Due Diligence ออกมาย่ำแย่

FTX ยื่นขอล้มละลาย


รายงานล่าสุด ย้อนเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2565 ทาง FTX พร้อมบริษัทในเครืออีกราว 130 แห่ง ซึ่งรวมถึง Alameda Research และ FTX.US ได้ยื่นขอล้มละลายต่อศาลเดลาแวร์ในสหรัฐฯ ขณะที่ SBF ก็ได้ประกาศลงจากตำแหน่งซีอีโอ

ในเอกสารยื่นขอล้มละลายจำนวน 23 หน้าของ FTX ระบุว่า ปัจจุบันบริษัทมีเจ้าหนี้อยู่มากกว่า 1 แสนราย มีสินทรัพย์อยู่ระหว่าง 1-5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีหนี้สินอยู่ราว 1-5 หมื่นล้านดอลลาร์เช่นกัน การล่มสลายของ FTX ส่งผลให้ความมั่งคั่งของ Bankman-Fried ลดลงจาก 1.52 หมื่นล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 991.5 ล้านดอลลาร์ หรือลดลงราว 94% ภายในเวลาอันรวดเร็ว

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX  

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

จับตาสภาพการล้มละลายของ FTX มีผู้ที่ได้รับผลกระทบได้แก่ นักลงทุนรายย่อยที่ซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มของ FTX และส่งผลกระทบต่อไปยังนักลงทุนของสถาบันการเงินและกองทุนต่าง ๆ ทั้ง SoftBank ของญี่ปุ่น Temasek ของสิงคโปร์ และอีกหลายกองทุนในทวีปอเมริกาเหนือ

ผลกระทบจากการล้มละลาย

การล้มละลายดังกล่าวส่งผลให้ทั้ง FTX และนายแบงค์แมน-ฟรีดเผชิญกับการสอบสวนจากทั้งหน่วยงานของสหรัฐและบาฮามาส ซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ FTX

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า สำนักงานอัยการเขตใต้ของรัฐนิวยอร์กซึ่งนำโดยนายเดเมียน วิลเลียมส์ ได้ใช้เวลานานหลายเดือนในการตรวจสอบFTX ซึ่งมีบริษัทลูกหลายแห่งที่ให้บริการซื้อขายคริปโตทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ การตรวจสอบมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่ว่า เอฟทีเอ็กซ์ดำเนินการตามข้อกฎหมาย Bank Secrecy Act ของสหรัฐหรือไม่ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวใช้เพื่อกำหนดให้สถาบันการเงิน มีมาตรการป้องกันการฟอกเงิน และการระดมเงินเพื่อการก่อการร้าย และเพื่อทำการตรวจสอบแพลตฟอร์มคริปโตฯ ที่กล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า ไม่ได้ให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐ

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

12 พ.ย. 2565 

นายแซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งซีอีโอของบริษัท FTX  ขณะที่ FTX เข้าสู่กระบวนการล้มละลาย เตรียมปรับโครงสร้างหนี้ ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวรับข่าวดังกล่าว โดยบิตคอยน์ร่วงลงหลุดระดับ 17,000 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ดิ่งลงเช่นกัน

FTX ซึ่งเป็น แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินคริปโต ออกแถลงการณ์วานนี้ (11 พ.ย.) ระบุว่า ทางบริษัทได้ยื่นเรื่องต่อศาลสหรัฐตามมาตรา 11 เพื่อ ขอการพิทักษ์ทรัพย์ จากภาวะ ล้มละลาย โดยมีบริษัทในเครือของ FTX ราว 130 บริษัทที่ต้องเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย รวมถึงบริษัท Alameda Research และ FTX.us

นายจอห์น เจ เรย์ที่ 3 ซึ่งเป็นซีอีโอคนใหม่ของ FTX แทนนายแซม แบงค์แมน-ฟรายด์ ที่ประกาศลาออกไป กล่าวว่า การเข้าสู่กระบวนการล้มละลายตามมาตรา 11 เป็นเรื่องที่เหมาะสม เพื่อให้ FTX Group สามารถทำการประเมินสถานการณ์ และพัฒนากระบวนการเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

FTX หรือในชื่อเต็ม FTX Trading Ltd. (d.b.a. FTX.com) ประกาศเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ย.) ว่า West Realm Shires Services Inc. (d.b.a. FTX US), Alameda Research Ltd. และบริษัทในเครืออีกประมาณ 130 แห่ง (รวมกันเรียกว่า "FTX Group") ได้เริ่มกระบวนการโดยสมัครใจภายใต้บทที่ 11 ของประมวลกฎหมายล้มละลายของสหรัฐอเมริกาในเขตเดลาแวร์แล้ว เพื่อเริ่มกระบวนการที่เป็นระเบียบในการตรวจสอบและสร้างรายได้จากสินทรัพย์เพื่อประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลก

FTX ได้กลายเป็นบริษัทที่ล้มละลายภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน จากเดิมที่มีสินทรัพย์มากกว่า 30,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางวิกฤตสภาพคล่องจากการที่ลูกค้าแห่ถอนเงิน ขณะที่ไบแนนซ์ (Binance) ที่เคยแสดงความสนใจจะเข้ามาซื้อกิจการและเสริมสภาพคล่องให้ FTX ได้ถอนตัวจากข้อตกลงซื้อกิจการดังกล่าวเมื่อเร็วๆนี้ โดยระบุว่าปัญหาของ FTX นั้นเกินจะเยียวยา

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

ทั้งนี้ นายจ้าว ฉางเผิง ซีอีโอของ Binance ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ประกาศยกเลิกข้อตกลงซื้อกิจการ FTX เพียงวันเดียวหลังจากที่บริษัททำข้อตกลงซื้อกิจการ FTX โดยไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย และมีเงื่อนไขว่า Binance จะเข้าสอบทานธุรกิจของ FTX และบริษัทสงวนสิทธิที่จะถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าว

 

"หลังการตรวจสอบทางธุรกิจ และมีรายงานข่าวเกี่ยวกับการที่ FTX นำเงินของลูกค้าไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง รวมทั้งทางการสหรัฐได้ตั้งข้อกล่าวหาต่อบริษัท เราจึงตัดสินใจยุติการเข้าซื้อกิจการ FTX.com" แถลงการณ์ของBinance ระบุ

 

มีข่าวร้ายตามมาว่า FTX ถูกแฮก โดยคนร้ายฝังมัลแวร์และโทรจันไวรัส ที่จะแอบเปิดให้ไวรัสตัวอื่น ๆ เข้ามาจู่โจมระบบได้ โดยมีการยืนยัน านบัญชี FTX Official บน Telegram ว่าทางแพลตฟอร์มโดนแฮ็ก หลังพบการโอนเงินกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทออกจากแพลตฟอร์มโดยไม่ทราบที่มาที่ไป ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 พ.ย. หลังจากนั้น ผู้ใช้ FTX หลายคนพบว่าเงินในบัญชีของตัวเองกลายเป็น 0 ทั้งในเว็บและในแอปพลิเคชัน ทำให้เว็บไซต์ FTX ต้องแจ้งปิดการฝาก-ถอนเงินชั่วคราว ในวันที่ 13 พ.ย.
 
รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

 

ตลาดคริปโตป่วน บิตคอยน์ร่วงหลุด 17,000 ดอลลาร์
การประกาศล้มละลายของ FTX วานนี้ ส่งผลให้บิตคอยน์ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 17,000 ดอลลาร์ ขณะที่สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ดิ่งลงเช่นกัน โดย ณ เวลา 23.14 น.ตามเวลาไทย บิตคอยน์ดิ่งลง 7.65% สู่ระดับ 16,695.11 ดอลลาร์ ในการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม Coinbase


แบงค์แมน-ฟรีด ถูกจับกุม!!

12 ธ.ค. 2565 

นายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้งและอดีตซีอีโอของ เอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็น บริษัทซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีรายใหญ่ ที่ประสบปัญหาจนล้มละลาย ได้ถูกจับกุมตัวแล้วในบาฮามาสเมื่อวันจันทร์ (12 ธ.ค.) ตามคำขอของทางการสหรัฐ

อัยการสูงสุดของบาฮามาสออกแถลงการณ์ระบุว่า การจับกุมตัวนายแบงค์แมน-ฟรีด เกิดขึ้นหลังจากทางการสหรัฐแจ้งว่าได้ยื่นฟ้องนายแบงค์แมน-ฟรีดในคดีอาญา โดยขณะนี้หน่วยงานสหรัฐและบาฮามาสกำลังทำการตรวจสอบว่า นายแบงค์แมน-ฟรีดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของ FTX หรือไม่

แบงค์แมน-ฟรีด ถูกจับกุมตัวในบาฮามาส ตามคำขอของทางการสหรัฐ ในคดีอาญา โดยหน่วยงานสหรัฐและบาฮามาสกำลังทำการตรวจสอบว่า นายแบงค์แมน-ฟรีดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มละลายของ FTX หรือไม่

ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) หรือ ก.ล.ต.ของฝั่งสหรัฐฯเอง ก็เตรียมที่จะยื่นฟ้องแบงก์แมน-ฟรีดด้วย ในข้อหาเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายหลักทรัพย์ โดยคาดว่าจะมีการยื่นฟ้องที่ศาลในนิวยอร์กด้วย

ทางด้านนายเดเมียน วิลเลียมส์ อัยการประจำศาลแขวงใต้ของรัฐนิวยอร์กในสหรัฐกล่าวยืนยันว่า การจับกุมตัวนายแบงค์แมน-ฟรีดเป็นไปตามคำร้องขอของรัฐบาลสหรัฐฯ


การล้มละลายดังกล่าวส่งผลให้ทั้ง FTX และนายแบงค์แมน-ฟรีดเผชิญกับการสอบสวนจากทั้งหน่วยงานของสหรัฐและบาฮามาสซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของ FTX

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างอิงแหล่งข่าวว่า FTX ได้ถูกเจ้าหน้าที่อัยการของเมืองแมนฮัตตันทำการตรวจสอบมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้วก่อนที่บริษัทจะประกาศล้มละลาย โดยแหล่งข่าวระบุ สำนักงานอัยการเขตใต้ของรัฐนิวยอร์กซึ่งนำโดยนายเดเมียน วิลเลียมส์ ได้ใช้เวลานานหลายเดือนในการตรวจสอบเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งมีบริษัทลูกหลายแห่งที่ให้บริการซื้อขายคริปโตทั้งในสหรัฐและต่างประเทศ การตรวจสอบมุ่งเน้นไปยังประเด็นที่ว่า เอฟทีเอ็กซ์ดำเนินการตามข้อกฎหมาย Bank Secrecy Act ของสหรัฐหรือไม่

 

ที่ผ่านมานั้น ทางการสหรัฐใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อกำหนดให้สถาบันการเงินใช้มาตรการป้องกันการฟอกเงินและการระดมเงินเพื่อการก่อการร้าย และเพื่อทำการตรวจสอบแพลตฟอร์มคริปโทฯ ที่กล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่า ไม่ได้ให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐ

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

ก่อนหน้านี้ไม่นาน นายแบงค์แมน-ฟรีด เจ้าของฉายา SBF และผู้เป็นอดีต “มหาเศรษฐีคริปโต” ในวัย 30 ปี ได้เชิญสำนักข่าวบีบีซี สื่อใหญ่ของอังกฤษ ไปที่พักของเขาในคอมเพล็กซ์สุดหรูที่บาฮามาส และส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ เขาระบุว่า หวังว่าจะหาทางคืนความเสียหายให้กับผู้ใช้บริการ FTX และก็ยอมรับด้วยว่ามีความวิตกกังวลตลอดทั้งคืนเกี่ยวกับการถูกจับกุมตัว “ผมหวังที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่เพื่อสร้างรายได้มากพอที่จะจ่ายคืนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการล่มสลายของ FTX”


รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX
‘แซม แบงก์แมน-ฟรายด์’ (Sam Bankman-Fried) หนุ่มวัย 30 ที่ฟอร์บส์ (Forbes) จัดให้เป็นบุคคลที่รวยคริปโทฯ ที่สุดในโลก 

ปัจจุบันแซมเป็นเจ้าของแพลตฟอร์ม FTX ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019 มีมูลค่า ณ เดือนสิงหาคม 2022 มากถึง 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

แซมไม่ได้เชื่อใน Bitcoin เขาแค่สนใจที่จะคว้าโอกาส เขาไม่อยากหาเงินแบบเสี่ยงๆ ด้วยการเทรดเหรียญ แต่ต้องการหาเงินอย่างปลอดภัย จึงเลือกที่จะทำ ‘โบรกเกอร์’ กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนเหรียญแทน

แซมเกิด 6 พฤษภาคม 1992 ที่ Stanford South Califonia พ่อแม่ของเขาทั้งคู่เป็นอาจารย์ด้านกฎหมาย หนังสือโปรดของแซมคือเรื่อง Harry Potter และกีฬาที่เขาชอบดูคือเบสบอล ทีมโปรดของเขาคือ San Francisco Giants 

แซม เข้าเรียนโรงเรียนเอกชนเล็กๆ ก่อนจะไปเรียนต่อที่ MIT เอกวิชาฟิสิกส์

ซึ่งจัดเป็นวิชาที่ยากมากที่สุดวิชาหนึ่ง แต่แซมไม่ได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดในการเรียนหนังสือ 

เขาใช้เวลาครึ่งหนึ่งเล่นวีดีโอเกมที่ชอบ

แรงบันดาลใจที่แรงกล้าที่สุดของเขาคือการเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้น 

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

ตอนแรกแซมคิดว่าจะเป็นอาจารย์วิชาฟิสิกส์เหมือนพ่อกับแม่ เขารู้ว่าอาชีพนี้หาเงินได้ไม่มากพอจะเปลี่ยนโลกให้เป็นแบบที่เขาฝัน 

แซมตัดสินใจไม่เรียนต่อ ออกมาหาเงิน โดยเข้าทำงานด้านการเงินที่บริษัทชื่อ Jane Street Capital

แซมแตกต่างจากเศรษฐีคริปโทฯ คนอื่นๆ ตรงที่เขาไม่ได้เชื่อในคริปโทฯ ด้วยซ้ำ แต่ดันมาเตะตา Bitcoin ในปี 2017 เมื่อราคา Bitcoin ทะยานจากไม่กี่ดอลลาร์ต่อเหรียญไปถึง 2 หมื่นดอลลาร์ 

แต่เขาก็ยังไม่ได้สนใจพื้นฐาน คุณประโยชน์ หรือคุณสมบัติเรื่อง Decentralize หรือเป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่จะต่อต้านเงินเฟ้อของ Bitcoin อยู่ดี 

สิ่งที่เขาสนใจคือประสิทธิภาพในการทำกำไรได้ในตลาด Bitcoin 

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

 

วันหนึ่งเขาก็พบว่าสามารถเอาเงินดอลลาร์ไปซื้อ Bitcoin แล้วเอามาขายในตลาดได้กำไรเยอะเลย 

แซมบอกว่า “ผมเข้ามาเกี่ยวข้องกับคริปโทฯ โดยไม่รู้เลยว่า คริปโทฯ คืออะไร มันแค่ดูเหมือนว่ามันมีโอกาสทางการค้าดีๆ มากมายให้ทำ” 

แซมมาเปิดแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโทฯ เพราะตอนนั้นในอเมริกาไม่มีกฎเกณฑ์เยอะแยะเรื่องคริปโทฯ ไม่เหมือนกับการเปิดกระดานซื้อขายแบบดั้งเดิมอย่างพวกหุ้น ที่ต้องมีใบอนุญาตยากๆ 

ไหนจะต้องจ้างทนายมาช่วย ซึ่งแพงมาก เขาจึงเปิดบริษัทค้าขายคริปโทฯ ได้ แบบแทบจะไม่ต้องใช้ต้นทุนเลย 

ปี 2017 แซม ลาออกจากงานมาเปิดบริษัทซื้อขายคริปโทฯ ชื่อ ALAMEDA Research ตอนแรกมีแค่แซมกับเด็กจบใหม่ไม่กี่คน แต่ใช้เวลาแค่ไม่นาน ธุรกิจของเขาก็สร้างรายได้มากมาย 

ไม่เชิงว่าเพราะเก่ง จะว่าเฮงก็ได้ เพราะมันถูกจังหวะพอดีกับตลาดขาขึ้นในปี 2017 

แซมสร้างเงินเป็นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ ภายในไม่กี่เดือน 

มกราคม ปี 2018 แซมทำการซื้อขาย Bitcoin ด้วยมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน แต่นี่คือ จุดพีคของตลาด Bitcoin 

แล้วมันกำลังเป็นขาลง...!!

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX
พฤษภาคม ปี 2019 แซมสร้างโอกาสที่ใหญ่โตกว่าเดิมได้จากตลาดขาลง เขาเปิดตัว FTX โดยการเอากำไร 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จาก ALAMEDA มาพัฒนา 

แต่การเปิดตัว 2 บริษัทนี้ต่างกันลิบลับ ALAMEDA เปิดในตลาดขาขึ้นที่ใครๆ ก็อยากเข้าหาคริปโทฯ

ทว่า... FTX เปิดในตลาดขาลง ตอนที่ราคา Bitcoin ร่วงไปแล้วราว 80% ใครๆ ก็คิดตรงกันว่า Bitcoin จบเห่แน่

แซม ยังเห็นโอกาสจากความผันผวนของ Bitcoin มาสร้างกำไร ในรูปแบบที่เรียกว่า Derivative หรือ การทวีคูณมูลค่าเงินในการเทรด หรือบางคนรู้จักในชื่อว่าการเล่น Future ซึ่งอันตรายมากสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ และความรู้ไม่เพียงพอ 

FTX เสนอการทวีคูณ 20 เท่า หมายความว่า ถ้าคุณลงเงิน 1,000 บาท คุณควบคุม Bitcoin ได้มูลค่า 20,000 ถ้า Bitcoin ขึ้นแค่ 5% คุณได้เงินเพิ่มเท่านึง หรือจาก 1,000 เป็น 2,000 แต่ถ้า Bitcoin ลงแค่ 5% คุณหมดตัว 

ซึ่ง แซม ได้ไปชักชวนนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญมากพอมาลงในตลาดนี้ ซึ่งนอกจากนักลงทุน ยังมีนักพนันจำนวนมาก ที่มุ่งหวังจะคว้าเงินก้อนโตจากวิธีนี้มาร่วมด้วย !!

ข้อมูลวงในเผย พฤษภาคม ปี 2020 FTX มีผู้ใช้งาน 200,000 คน ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน 

ตุลาคม ปี 2020 FTX มีผู้ใช้งานเพิ่มอีก 10 เท่าเป็น 2 ล้านคน ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.15 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นค่าเฉลี่ยซื้อขายกันคนละ 5,750 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

FTX คิดค่าธรรมเนียมซื้อขายราว 0.005% - 0.07% สร้างรายได้ราว 5 แสน - 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน มีรายได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ซึ่งฟอร์บส์รายงานว่าเป็นกำไรถึง 50% 

สุดท้าย แซม บอกว่า

“ผมไม่ได้คาดหวังให้ Bitcoin อวสาน หรือพุ่งสูงถึงดวงดาว ผมแค่หวังว่ามันยังให้โอกาสผมสร้างเงินไปบริจาคได้มากพอ”

 

รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

สายข่าววงในเปิดเผยข้อมูล แซม ได้บริจาคเงินช่วยเหลือสังคมไปแล้ว 25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยราว 891,487,500 บาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 19 สิงหาคม 65) และเป็นผู้บริจาครายใหญ่อันดับ 2 ให้กับประธานาธิบดี "โจ ไบเดน" เพื่อให้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาเอาไปใช้ในโครงการเพื่อช่วยเหลือสังคม และตั้งมูลนิธิ FTX เพื่อนำรายได้บางส่วน ในการมุ่งหวังและสานต่อ เพื่อเปลี่ยนสังคมโลกนี้ใบนี้ให้ดีขึ้น ในแบบที่เขาฝันไว้ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้าสู่โลกคริปโตฯ นั่นเอง


รู้จัก "แบงค์แมน-ฟรีด" จากมหาเศรษฐีคริปโต สู่ ผู้ต้องหาคดี FTX

logoline