
เก็บตกภาพ #ฝนดาวตกเจมินิดส์ เมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา เหนืออ่างเก็บน้ำห้วยลาน ต. ออนใต้ อ. สันกำแพง จ. เชียงใหม่ บันทึกตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 20:00-23:00 น. ในคืนดังกล่าวสามารถมองเห็นดาวตกกระจายทั่วท้องฟ้า รวมถึงเห็นดาวตกที่เป็นลูกไฟ (Fireball) เป็นแนวยาวพาดผ่านท้องฟ้า
ปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” เกิดจากโลกเคลื่อนที่ตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่หลงเหลือทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า Fireball มีศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ เกิดขึ้นระหว่างวันที่ 4-20 ธันวาคมของทุกปี และมักมีอัตราการตกสูงสุดในช่วงวันที่ 14 ธันวาคม เฉลี่ยประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง
มีประชาชนที่ให้ความสนใจนับพันคน ร่วมนอนนับดาวตก ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น โดยดาวตกเริ่มเห็นตั้งแต่ช่วง 20.00 น. ด้านหอดูดาวภูมิภาคโคราช ฉะเชิงเทรา คนแน่นขนัดเช่นกัน บรรยากาศการร่วมชม ฝนดาวตกเจมินิดส์ เมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
สำหรับกิจกรรม “โต้ลมห่มหนาว นอนนับฝนดาวตกเจมินิดส์” ณ อ่างเก็บน้ำห้วยลาน ต.ออนใต้ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ หนึ่งในเขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืดในประเทศไทย จัดโดยชุมชนออนใต้ มีประชาชนทยอยร่วมปักหลักรอชมฝนดาวตกเจมินิดส์ตั้งแต่หัวค่ำ ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ดาวตกดวงแรกปรากฏให้เห็นในเวลา 20.08 น.
จากนั้น มีดาวตกปรากฏให้เห็นเป็นระยะ สดร. ร่วมจัดกิจกรรมดาราศาสตร์ในพื้นที่ดังกล่าว ตั้งกล้องโทรทรรศน์ชนิดต่างๆ ให้ประชาชนส่องวัตถุท้องฟ้าที่น่าสนใจ อาทิ ดาวอังคาร ดาวเสาร์ ดาวพฤหัสบดี เนบิวลานายพราน กระจุกดาวคู่ เป็นต้น พร้อมบรรยายการดูดาวเบื้องต้น ด้านกิจกรรมชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา เนืองแน่นไปด้วยผู้คนเช่นกัน โดยเฉพาะที่ฉะเชิงเทรา เปิดพื้นที่ให้กางเต็นท์ค้างคืน มีประชาชนให้ความสนใจร่วมกางเต็นท์ชมฝนดาวตกเต็มพื้นที่หอดูดาว
"ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์" เกิดจากโลกเคลื่อนที่ตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่หลงเหลือทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า Fireball มีศูนย์กลางการกระจายบริเวณกลุ่มดาวคนคู่ เกิดขึ้นในช่วงวันที่ 4-20 ธันวาคมของทุกปี ปีนี้มีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เฉลี่ยประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง
ในช่วงระหว่างวันที่ 4-20 ธันวาคมของทุกปี เป็นช่วงที่เกิดปรากฏการณ์ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ มีศูนย์กลางกระจายอยู่บริเวณกลุ่มดาวคนคู่ สำหรับปีนี้นักดาราศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีอัตราการตกสูงสุดในคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง คืนดังกล่าวกลุ่มดาวคนคู่จะปรากฏขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเวลาประมาณ 20:00 น. สามารถสังเกตได้จนถึงเวลาประมาณ 23:00 น. หลังช่วงเวลาดังกล่าวยังคงสามารถชมฝนดาวตกได้ แต่จะมีแสงจันทร์ข้างแรม 6 ค่ำรบกวน จึงไม่เหมาะกับการชมฝนดาวตก
ปรากฏการณ์ฝนดาวตกเจมินิดส์ เกิดจากโลกเคลื่อนที่ตัดผ่านสายธารของเศษหินและเศษฝุ่นขนาดน้อยใหญ่ของดาวเคราะห์น้อย 3200 เฟธอน (3200 Phaethon) ที่หลงเหลือทิ้งไว้ขณะเคลื่อนผ่านเข้ามาในระบบสุริยะชั้นใน เมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางดังกล่าว แรงดึงดูดของโลกจะดึงฝุ่นและหินเข้ามาเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศ เกิดเป็นลำแสงวาบ หรือในบางครั้งเกิดเป็นลูกไฟขนาดใหญ่เรียกว่า Fireball
สำหรับผู้สนใจชมปรากฏการณ์ฝนดาวตกควรเลือกสถานที่ท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีแสงไฟรบกวน สังเกตได้ด้วยตาเปล่า ไม่จำเป็นต้องมองผ่านกล้องโทรทรรศน์ แนะนำให้นอนชม เนื่องจากฝนดาวตกกระจายทั่วท้องฟ้า สำหรับฝนดาวตกเจมินิดส์มีจุดเด่นคือ ความเร็วของดาวตกไม่มากนัก ประกอบกับมีอัตราตกค่อนข้างมากจึงสังเกตได้ง่าย สามารถมองเห็นได้รอบทิศ ถือเป็นโอกาสดีในการติดตามชมฝนดาวตก
ขอขอบคุณเครดิตภาพจาก : สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ