นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) เปิดเผยว่า จากปัญหาการเผา การถอดแยกและการทิ้งซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 มลพิษทางอากาศ การปนเปื้อนสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมทั้งในดิน น้ำใต้ดิน แหล่งน้ำทั่วไป นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้ คพ.ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้เน้นการสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่างที่เกี่ยวข้อง
โดย คพ.ได้ร่วมกับภาครัฐ สมาคม ผู้ประกอบการในธุรกิจรับซื้อทองแดง จำนวน 103 แห่ง ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือและประกาศเจตนารมย์ “ไม่รับซื้อทองแดงและวัสดุมีค่าอื่นจากการเผา” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เพื่อเป็นการป้องกันและตัดวงจรการเผา การถอดแยกและการทิ้งซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างไม่ถูกต้อง และตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – เดือนกันยายน 2565 ได้ขยายเครือข่ายเพิ่มขึ้นเป็น 313 แห่ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าสถานประกอบการร้านรับซื้อของเก่าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม คพ. ได้รับแจ้งจากประชาชน ปัจจุบันยังคงมีผู้ประกอบการบางรายประกาศรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาผ่านสื่อออนไลน์อย่างโจ่งแจ้งในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการไม่เห็นแก่ประโยชน์ของการปกป้องสุขภาพอนามัยของประชาชนในภาพรวม คพ. จึงขอประชาสัมพันธ์เพื่อเน้นย้ำกับผู้ประกอบการอีกครั้งว่า การขับเคลื่อนนโยบายในเรื่องนี้ เป็นการสานพลังของภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาครัฐ ในการร่วมกันดูแลการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้ดำเนินการอย่างถูกสุขลักษณะ ต้องไม่มีการเผาซากผลิตภัณฑ์ฯ อย่างที่ผ่านมา
ขอให้ช่วยกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความสำเร็จที่เกิดขึ้น ประโยชน์ที่ส่วนรวมจะได้รับให้สาธารณชนรับทราบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ผู้ที่ทำดีได้มีกำลังใจในการปฏิบัติตามนโยบาย และ คพ. ขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลการลักลอบเผาสายไฟในพื้นที่ เพื่อเป็นแรงกดดันทางสังคมไม่ให้เกิดการเผาทองแดงอีกต่อไป
โดย คพ. จะลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง และเน้นย้ำนโยบายไม่รับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผา สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการที่ยังมีการรับซื้อ เพื่อให้ผู้ประกอบการยกเลิกการรับซื้อทองแดงที่ได้จากการเผาอย่างเด็ดขาดต่อไป นายปิ่นสักก์ กล่าว