เวลา 21.00 น.ของวันอาทิตย์ที่ 2 ตุลาคม 2565 นายสุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 ออกประกาศ สำนักงานชลประทานที่ 1 กรมชลประทาน ฉบับที่ 2/2565 เรื่อง เฝ้าระวังระดับน้ำบริเวณเม่น้ำปิง (สถานี P1 สะพานนวรัฐ อำเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่)
และได้สั่งการให้โครงการชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมรับมือต่อเนื่อง และร่วมติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง ณ ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ สำนักงานชลประทานที่ 1 (SWOC1) พร้อมด้วย นายอภิวัฒน์ ภูมิไธสง ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา หัวหน้าหน้าฝ่าย ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
โดยคาดการณ์ว่าปริมาณน้ำที่สถานี P.1 สะพานนวรัฐ มีแนวโน้มสูงถึงระดับวิกฤติที่ระดับ 4.00-4.10 เมตร ในวันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2565 ช่วงเวลา 04.00-06.00 น. จากการคาดการณ์ที่น้ำที่จุด P.1 สูงสุดที่ระดับ 4.10 เมตร ก็จะส่งผลให้มีพื้นที่อาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติม จึงเตือนว่าจะมีพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมจากเดิมที่ท่วมในโซนที่ 1 และ โซนที่ 2 เพิ่มเป็น โซนที่ 3 บริเวณถนนเจริญประเทศทั้งหมด และโซนที่ 4 บริเวณท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ
ทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ 1 จะติดตาม/เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และรายงานให้ทราบอย่างต่อเนื่อง และขอให้พื้นที่ลุ่มต่ำตามแนวแม่น้ำปิง เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำตามแนวแม่น้ำปิงที่เพิ่มสูงขึ้นดังกล่าวด้วย จึงขอให้เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่เสี่ยง ดังนี้
1.โซน 1 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.70 เมตร บ้านป่าพร้าวนอก (บางส่วน) ร้านอาหารท่าน้ำ ทางลอดใต้สะพานป่าแดด
2. โซน 2 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +3.90 เมตร บ้านเด่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดเชียงใหม่ (บ้านเด่น) หมู่บ้านจินดานิเวศน์
3. โซน 3 ระดับน้ำที่สะพานนวรัฐ +4.00 เมตร ถนนเจริญประเทศ โรงเรียนมงฟอร์ตประถม วัดชัยมงคล หมู่บ้านเวียงทอง
4. โซน 4 ระดับที่สะพานนวรัฐ +4.10 เมตร วัดท่าสะต๋อย ตลาดทองคำ ค่ายกาวิละ ตลาดสันป่าข่อย
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 2 ต.ค.2565 ประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนมาก มาติดตาม สถานการณ์แม่น้ำปิง ที่ จุดวัดระดับน้ำ P1 บริเวณเชิงสะพาน นวรัตน์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยระดับน้ำในแม่น้ำปิง อยู่ที่ 3.77 เมตร ขณะที่จุดวิกฤตรับได้เพียง 3.7 เมตรเท่านั้น
"นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร" ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดได้เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์น้ำปิง ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยที่ผ่านมาได้วางแนวกระสอบทรายเสริมพนังกั้นน้ำ ซึ่งสามารถรับน้ำได้กว่า 4 เมตร และติดตามรายงาน น้ำจากพื้นที่ต้นน้ำเพื่อวางแผนการป้องกัน ซึ่งมั่นใจว่า จากความร่วมมือกันทุกฝ่าย จะสามารถรับมือได้ และ หากชุมชนไหน ต้องการกระสอบทราย สามารถ ประสานเข้ามาได้ ซึ่งทางจังหวัดได้เตรียมไว้เพียงพอ
ด้าน"นายอัศนี บูรณุปกรณ์" นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ได้เสริมแนวพนังกั้นน้ำ รวมถึงปิดจุดน้ำขึ้น เพื่อป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ แต่การปิดอาจจะมีรอยรั่วอยู่บ้างหางแรงดันน้ำสูง ซึ่งพบรอยรั่วก็จะเร่งสูบน้ำออกทันที ซึ่งทั้งหมดสามารถรับน้ำได้ถึง 4 เมตร ต้นๆ ขณะที่ชุมชนป่าพร้าวนอก ถือเป็นจุดแรก หากน้ำปิงเพิ่งสูงขึ้นจะมีน้ำท่วมชุมชน จึงได้ ประสานให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูง และ ได้ตั้งศูนย์ประสานงาน เข้าช่วยเหลือชาวบ้านได้ทันที
ล่าสุด"นายจรินทร์ คงศรีเจริญ" ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ กล่าวว่า ศูนย์วิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักงานชลประทานเชียงใหม่ที่ 1 คาดการณ์ว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำปิง ที่สถานีP1 (สะพานนวรัฐ) จะสูงสุดที่ 3.9 เมตร ขณะที่ จุดวัดระดับน้ำ P67 อำเภอแม่แตงระดับน้ำเริ่มทรงตัว ซึ่งจะทำให้ อีก ประมาณ 6 ชั่วโมง ระดับน้ำในแม่น้ำปิงในตัวเมืองจะเริ่มทรงตัว และ น้ำส่วนใหญ่ที่มารอบนี้ ถือว่ามีปริมาณน้ำมากในรอบ 11 ปี แต่ยังไม่เท่าปี 2554
ขณะที่ น้ำแม่แตงยังมีมีปริมาณมาก 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และยังมีลำน้ำสบทนอื่นๆ แม่น้ำปิง และแม่น้ำแม่ริมบางส่วนประมาณ 60 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที จึงทำให้ระดับน้ำแม่น้ำปิงจะสูงกว่าเดือนสิงหาคม 2565 ที่มีพายุมู่หลาน และ คาดว่าระดับน้ำปิงในตัวเมืองเชียงใหม่ จะยังทรงตัว ไปอีกสองวัน และปัจจัยเสี่ยงคือ ช่วงนี้ ยังมีฝน ก็อาจจะทำให้ แม่น้ำปิงเพิ่มขึ้นได้