svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อีสานโพลเผย อีสานแห่ปลูกกัญชาและเห่อกินอาหารผสมกัญชา

21 มิถุนายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อีสานโพลสำรวจความคิดเห็นคนอีสาน เรื่อง “คนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี” ผลสำรวจระบุ ครัวเรือนอีสานเกินครึ่งจะปลูกกัญชาจะกินและลองกินอาหารผสมกัญชา แต่ไม่แห่เสพกัญชา คาดอีกประมาณ 1 ปี ราคากัญชาจะลดลงทำให้การปลูกกัญชาได้กำไรไม่มาก และอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน

 21 มิ.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานผลสำรวจของอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “คนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี” ผลสำรวจพบว่า ครัวเรือนอีสานเกินครึ่งจะปลูกกัญชา ส่วนใหญ่จะกินและลองกินอาหารผสมกัญชา แต่ไม่แห่เสพกัญชา คาดอีกประมาณ 1 ปี ราคากัญชาจะลดลงทำให้การปลูกกัญชาได้กำไรไม่มาก และอาจไม่ช่วยแก้ปัญหาความยากจน นอกจากนี้เกินครึ่งมีความกังวลมากถึงมากที่สุดเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน หนุนให้ห้ามขายและบริโภคกัญชาในสถานที่ราชการ วัด โรงพยาบาล และสถานศึกษา เชื่อการปลูกกัญชาเสรีอาจช่วยลดปัญหายาเสพติดพวกยาบ้า ยาอี ยาเค ได้บ้าง ข้อดีและข้อเสียของการปลูกกัญชาเสรียังก้ำกึ่งแต่ค่อนไปทางมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย หนุนจำกัดปริมาณการปลูกต่อครัวเรือน และการผลักดันการปลูกกัญชาเสรีส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคภูมิใจไทยในอีสานเพิ่มขึ้น

อีสานโพลเผย อีสานแห่ปลูกกัญชาและเห่อกินอาหารผสมกัญชา

รศ. ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล เปิดเผยว่า การสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานกับการปลูกกัญชาเสรี ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายน 2565 จากกลุ่มตัวอย่างอายุ 18 ปีขึ้นไป 1,105 รายในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด เมื่อสอบถามกลุ่มตัวอย่างว่า “ครัวเรือนของท่านจะปลูกต้นกัญชาหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 53.1 จะปลูก และร้อยละ 46.9 จะไม่ปลูก โดยกลุ่มที่จะปลูกแยกเป็นดังนี้ร้อยละ 25.6 จะปลูก 1 - 5 ต้น ร้อยละ 14.7 จะปลูก 6 - 10 ต้น และ ร้อยละ 12.8 จะปลูกมากกว่า 10 ต้น แต่ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด

อีสานโพลเผย อีสานแห่ปลูกกัญชาและเห่อกินอาหารผสมกัญชา

เมื่อสอบถามต่อว่า “ท่านจะกินอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชาหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 73.2 จะมีการกินหรือลองกิน และ ร้อยละ 26.8 จะไม่กิน โดยกลุ่มที่จะกินหรือลองกินแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 33.2 อาจจะลองแค่ลองกินไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 33.8 จะกินตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 6.2 ที่จะกินบ่อยหรือกินเป็นประจำ

         ส่วนคำถาม “ท่านจะเสพกัญชาหรือไม่” พบว่า ร้อยละ 66.9 จะไม่เสพ และร้อยละ 33.1 จะเสพหรือลองเสพ โดยกลุ่มที่จะเสพหรือลองเสพแยกเป็นดังนี้ ร้อยละ 19.0 อาจจะลองแค่ลองเสพไม่กี่ครั้ง ร้อยละ 10.6 จะเสพตามโอกาสต่างๆ และมีเพียงร้อยละ 3.5 ที่จะเสพบ่อยหรือเสพเป็นประจำ

         คำถาม“หลังจากนี้ประมาณ 1 ปี เมื่อประชาชนปลูกกัญชาเยอะขึ้น ราคากัญชา จะเป็นอย่างไร” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 48.1 เห็นว่า ไม่ถูกไม่แพงปลูกแล้วยังพอมีกำไร รองลงมาร้อยละ 35.2 เห็นว่า พอๆ กับผักสวนครัวปลูกแล้วไม่ค่อยมีกำไร และมีเพียงร้อยละ 16.6 เห็นว่า ยังแพงมากปลูกแล้วได้กำไรสูง

           เมื่อสอบถามต่อว่า “การอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ จะช่วยให้ประเทศลดปัญหาความยากจนได้หรือไม่” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 66.7 เห็นว่า ไม่ช่วยลดปัญหาความยากจนหรืออาจเพิ่มปัญหา ขณะที่ ร้อยละ 33.3 เห็นว่าจะช่วยลดปัญหาความยากจน

เมื่อสอบถามต่อว่า “ท่านกังวลว่าบุตรหลานของท่านหรือเยาวชนจะบริโภคหรือเสพกัญชาจนเสียสุขภาพหรือการเรียน หรือไม่อย่างไร” พบว่า เมื่อเรียงจากระดับความกังวล เป็นดังนี้ ร้อยละ 23.7 ตอบว่า กังวลมากที่สุด ร้อยละ 24.9 ตอบว่า กังวลมาก ร้อยละ 33.5 ตอบว่า กังวลปานกลาง ร้อยละ 12.4 ตอบว่า กังวลน้อย และมีเพียงร้อยละ 5.5 ที่กังวลน้อยที่สุดหรือไม่กังวลเลย

          เรื่องของคำถาม“การอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ จะทำให้ปัญหายาเสพติดพวกยาบ้า ยาอี ยาไอซ์ ยาเค ในปัจจุบัน เพิ่มขึ้นหรือลดลง” พบว่า โดยภาพรวมเห็นว่าปัญหายาเสพติดจะเท่าๆ เดิม ค่อนไปทางลดลง โดยมีรายละเอียดดังนี้ อันดับหนึ่งร้อยละ 45.8 เห็นว่า ปัญหาจะเท่าๆ เดิม รองลงมา ร้อยละ 24.5 เห็นว่า ปัญหาจะลดลง ตามมาด้วย ร้อยละ 17.4 เห็นว่า ปัญหาจะเพิ่มขึ้น ร้อยละ 6.3 เห็นว่า ปัญหาจะลดลงมาก และร้อยละ 6.0 เห็นว่า ปัญหาจะเพิ่มขึ้นมาก

            เมื่อสอบถามต่อว่า “การอนุญาตให้ประชาชนปลูกกัญชาได้ มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรต่อประเทศไทย” พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 53.0 เห็นว่า มีข้อดีพอๆ กับข้อเสีย รองลงมา ร้อยละ 27.2 เห็นว่า ข้อดีมากกว่าข้อเสีย และร้อยละ 19.8 เห็นว่า ข้อเสียมากกว่าข้อดี

เมื่อสอบถามต่อว่า “กฎหมายควรกำหนดให้สถานที่ราชการ โรงพยาบาล วัด โรงเรียนและสถานศึกษา เป็นเขตห้ามขาย/บริโภคกัญชาและอาหารผสมกัญชา” พบว่า อันดับหนึ่งร้อยละ 83.3 เห็นด้วย รองลงมา ร้อยละ 12.5 ไม่เห็นด้วย และร้อยละ 4.2 ระบุอื่นๆ หรือไม่แน่ใจ

เมื่อสอบถามต่อว่า “กฎหมายควรกำหนดให้แต่ละครัวเรือนปลูกกัญชาเพื่อใช้ในครัวเรือนได้ไม่เกินกี่ต้น” พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.4 ยังมองว่ารัฐควรจำกัดจำนวนการปลูก โดยแยกเป็น ร้อยละ 26.3 ให้ปลูกไม่เกิน 6 ต้น ร้อยละ 23.2 ให้ปลูกไม่เกิน 10 ต้น และร้อยละ 12.9 ให้ปลูกไม่เกิน 20 ต้น อย่างไรก็ตามมีถึงร้อยละ 34.9 ที่สนับสนุนให้ปลูกได้เสรีไม่จำกัด และมีร้อยละ 2.8 ที่ระบุอื่นๆ หรือไม่แน่ใจ

เมื่อสอบถามต่อว่า “การผลักดันการปลูกกัญชาเสรีของพรรคภูมิใจไทย จะทำให้ความนิยมของพรรคภูมิใจไทยในอีสาน เป็นอย่างไร” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 61.5 ระบุว่า ความนิยมพรรคภูมิใจไทยเท่าๆ เดิม รองลงมา ร้อยละ 17.0 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้น ตามมาด้วย ร้อยละ 13.7 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลง ร้อยละ 6.1 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นมาก และร้อยละ 1.7 ความนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลงมาก ซึ่งโดยภาพรวมกลุ่มที่ระบุว่าความนิยมพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นหรือเพิ่มขึ้นมาก รวมแล้วมีร้อยละ 23.1 ขณะที่ กลุ่มที่ระบุว่าความนิยมพรรคภูมิใจไทยลดลงหรือลดลงมาก รวมแล้วมีร้อยละ 15.4 ดังนั้นความนิยมของพรรคภูมิใจไทยมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นจากการผลักดันการปลูกกัญชาเสรี

           และสุดท้ายเมื่อถามว่า “ถ้าเลือกตั้ง ส.ส. วันนี้ ท่านมีแนวโน้มจะลงคะแนนให้พรรคใด” พบว่า อันดับหนึ่ง ร้อยละ 36.0 ระบุพรรคเพื่อไทย รองลงมา ร้อยละ 19.5 พรรคก้าวไกล อันดับสาม ร้อยละ 13.7 พรรคภูมิใจไทย (ซึ่งเพิ่มจากเดือนเมษายน 2565 ที่ได้ร้อยละ 9.0 จากผลของการผลักดันการปลูกกัญชาเสรี) อันดับสี่ร้อยละ 13.6 พรรคพลังประชารัฐ อันดับห้า ร้อยละ 11.1 พรรคไทยสร้างไทย อันดับหก ร้อยละ 2.9 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับเจ็ด ร้อยละ 2.2 และร้อยละ 1.0 พรรคอื่นๆ

อีสานโพลเผย อีสานแห่ปลูกกัญชาและเห่อกินอาหารผสมกัญชา

ภาพ/ข่าว: พรพรรณ เพ็ชรแสน สำนักข่าวเนชั่น ศูนย์ข่าวภาคอีสาน

logoline