"บิ๊กโจ๊ก" พร้อมตัวแทน UNHCR เร่งช่วยเหลือ "โรฮีนจา" ถูกทิ้งเกาะดง 59 คน

จากกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา พบชาวโรฮีนจา 59 คน ที่บริเวณเกาะดง ห่างจากเกาะหลีเป๊ะประมาณ 20 กม.ซึ่งถูกนายหน้าลักลอบพาเข้ามายังประเทศไทย แล้วทิ้งไว้กลางทาง โดยหลอกลวงว่าเดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (18 มิ.ย.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อม Ms.Nivene Albert ผู้แทนจาก UNHCR และ Mr.Phil Robertson ผู้แทนจากฮิวแมนไรท์วอทช์  ลงพื้นที่ จ.สตูล เพื่อติดตามความคืบหน้า ที่บริเวณกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 ซึ่งจัดเป็นที่พักชั่วคราวของชาวโรฮีนจากลุ่มนี้

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ชาวโรฮีนจากลุ่มนี้ถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้จริง ซึ่งมีการประสานกับตำรวจน้ำ และ ศรชล.ของกองทัพเรือ ให้เข้าช่วยเหลือทั้งหมดขึ้นฝั่ง เพื่อให้มีการช่วยเหลือตามหลักสิทธิมนุษยชน นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันตรวจสอบว่า มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์หรือไม่

โดยวันนี้ได้พาคณะจากผู้แทน UNHCR และฮิวแมนไรท์วอทช์ มาติดตามดูแลสภาพความเป็นอยู่ของชาวโรฮีนจา และปรึกษาหารือกันว่า จะจัดส่งไปประเทศที่ 3 อย่างไร และจะมีการประสานงานกับ ผบ.ตร.มาเลเซีย ขอความร่วมมือในการติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับเอเย่นต์ชาวมาเลเซียทั้ง 5 คน เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ช่วงที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผบก.ภ.จว.สตูล ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีอาญา โดยการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ผลปรากฏว่า ไม่พบผู้ใดเป็นเหยื่อจากการค้ามนุษย์ โดยขั้นตอนต่อไป จะเป็นการสอบปากคำพยาน เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดนำชาวโรฮีนจากลุ่มนี้เข้ามาในไทย โดยบุคคลที่มีบัตร UNHCR จะส่งต่อไปยังองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่จะรับตัวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง และบุคคลที่เหลือ จะส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายไทย

ขอความร่วมมือพี่น้องสื่อมวลชน ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชน ได้ทราบถึงการดำเนินการ และการกระทำผิดที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำพาคนเข้าราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หากพบเห็นการกระทำผิดในลักษณะดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมายัง ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) โดยตรง

ผ่านช่องทางสายด่วน 1599 , เว็บไซต์ทางการ , และเฟซบุ๊ก หรือ LineOA: @HUMANTRAFFICKTH หรือ TWITTER: @safe_dek หรือช่องทางใหม่ล่าสุด คือ การสแกน QRCODE กรอกแบบฟอร์มในการแจ้งเหตุและเบาะแสการกระทำผิดดังกล่าว เพื่อแจ้งเบาะแสในการปราบปรามการกระทำผิดต่อไป