นักการเมือง-ข้าราชการ หนาว ป.ป.ช.ประสานขอข้อมูล เครดิตสวิสรั่ว แล้ว

28 กุมภาพันธ์ 2565 จากกรณีสื่อต่างประเทศเปิดโปง เรื่องบัญชีลูกค้าเครดิตสวิสรั่วไหลตั้งแต่ช่วงปี 2483–2553 เชื่อมโยงกับลูกค้าของเครดิตสวิส 30,000 รายทั่วโลก มีผู้รับผลประโยชน์มากกว่า 8 หมื่นล้านปอนด์ หรือประมาณ 3.5 ล้านล้านบาท ที่ถืออยู่กับสถาบันการเงินที่มีชื่อเสียงอันดับสองของสวิตเซอร์แลนด์

นอกจากนี้ในรายงานที่เปิดเผยออกมา ระบุ ถึงประเทศที่มีลูกค้าเปิดบัญชีมากที่สุด ส่วนใหญ่ เป็นประเทศที่ประสบปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ ที่พยายามซุกซ่อนเงิน และทรัพย์สินของตนเองไว้ในต่างประเทศ โดยประเทศไทยถูกระบุว่า มีกว่า 1,000 บัญชี พบเป็นนักธุรกิจชั้นนำ นักการเมือง และอดีตข้าราชการ ที่ต่างเคยถูกตั้งคำถามเรื่องการโยกย้ายเพื่อซุกซ่อนทรัพย์สิน หวังหลีกเลี่ยงภาษี

จากกรณีดังกล่าวล่าสุด นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า เบื้องต้น ป.ป.ช. ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลเท่าที่ทำได้ พร้อมกับประสานขอข้อมูลไปยังประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง บางประเทศให้ข้อมูล บางประเทศไม่ให้ เราไม่สามารถทำอะไรได้ อย่างไรก็ดีที่ได้ข้อมูลมาแล้วจะมาตรวจสอบว่า เชื่อมโยงกับนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐเหล่านั้นหรือไม่ โดยขอยืนยันว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างดำเนินการแล้วทั้งหมด

ทั้งนี้ ธนาคารเครดิตสวิส (Credit Suisse)  ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมาปฏิเสธความผิดทุกข้อกล่าวหา โดยระบุว่า 

“เครดิตสวิสขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาและการกล่าวเป็นนัยเกี่ยวกับแนวทางธุรกิจของธนาคาร กรณีดังกล่าวถือเป็นเรื่องในอดีต และคำบอกเล่าเหล่านี้ก็อ้างอิงมาจากข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน คลาดเคลื่อน หรือเลือกเฟ้นมาโดยไม่ใส่ใจบริบท จนได้ผลสืบสวนที่มีการชี้นำเช่นนี้”

ที่ผ่านมา OCCRP (Organized Crime and Corruption Reporting Project) ได้ดำเนินการสอบเครดิตสวิสหลายครั้งในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา และตรวจสอบบัญชีจำนวนมาก โดยประมาณ 90% เป็นบัญชีที่ถูกปิดไปแล้วหรืออยู่ระหว่างกระบวนการปิดบัญชี ซึ่งกว่า 60% ปิดไปตั้งแต่ก่อนปี 2558

“ส่วนบัญชีที่ยังมีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เรายินดีที่จะตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ พิจารณา และดำเนินการควบคุมอื่นๆ ตามกรอบงานในปัจจุบันของเรา โดยจะวิเคราะห์ประเด็นดังกล่าวต่อไปและดำเนินการเพิ่มเติมหากจำเป็น”