
ประโยชน์มากมายของ "ขิง" มีประโยชน์มายจริงๆ ในสิ่งที่เราอาจจะยังไม่รู้ บางคนอาจจะเหม็นหรือไม่ได้เเต่เดี๋ยวนี้ ขิง มีหลากหลายรูปเเบบ ทั้งเเบบแปรรูป ทั้งเป็นน้ำเราสามารถเลือกทานตามที่สะดวกเลย เเต่วันนี้เรามาดูประโยชน์บ้างดีกว่ามีอะไรบ้าง
สามารถรักษากรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน เป็นภาวะที่เกิดจากกรดหรือน้ำย่อยในกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมายังหลอดอาหาร ส่งผลทำให้หลอดอาหารอักเสบได้ แต่ขิงสามารถช่วยรักษากรดไหลย้อนได้เช่นกัน โดยนำขิงแก่สด 2-3 แง่ง มาทุบให้ละเอียด จากนั้นต้มในน้ำเดือด ปิดไฟ รอให้อุ่น แล้วกรองมาดื่มหรืออาจจะนำมาจิบในระหว่างวันบ่อยๆ จะช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้
ช่วยลดอาการท้องอืด
อาการท้องอืดหรือรู้สึกว่าอาหารไม่ย่อย ขิงช่วยบรรเทาอาการได้ เพียงแค่ดื่มน้ำขิงหรือจะรับประทานสดๆ ก็จะช่วยรักษาอาการดังกล่าวได้ เพราะขิงเป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อน นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยขับลมและช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แก้ปัญหาผมขาดร่วง
สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมขาดร่วง แนะนำให้นำเหง้าขิงสดไปผิงไฟจนอุ่น แล้วนำมาตำให้แหลก จากนั้นนำมาพอกบริเวณที่มีผมขาดร่วง พอกวันละ 2 ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นำน้ำขิงสดคั้นผสมกับน้ำมันมะกอก จากนั้นนำมาหมักผม นวดให้ทั่วศีรษะแล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีจึงล้างออก วิธีนี้จะช่วยลดปัญหาผมขาดร่วงได้ดี พร้อมทั้งช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรง นุ่มลื่น และไม่ขาดง่าย
อาการวิงเวียนศีรษะอาการที่เกิดขึ้นพร้อมกับการคลื่นไส้นี้อาจบรรเทาให้ดีขึ้นได้ด้วยการใช้คุณประโยชน์จากขิง จากงานวิจัยที่ทดลองด้วยการให้ผู้ที่มีอาการบ้านหมุน และตากระตุกจากการกระตุ้นโดยใช้อุณหภูมิรับประทานผงเหง้าขิง ปรากฏว่าเหง้าขิงช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะได้อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มที่รับประทานยาหลอก แต่ไม่ได้ช่วยลดระยะเวลาหรือชะลอการกระตุกของตามากนัก
โรคข้อเสื่อม
ขิงอาจมีสรรพคุณลดอาการเจ็บที่เกิดจากโรคข้อเสื่อม จากการทดลองหนึ่งที่ให้ผู้ป่วยรับประทานสารสกัดจากขิงชนิดหนึ่ง (Zintona EC) ในปริมาณ 250 กรัม วันละ 4 ครั้ง พบว่าช่วยลดอาการปวดข้อเข่าหลังจากการรักษาเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนอีกงานวิจัยที่ใช้สารสกัดจากขิงผสมกับข่า พบว่าให้ผลลัพธ์ในการช่วยลดอาการเจ็บขณะยืน อาการเจ็บหลังเดิน และอาการข้อติด
ลดระดับน้ำตาลในเลือดเเละยังลดความเสี่ยงของการเกิดความดันโลหิตสูง
สิ่งที่เรียกว่า ขิง ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ควรบริโภคตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากขิงอาจไปทำปฏิกิริยากับยาที่ผู้ป่วยรับประทานอยู่ได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยยังต้องติดตามผลของระดับน้ำตาลอย่างใกล้ชิด หากรับประทานมากเกินไปก็จะทำให้ระดับอินซูลินลดลง และอาจทำให้ร่างกายอยู่ในขีดอันตรายได้ขิงเป็นสมุนไพรที่มีรสจัดและเป็นสมุนไพรที่มีโซเดียมที่ต่ำมาก ซึ่งอาหารที่มีโซเดียมต่ำจะช่วยลดความดันโลหิตสูงได้
อาการแพ้ท้อง
การรับประทานขิงอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนศีรษะ ผลการศึกษาชิ้นหนึ่งที่ช่วยยืนยันคุณสมบัตินี้เป็นการทดลองในหญิงที่มีอายุครรภ์ต่ำกว่า 20 สัปดาห์ จำนวน 120 คน ซึ่งเผชิญอาการแพ้ท้องทุกวันนานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และไม่รู้สึกดีขึ้นแม้จะเปลี่ยนการรับประทานอาหารแล้วก็ตาม หลังจากรับประทานสารสกัดจากขิง 125 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับขิงแห้ง 1.5 กรัม วันละ 4 ครั้ง 4 วัน ผลลัพธ์ได้แสดงให้เห็นว่าขิงอาจสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในฐานะการรักษาทางเลือกต่ออาการแพ้ท้องได้
ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
ขิง มีคุณสมบัติที่ช่วยต้านมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการศึกษาพบว่า ขิง คือสมุนไพรที่ช่วยทำให้เซลล์มะเร็งในรังไข่ตายได้ เพราะสารเคมีในขิงจะไปกระตุ้นเอนไซม์กลูตาไธโน-เอส-ทรานสเฟอรเรส ซึ่งเอนไซม์ชนิดนี้ คือ สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้