
ผู้เสียหายรายนี้ คือ คุณบุรฮาน ตาเยะ เป็นชาวอำเภอเมืองปัตตานี คุณบุรฮาน เล่าให้นักข่าวฟังว่า เกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นแผลบริเวณข้อเท้า ขนาดแผลประมาณ 1 นิ้วเท่านั้น ซึ่งตนก็ไม่ได้กังวลใจอะไร จึงยังไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาแผลทันที กระทั่งเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม แผลที่ข้อเท้าเริ่มบวม แดง และมีอาการปวด จึงเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี
พอไปที่โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่ก็พาไปเอ็กซเรย์ ผลปรากฏว่าขาไม่ได้หัก แต่แพทย์กลับให้ตนไปเข้าเฝือกที่ห้องฉุกเฉิน ซึ่งตนก็งงว่าทำไมต้องใส่เฝือกด้วย และเฝือกก็กดทับแผลไว้ หลังจากเข้าเฝือกได้ 2 วัน อาการปวดแผลเริ่มหนักขึ้น จึงตัดสินใจเอาเฝือกออก ปรากฏว่าแผลเดิมที่เคยมีขนาดประมาณ 1 นิ้ว กลับขยายกว้างขึ้น ลามมาถึงหน้าแข้ง จึงตัดสินใจให้ครอบครัวพาไปหาหมอที่คลินิก เพราะไม่กล้ากลับไปที่โรงพยาบาล ทางคลินิกแจ้งว่าแผลเน่าแล้ว ตนรู้สึกตกใจมาก จึงได้ย้อนกลับไปรักษาแผลที่โรงพยาบาลปัตตานีอีกครั้ง รอบนี้ พยาบาลบอกว่า ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล พร้อมแจ้งว่า เดี๋ยวคุณหมอจะมาผ่าตัดเอาเนื้อร้ายออกให้ทีหลัง แต่ก็ต้องนอนโรงพยาบาลอีก 6 วันถึงจะได้พบแพทย์ ไปฟังเสียงคุณบุรฮานกันค่ะ
ต้องเอาที่ไปจำนองหาเงินจ่ายค่ารักษาครึ่งล้าน
นี่แหละค่ะ ความสมบุกสมบันจากการรักษาตัวของคุณบุรฮาน ทีนี้พอไปถึงโรงพยาบาลเอกชน แพทย์ก็แจ้งว่าแผลที่เกิดจากอุบัติติดเชื้อ ใกล้เน่า ต้องผ่าตัดเป็นด่วน ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเกือบ 5 แสนบาท แต่ตนเองก็ต้องยอม เพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดตามมา
"ล่าความจริง" ได้เข้าสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นกับ นายแพทย์ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัตตานี ได้รับการชี้แจงว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบกรณีของคุณบุรฮาน ตาเยะ แต่คาดว่าแพทย์ที่ทำการรักษาน่าจะมีเหตุผลในการเข้าเฝือก เพราะการเข้าเฝือกก็ไม่ได้หมายความว่าขาจะต้องหักเสมอไป และจะขอตรวจสอบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อชี้แจงต่อสังคมอย่างละเอียดต่อไป
ก็ต้องรอฟังคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาลก่อน ล่าความจริงจะติดตามมารายงานให้คุณผู้ชมทราบต่อไป รวมถึงใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับค่ารักษาที่บานปลายไปเกือบ 5 แสนบาทด้วย