
ผู้สื่อข่าวสำรวจ ที่สถานีขนส่งจังหวัดยะลา พบว่า รถทัวร์โดยสารของบริษัทสยามเดินรถ ที่เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร มาถึงสถานีขนส่งจังหวัดยะลา 2 คัน หยุดส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งจังหวัดยะลาเท่านั้น ไม่เดินทางต่อไปยัง อ.เบตง จ.ยะลา แต่ได้อำนวยความสะดวก ให้ผู้โดยสารที่มากับรถทั้ง 2 คัน นั่งรถตู้โดยสารไปยังจุดหมาย อ.เบตง
ขณะที่รถทัวร์โดยสาร สายภูเก็ต-เบตง ของบริษัท เที่ยงธรรมพูลผล ซึ่งวิ่งรับส่งผู้โดยสารจาก จ.ภูเก็ต ไปยัง อ.เบตง จ.ยะลา ก็หยุดรับส่งผู้โดยสารที่ สถานีขนส่งยะลา ผู้โดยสารที่มาจาก จ.ภูเก็ต ก็ต้องขึ้นรถตู้โดยสารไปยัง อ.เบตง เช่นเดียวกัน
พนักงานขับรถของบริษัทสนามเดินรถ บอกว่า เมื่อวาน เขาได้รับแจ้งจากนายสถานีขนส่งว่า ให้จอดรถปลายทางที่ขนส่งยะลา เท่านั้น ไม่ให้เดินทางไปยัง อ.เบตง ก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รถคันที่เกิดเหตุเป็นรถ 1 ของจำนวน 5 คัน ของบริษัท ที่วิ่งในเส้นทางนี้ ในช่วงนี้ก็คงจะต้องหยุดรับส่งที่สถานีขนส่งยะลา จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
ขณะที่ พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา บอกว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ประสานการปฏิบัติกับเจ้าหน้าที่ สภ.บันนังสตา ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 33 และ ฝ่ายปกครอง อ.บันนังสตา ในการจัดชุดติดตามสืบสวน ลงพื้นที่ ที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหาหลักฐานเพิ่มเติม และตรวจสอบเส้นทางการหลบหนีของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ
ทางเจ้าหน้าที่ เชื่อว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ เป็นการสร้างสถานการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ แต่จะเป็นกลุ่มไหน นั้น ต้องรอหลักฐานจากการตรวจพิสูจน์ และการสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดก่อน
ในระหว่างนี้ ก็ได้เน้นย้ำให้ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ จัดชุดดูแลความปลอดภัยเส้นทาง โดยเฉพาะการดูแลรถโดยสารประจำทาง ที่เส้นทาง ตั้งแต่ อ.เบตง เข้าสู่ อ.เมืองยะลา ซึ่งถนนสาย 410 เป็นถนนสายหลักในการเดินทางสัญจร ที่ต้องเพิ่มมาตรการให้ความมั่นใจ ดูแลความปลอดภัยให้ผู้ที่ใช้เส้นทาง