ฝันใกล้เป็นจริง! เผยบทสัมภาษณ์(ว่าที่)"นักบินอวกาศ" คนแรกของไทย
การได้เป็นนักบินอวกาศออกทะยานไปนอกโลก ถือเป็นความใฝ่ฝันของนักวิทยาศาสตร์ และใครหลายคน และน้อยคนที่จะได้รับโอกาสนั้นโดเฉพาะคนไทย ส่วนใหญ่มักเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีโอกาสขึ้นไปบนอวกาศ แต่ล่าสุดสาวไทยรายหนึ่ง กำลังได้รับโอกาสให้เป็นตัวแทนคนไทยคนแรก ขึ้นไปยังอวกาศ
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพจเฟสบุ๊ค กลุ่มศิษย์เก่าของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เผยบทสัมภาษณ์ของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่กำลังจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทย ในการขึ้นไปเหยียบอวกาศ เป็นคนแรก
โดย นางสาวพิรดา เตชะวิจิตร์ หรือน้องมิงค์ วัย 29 ปี ศิษย์เก่าจากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ในสาขาคอมพิวเตอร์ รุ่น 41 ปัจจุบันเป็นนักวิจัย สวทน. และจะเป็น (ว่าที่) มนุษย์อวกาศคนแรกของประเทศไทย โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ระบุว่า
* มนุษย์อวกาศคนแรกของประเทศไทย?
- เรียก ว่าที่ ดีกว่า เพราะยังไม่ได้ไปค่ะ ไฟลท์ถูกเลื่อนออกไปเพราะเหตุผลด้านเทคนิค แต่ผ่านการทดสอบเรื่องร่างกายและจิตใจแล้วค่ะ คาดว่าได้ไปแน่นอนในเร็ววันนี้ (เตรียมนำธงชาติไทยขึ้นไปด้วย)
* ทำไมถึงพัฒนาตัวเองมาได้ไกลถึงขนาดนี้
- น่าจะเป็นเพราะได้ไปเห็นโลกกว้างค่ะ ใครรู้จักมิงค์จะรู้เลยว่า มิงค์ไม่ใช่คนเรียนเก่งอะไร มิงค์ไม่เคยทะเยอทะยานอะไรขนาดนี้ คิดแค่จบไปอยากเป็นโปรแกรมเมอร์ แต่ตอนที่เรียนชั้นปี 3 ได้รับโอกาสไปฝึกงานที่ Intel เป็นเวลา 1 ปี พอกลับมาเลยเรียนจบช้ากว่าเพื่อนๆ ระหว่างที่กลับมาเรียนอาจารย์ก็แนะนำว่าสนใจเรียนวิศวกรรมดาวเทียมไหม มีทุนของ GISTDA เปิดอยู่ ก็ลองดู แล้วก็ได้ไปเรียนต่อปริญญาโท ที่ฝรั่งเศสค่ะ ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง มีตัวอย่างเคสต่างๆให้เราได้เห็นเยอะ การไปเรียนเปิดโลกเราให้กว้างขึ้น ทำให้เรารู้ว่าคนไทยสามารถทำแบบนั้นได้นี่นา มิงค์เลยมีความหวัง และเริ่มต้นที่จะไปให้ถึงจุดนั้น จนมาถึงโอกาสที่ได้รับคัดเลือกจาก AXE
* คุณภาพนักศึกษาต่างประเทศ
- มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันค่ะ แต่มุมที่นักศึกษาต่างประเทศได้เปรียบนักศึกษาไทยก็คือ มีอิสระในการคิดค่อนข้างมาก อย่างเวลามีงานมอบหมายให้ทำงานที่แอสซายเมนท์ไว้คร่าวๆ ให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง หาข้อมูลด้วยตัวเองเอง นักศึกษาต่างประเทศจะทำได้ดีกว่าเรามาก ต่างจากไทยที่เน้นการสอบ โดยภาพรวมเท่าที่พอไปสัมผัสมามิงค์เชื่อว่าเรียนที่ไหนก็เหมือนกันนะในระดับป.โท - ป.เอก ถ้าเรามีไอเดียดีๆ เราก็สามารถสร้างโปรเจคดีๆขึ้นมาได้ไม่ว่าอยู่ที่ไหน อย่างในตอนนี้มิงค์ก็เรียนปริญญาเอกอยู่ที่ลาดกระบังค่ะ
* ร่มรั้วชงโค
- เป็นจุดเริ่มต้นทางด้านวิศวะของมิงค์ค่ะ ที่นี่ได้ปูพื้นฐานการคิดอะไรที่เป็นเป็นระบบ ไม่ว่าจะการเล่าเรื่อง การใช้ชีวิต ที่มีตรรกะ มีขั้นตอน อีกอย่างที่แห่งนี้เต็มไปด้วยโอกาสดีๆที่มีมาให้เราเรื่อยๆ เราต้องทำตัวให้พร้อมและหมั่นติดตามข่าวสารอยู่เสมอ เพราะของแบบนี้มันมาเร็วและไปเร็วค่ะ
* ฝากถึงรุ่นน้อง
- เรียนจบเป็นวิศวกรไม่พอ แต่ต้องจบมาเป็นวิศวกรที่มีคุณภาพด้วย มิงค์ว่าประเทศไทยยังขาดแคลนบุคลากรด้านนี้อยู่ อยากให้ประทศไทยมีวิศวกรเก่งๆเยอะๆเพื่อจะมาพัฒนาประเทศ ขอให้ตั้งใจเรียนนะคะ