
18 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเข้าเยี่ยม และพุดคุยกับทาง พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ที่เหยียบทุ่นระเบิดระหว่างการลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาด้านซ้าย จนต้องตัดขาเพื่อรักษาเนื้อเยื่อส่วนที่ไม่ได้รับความเสียหายเอาไว้
โดยพลทหารธนพัฒน์ เปิดเผยว่า วันนั้นจัดชุดลาดตระเวนกู้ระเบิดจากแยกตัววายถึงต้นพญาสัตบรรณ มีเจ้าหน้าที่ 7 นาย ระหว่างเดินทางกลับ ตนเดินเป็นคนที่ 4 ช่วงใกล้ๆถึงต้นพญาสัตบรรณ ตนได้เหยียบกับระเบิด เนื่องจากชุดทหารช่างตรวจไม่เจอ เพราะน่าจะเป็นระเบิดพลาสติก ตอนที่เกิดเหตุตนเองมีสติครบ มันรู้สึกร้อนรุกเป็นไฟอยู่ที่ขา จากนั้นสำรวจตัวเองพบว่าขาขาด ขณะที่เพื่อนทหาร จ่า สลบ ตนพยายามเข้าไปปลุก ตะโกนเรียกเพื่อนให้ช่วยอุ้มตนออกจากจุดเกิดเหตุ
พลทหารธนพัฒน์ บอกอีกว่า หลังจากที่เหยียบระเบิดตนเองเห็นขาแล้ว ส้นเท้ามันเหลือน้อยนิด เลยให้รุ่นพี่ช่วยตัดออก เพื่อไม่ให้เกะกะ จากนั้นรุ่นพี่โอเว่น และผู้กองสลับอุ้มตนเองลงจากภูเขา
"ตอนเกิดเหตุดูขาตัวเองก่อน แต่ขาผมไปหมดแล้ว ผมก็บอกกับตัวเองว่า โอ้อนาคตผม หมดแล้ว แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะในการมาเป็นทหารครั้งนี้ สมัครใจมา พร้อมสละแล้วเพื่อแผ่นดิน สละจากครอบครัวมาแล้ว ขวัญกำลังใจตอนนี้ดีอยู่ ขอบคุณขวัญและกำลังใจจากคนไทยทุกคน" พลทหารธนพัฒน์ กล่าว
ด้านนางสาวเนตนิภา หุยวัน อายุ 47 ปี แม่ของพลทหารธนพัฒน์ เล่าว่า ตัวเองทราบข่าวตอน 14:00 น. มีทางเจ้าหน้าที่ที่ทำงานของลูกชายโทรมาบอก ตนรู้สึกตกใจ ใจสั่น เข่าอ่อน ทำใจไม่ได้ แต่ตนได้คุยกับลูกชาย ก็ดีใจที่ลูกชายเป็นคนใจสู้มากๆ ลูกชายตั้งใจที่สมัครทหารออนไลน์ เพราะใจรักอยากจะรักษาประเทศชาติ ตอนนี้ตนได้รับกำลังใจจากญาติๆ ทหารที่ทำงานด้วยกัน แล้วก็ประชาชนชาวไทย ตนรู้สึกภูมิใจมาก 100% ที่ลูกได้ทำงานรับใช้ชาติ เพื่อชาติไทย ตนเองภูมิใจในตัวลูกชาย และรักลูกชายสุดหัวใจเทียบกับอะไรไม่ได้เลย
ส่วนหลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บแล้ว ก็คงจะต้องรอดูต่อไปอีกครั้งว่าจะทำงานอะไร หากเป็นไปได้อยากให้เขารับราชการต่อ เป็นงานเอกสาร หรืออะไรก็ได้ ขอให้ลูกชายได้ทำงานรับใช้ชาติต่อ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ และพลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดกระแทกของระเบิดจนสลบ แต่กลับไม่ได้รับบาดเจ็บมาก นอกจากความโชคดีแล้ว ทั้งสองคนมีสิ่งยึดเหนี่ยวอะไรในการปฎิบัติหน้าที่แนวหน้าแบบนี้
โดย ส.อ.ปฏิพัทธ์ บอกว่าตนเอง ห้อยตะกรุดคู่เหรียญหลวงพ่อสุพัฒน์ ซึ่งตนเองห้อยมานานหลาย 10 ปี แล้ว ตั้งแต่ลงไปภาคใต้ และตะกรุดนี้จะเป็นที่รู้กันในหมู่ทหารชายแดนไทยกัมพูชา ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มีประสบการณ์เฉียดตายแต่รอดมาได้ ครั้งแรกตนห้อยตะกรุดหลวงพ่อไว้หน้ารถแล้วรถเกิดอุบัติเหตุจนเหลือแต่ซาก ตัวตนเองกลับไม่เป็นไร และครั้งนี้เป็นครั้งที่เหยียบระเบิด
ส่วนพลทหารณัฐวุฒิ ตนเองห้อยพระหลายองค์ แต่ที่ได้มาล่าสุดในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมงคือ เหรียญสรรพวิชาพหูรมาน อธิษฐานจิตเดี่ยว โดยพระเดชพระคุณพระราชวัชรธรรมโสภณ (หลวงปู่ศิลา สิริจนฺโท) ณ ธรรมอุทยานหลวงปู่ศิลา สิริจันโท เพื่อแจกจ่ายเป็นขวัญและแก่ทหารชายแดน โดยท่านแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้มอบให้