
5 พฤษภาคม 2568 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวัยวุฒิ ศันติวิชยะ หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะเต่า(สุราษฎร์ธานี)ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลสงขลา กองตรวจการประมง กรมประมง มอบหมายให้นายเชาวลิต เอียดมี เจ้าพนักงานประมงปฏิบัติงาน ร่วมกับประมงอำเภอเกาะพะงันและผู้นำชุมชน ออกตรวจสอบผู้มีพฤติกรรมเสี่ยงทำการประมงผิดกฎหมาย ลักลอบจับสัตว์น้ำหายากหรือใกล้สูญพันธุ์ บริเวณอ่าวโฉลกหลำ ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน
ต่อมา ได้ทำการจับกุมแรงงานต่างด้าว สัญชาติเมียนมา 2 ราย ชื่อ MR SI THU กับ MR HEIN HTET AUNG อายุประมาณ 26 ปี พร้อมของกลางหอยมือเสือ จำนวน 24 ตัว ที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 ลงไปดำน้ำลักลอบจับขึ้นมาจะนำไปส่งขาย จึงแจ้งข้อหากระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2560 มาตรา 66 ลงโทษตาม มาตรา 145 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เกาะพะงัน คดีอาญาที่ 197/2568 บัญชีของกลางลำดับที่ 75/2568 เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ด้านนายกอบชัย เสาวลักษณ์ อดีตกำนันตำบลเกาะเต่า ได้โพสต์ว่า เมื่อสมัยก่อนที่เกาะเต่า ตนกับเจ้าหน้าที่ประมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานงานกันจับพวกที่ชอบขโมย “ หอยมือเสือ “ ซึ่งเป็น “ สัตว์สงวน “ ไปขายจะถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาลเกาะสมุยเสียค่าปรับ 2-3 หมื่น แต่ในปัจจุบันนี้ ค่าปรับเพิ่มเป็นตัวละ 4 หมื่น ถ้าจำไม่ผิด เนื่องจากหอยมือเสือเป็นสัตว์ที่สวยงามมาก โดยเฉพาะตอนที่มันอ้าปากค้างไว้ จะมีหลายสีเนื้อเป็นสีธรรมชาติดั่งเดิม เนื้อลายเสือโครง เนื้อเป็นสีน้ำเงิน
รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มประขาชนชาวเกาะพะงัน ได้แสดงความเห็นการจับหอยมือเสือในเพจสาธารณะ อาทิ เกาะงัน พม่าจับกินหอยมือเสือกันจะร้างแล้ว , ควรเพิ่มโทษให้หนักขึ้น และจับได้คือติดแบล็คลิสต์เข้าประเทศไม่ได้อีกเลย ,ต้องถูกลงโทษและเนรเทศออกไป ไม่มีใครควรพาพวกเขาออกจากทะเล เพื่อคนไทยด้วย