
2 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ The Legend Music Bar โซนกาดคำดารา โรงแรมดาราเทวี ทางผู้บริหารโรงแรมดาราเทวี ได้จัดแถลงข่าว กรณีที่อาคารสปาภายในบริเวณโรงแรม เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 23 เม.ย.68 ที่ผ่านมา และชี้แจงจากการที่มีภาพการเดินสายไฟ-ท่อน้ำ พร้อมได้ตอบคำถามชี้แจงเกี่ยวกับการกลับเข้ามาบริหารโรงแรมดาราเทวี ตามขั้นตอนตามกฎหมายจากกรมบังคับคดี การบริหารจัดการในพื้นที่ ทั้งตัวอาคาร โครงสร้าง ทรัพย์สิน และผู้เช่าร่วม รวมถึงการจัดการด้านกิจกรรมในพื้นที่ และ การพัฒนาโรงแรมในอนาคต
นายสุพรรณ เศษธะพานิช ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยาม เอสเตท ดาราเทวี จำกัด ได้กล่าวว่า เราเข้ามาบริหารพื้นที่ในส่วนของโรงแรมดารา แต่มีอีกครึ่งหนึ่งเป็นของอีกเจ้าของ ที่เป็นส่วนของวิลล่าที่ไม่ใช่ของเรา ซึ่งระบบสาธารณูปโภค สถานีน้ำ สถานีไฟฟ้า จะอยู่ฝั่งนั้น เพราะฉะนั้นการที่เราจะบริหารโรงแรม หรือพัฒนาก็ค่อนข้างลำบากพอสมควร ตามความตั้งใจที่พัฒนาพื้นที่นี้ให้เป็นพื้นที่ร่วมกับชุมชน
“ที่ผ่านมาเราโดนกลุ่มขบวนการ ที่พยายามจะใส่ร้าย บิดเบือนความเป็นจริงมาโดยตลอด เผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนในกลุ่มไลน์ IFEC (ไอ-เฟค) มีสมาชิกกว่า 2000 กว่าคน ซึ่งมีนางสาวเยาวลักษณ์เป็นแอดมิน อีกขบวนการหนึ่งมีการใช้เทคนิคทางกฎหมายในการ แตกคดีฟ้อง คือหนึ่งเรื่องแต่แยกโจทก์ แยกจำเลย ซึ่งปัจจุบันนี้มี 20 กว่าคดี เขาไม่ได้ฟ้องแค่เรา เขายังฟ้องคู่ค้าของเราที่เป็นผู้ประกอบการด้วย ซึ่งเราก็ต้องสู้ทางกฎหมายอยู่”
อย่างไรก็ตามเรามีหลักฐานที่เชื่อว่า สองกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเดียวกัน และยังมีอีกหนึ่งกลุ่มที่มีเจตนาอะไรบางอย่าง ที่อยากจะได้ประโยชน์โดยไม่ชอบ ซึ่งทั้งสามกลุ่มเรามีหลักฐานเชื่อมโยงกันว่า เป็นกลุ่มเดียวกัน ภายใต้ความต้องการของบุคคลหนึ่งคน ที่มีเจตนาสร้างกระบวนการในการปั่นป่วนเพื่อผลประโยชน์บางอย่าง
นายสุพรรณ กล่าวอีกว่า การเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เป็นสิ่งที่ผิดธรรมชาติ แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงการทำงานของเจ้าพนักงาน แต่ตนตั้งข้อสังเกตว่ามันผิดธรรมชาติ วันนี้เรายืนยันคำพูดเดิมว่า อาคารนี้ถูกปิดใช้งานมากว่า 7 ปี การที่มีคนบอกว่า ภายในอาคารมีการใช้สายไฟที่เอาไปเป็นหลักฐานในการบิดเบือนดังกล่าว เป็นเพียงความจริงครึ่งเดียว ข้อเท็จจริงคือ การใช้ไฟแสงสว่างต่อชั่วคราว เป็นเพียงไฟแสงสว่างด้านหน้าอาคารและข้างๆ อาคารเท่านั้น เป็นไฟปิงปองและไฟสปอตไลท์ แต่ทั้งหมดต่อผ่านเบรกเกอร์
จุดที่เกิดเหตุเราสอบถามเจ้าหน้าที่ ได้ข้อมูลว่า จุดที่คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มของเพลิงไหม้ เป็นอาคารไม้จริง แต่จุดนั้นมีพื้นเป็นซีเมนต์ เป็นโครงเหล็ก มีพื้นไม้บางส่วนในอาคารและพื้นไม้เป็นไม้เนื้อแข็งแบบหนา และมีเสาไม้ที่หนามาก จึงอยากตั้งคำถามว่า ในเชิงวิศวกรรม หากเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรไฟมันรุนแรงขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งนี้ก็ต้องรอผลการตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่
อีกสิ่งที่สงสัยคือ จากการพูดคุยกับชาวบ้านและพนักงานดับเพลิงได้ยินเสียงระเบิด 16 ครั้งต่อเนื่องกัน และไฟมันลุกจากข้างล่างขึ้นไป ซึ่งตนยืนยันว่า เราได้นำของต่างๆ ออกมาแล้ว คงไม่มีสิ่งที่ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังขนาดนั้นได้ และยังมีกลุ่มคนที่ทราบและรายงานเหตุการณ์ตั้งแต่เวลา 02.30 ยาวถึงเช้า ซึ่งก็สงสัยว่า ทำไมเขาทราบเร็วและมีรายละเอียดขนาดนั้น
ในส่วนของเรื่องของความเสียหาย ตอนนี้เสียหายในส่วนอาคารสปาเสียหายไม่ถึงร้อยละ 5 ของพื้นที่ทั้งหมดของเรา มูลค่าร่วม ๆ ทั้งหมดที่เราดูแลและบริหารมา มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท ดังนั้นถือว่าเสียหายไม่มาก ยืนยันว่าเป็นการเสียหายทางมูลค่าจิตใจมากกว่า อาคารนี้ควรจะเป็นสมบัติของคนเชียงใหม่และสมบัติของชาติ เราเป็นสุจริตชนมาทำงานพัฒนาพื้นที่แต่โดนเพลิงไหม้แบบไม่ทราบสาเหตุ การประกอบธุรกิจตอนนี้ก็ท้อใจพอสมควร
“สำหรับแผนพัฒนาพื้นที่เรายังเปิดพื้นที่ในการจัดอีเวนท์ มีร้านอาหาร เคยวางแผนเพื่อพัฒนาโรงแรมขั้นต่อไปไว้แล้ว แต่ตอนนี้จะพัฒนาส่วนของโรงแรมต่อหรือไม่ ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าจะเดินหน้าทำธุรกิจหรือไม่ ตนขอ คิด อีก ครั้ง หนึ่ง แต่ไม่มีใครมาบังคับตนได้” นายสุพรรณ กล่าว