
3 ตุลาคม 2567 ที่ จ.นครพนม มีรายงานว่า นายทวี ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขาเมืองนครพนม (ผจก.กฟภ.นครพนม) พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำพวงหรีดร่วมไว้อาลัย นางเกียน อายุ 68 ปี กลุ่มเปราะบาง ผู้ป่วยติดเตียง ชาวบ้านนาขาม ต.วังยาง อ.วังยาง จ.นครพนม หลังเสียชีวิตจากเหตุการณ์ต่อเนื่อง กรณีมีพนักงานเอกชน ทำงานรับจ้างการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขา อ.วังยาง (กฟภ.อ.วังยาง) มายกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้า เนื่องจากไม่ได้ชำระค่าใช้ไฟรวม 2 บิล ทำให้บ้านของยายเกียนไม่มีไฟใช้ ทั้งที่ผู้ป่วยมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องผลิตอ็อกซิเจน รวมถึงเครื่องดูดเสมหะ และเตียงลม
โดย นายทวี ได้พร้อมสอบถามข้อเท็จจริงกับทางญาติ เพื่อสรุปสาเหตุว่า เป็นต้นเหตุของการเสียชีวิตหรือไม่ โดยทราบความจริงจากปากญาติยายเกียน ว่า มีพนักงานบริษัทเอกชน มาตัดกระแสไฟฟ้าจริง ในช่วงเช้าวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ทำให้ไฟดับไปประมาณสองชั่วโมงเศษ ก่อนถูกตัดไฟหลานสาวผู้ตาย ได้มีการให้เหตุผลกับพนักงาน พร้อมอ้อนวอนขอเวลาเดินทางไปชำระที่สำนักงานการไฟฟ้า สาขา อ.วังยาง ซึ่งห่างจากบ้านประมาณ 10 กิโลเมตร
เนื่องจากเจ้าของบ้านเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่คนเดียวเพียงลำพัง แต่ถูกพนักงานอ้างว่า ต้องทำตามหน้าที่ จึงถูกตัดกระแสไฟดับทั้งบ้าน และเจ้าหน้าที่ได้มาติดตั้งให้ภายหลังจากไปชำระค่าไฟแล้ว รวมค้างชำระ 2 บิล เป็นเงิน 1,155 บาท โดยหลังถูกตัดไฟทำให้ยายเกียน หายใจด้วยตนเองไม่ได้ มีอาการอาการทรุดลง และเสียชีวิตในกลางดึกของวันเดียวกัน ทำให้ญาติคาใจและไม่พอใจกับการบริการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
โดยวันนี้ นายทวี ผจก.กฟภ.นครพนม ในฐานะตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยืนยันไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จริง หาทางเยียวยาตามระเบียบ แต่จะไม่เข้าข่ายระเบียบหลักเกณฑ์ ที่ต้องชดเชยเยียวยา เนื่องจากนางเกียนไม่ได้เสียชีวิตทันที ส่วนบริษัทเอกชนให้รายงานข้อเท็จจริงโดยด่วน ในครั้งนี้นายทวีได้มอบเงินส่วนตัว รวมถึงพนักงานไฟฟ้า มีศรัทธาร่วมทำบุญ ให้กำลังใจครอบครัว เบื้องต้น 10,000 บาท และสนับสนุนน้ำดื่มจัดงานศพ และร่วมเป็นเจ้าภาพทำบุญสวดอภิธรรมศพตามประเพณี
สำหรับไทม์ไลน์ (TimeLine) การยกมิเตอร์หม้อไฟบ้านยายเกียนผู้เสียชีวิต จากข้อมูลการไฟฟ้า พบว่า มีการตัดไฟยกหม้อมิเตอร์ไฟฟ้า ไปจากเสาหน้าบ้าน วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 09.20 น. และมีการชำระเงินในระบบเวลา 10.49 น. โดยมีเจ้าหน้าที่มาติดตั้งคืนเวลา 11.49 น. รวมไฟฟ้าดับ 2 ชั่วโมง 29 นาที และมีการตรวจสอบพบว่า ไม่มีการแจ้งในระบบว่า เป็นบ้านผู้ป่วยติดเตียง แต่ญาติยืนยันช่วงจะมีการตัดไฟฟ้ากับพนักงานตัดไฟ เพื่อขอเวลาไปจ่ายยอดค้างชำระ พร้อมให้ข้อมูลว่ามีผู้ป่วยติดเตียงในบ้าน แต่กลับถูกปฏิเสธการผ่อนผัน อ้างทำตามหน้าที่
นอกจากนี้สาเหตุการค้างชำระค่าไฟตรวจสอบแล้วพบว่า มีข้อมูลย้อนหลังบ้านพักยายที่เสียชีวิต ได้รับการยกเว้นมานานกว่า 7 เดือน เนื่องจากอยู่ในเกณฑ์ใช้ไฟรัฐบาลช่วยเหลือ คือไม่เกิน 315 บาท แต่เริ่มมียอดต้องชำระ ในช่วงที่ต้องใช้อุปกรณ์การแพทย์ ทำให้หน่วยค่าไฟเกินรัฐบาลกำหนด คือ ได้แก่ เดือนเมษายน 67 เป็นเงิน 348 บาท , เดือนพฤษภาคม 67 เป็นเงิน 350 บาท
หนักสุดคือ 2 เดือนล่าสุด เดือนสิงหาคม 67 เป็นเงิน 620 บาท และ เดือนกันยายน 67 เป็นเงิน 534 บาท สาเหตุหลักที่ค้างชำระ เนื่องจากยายเกียนมีพี่สาวอายุ 78 ปี และหลานสาวมาดูแลจัดหาอาหาร แค่บางเวลา เพราะสามีเสียชีวิต เมื่อ 10 ปีที่แล้วและไม่มีลูกด้วยกัน ปกตินางเกียนอยู่บ้านคนเดียวลำพัง ส่วนด้านสาธารณสุข มีทีมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล (รพ.สต.) และ อสม.คอยมาดูแลทุกวัน
นายทวี กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ ยอมรับว่าก่อนคุณยายเสียชีวิต มีพนักงานเอกชนรับจ้างจาก กฟภ.ฯ มาตัดไฟบ้านผู้ป่วยติดเตียงจริง แต่ไม่ได้เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตทันที โดยไม่สามารถระบุชัดเจนว่า เกิดจากการตัดกระแสไฟฟ้าหรือไม่ โดยคุณยายได้เสียชีวิตในคืนวันเดียวกัน ต่อจากนี้ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้บริษัทเอกชนรายดังกล่าวรายงานชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบ พร้อมดูแลเยียวยามตามความเหมาะสม และช่วยเหลืองานศพตามกำลังศรัทธา พร้อมดูแลสภาพจิตใจครอบครัวที่สูญเสีย
ยอมรับไม่อยากให้เกิดขึ้น ส่วนการจะชดเชยเยียวยาตามระเบียบการไฟฟ้า ตรวจสอบแล้วยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ แต่จะหาทางช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ เพราะคุณยายไม่ได้เสียชีวิตทันที สำหรับการทำหน้าที่ตัดกระแสไฟ ยืนยันไม่ได้ถึงขั้นเอาเป็นเอาตาย สามารถผ่อนผันได้ตามความเหมาะสม ยิ่งเป็นบ้านผู้ป่วย ผู้พิการเรามีการผ่อนผัน หากมีผู้นำท้องถิ่นแจ้งข้อมูลลงในระบบ จะไม่มีการตัดไฟฟ้าเลย แต่อาจจะเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน ระหว่างพนักงานเอกชน อย่างไรก็ตามน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และวางแนวทางป้องกันแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ขอให้มั่นใจการไฟฟ้า พร้อมดูแลบริการประชาชน
ส่วน นางสาวสุธารินี อายุ 42 ปี หลานสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า พอใจระดับหนึ่งที่การไฟฟ้าออกมาให้ความชัดเจน แต่ยังคาใจเชื่อว่าเป็นสาเหตุ ทำให้ยายอาการทรุดก่อนเสียชีวิต ถึงแม้ไม่ได้เสียชีวิตทันที ยอมรับว่าไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะตนได้พูดคุยขอร้องกับพนักงานที่มาตัดไฟฟ้า แต่ไม่ได้รับการอะลุ่มอล่วยยกหม้อมิเตอร์ไปหน้าตาเฉย สาเหตุที่ตนไม่อยากให้ตัดไฟ และขอผันผันไม่กี่ชั่วโมง เพื่อรอไปชำระค่าไฟแต่ถูกปฏิเสธ
มาถึงวันนี้เสียใจ ไม่อยากเรียกร้องอะไร เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายจะไปสู้คดี เรียกร้องการชดเชยเยียวยา สรุปคืออยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จะเมตตาเห็นใจ ช่วยเหลือครอบครัวที่สูญเสียตามความเหมาะสม สำคัญอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่ต้องมีการปรับปรุง ไม่อยากให้เกิดกับใครซ้ำอีก ขอให้เป็นรายแรกและรายสุดท้าย