svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ทั่วไทย

พบ "หมอเก่ง" เคยสั่ง "ไซยาไนด์" หวังปลิดชีพตัวเอง ตร.เค้นสอบ "นายยู" คนสนิท

พบ "หมอเก่ง" เคยสั่ง "ไซยาไนด์" หวังปลิดชีพตัวเอง ตำรวจเค้นสอบ "นายยู" คนสนิท ยังให้การไม่เป็นประโยชน์ อ้างง่วง จำอะไรไม่ได้

วันที่ 15 สิงหาคม 2567 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ ตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย ทีมกองพิสูจน์หลักฐานของ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมประชุม ติดตามความคืบหน้าคดี นายอุดมศักดิ์ ทองม้วน อายุ 50 ปี นักวิชาการสาธารณสุข รพ.สต.บางสระเก้า จ.จันทบุรี  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า (หมอเก่ง) เสียชีวิต หลังจากพบตัว นายชัยพร (สงวนนามสกุล) หรือ  "ยู" อายุ 34 ปี หนุ่มคนสนิท ซึ่งอ้างว่าจะกลับไปบ้านตา ที่ จ.ลำพูน 

พบ "หมอเก่ง" เคยสั่ง "ไซยาไนด์" หวังปลิดชีพตัวเอง ตร.เค้นสอบ "นายยู" คนสนิท

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เปิดเผยว่า ไทม์ไลน์การเสียชีวิต "หมอเก่ง" ออกจากบ้านมาตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 มาเช่าห้องอยู่ด้วยกัน ใน จ.นนทบุรี จากนั้น เวลา 17.00 น. มีตำรวจ สภ. รัตนาธิเบศร์  ไปที่ห้องพักดังกล่าว เนื่องจากมีญาติของ "หมอเก่ง" มาแจ้งว่า "หมอเก่ง" หายตัวไป  เมื่อไปเจอตัว "หมอเก่ง" ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกาย หรือ ลักพาตัว หรือ ข่มขืนใจใด ๆ ตนนั้นสมัครใจมาเอง 

ขณะเดียวกัน เวลา 18.25 น. "หมอเก่ง" ส่งข้อความไปหาเพื่อน บอกว่า "จะฆ่าตัวตายพร้อมกัน ให้มาเตรียมรับศพ 2 ศพ ด้วย" ญาติรู้จึงร้อนใจ ให้ตำรวจไปดูอีกรอบ ซึ่งตำรวจไปถึงที่ห้องพักในเวลา 20.00 น. ทางห้องพักได้ให้ "หมอเก่ง" ไปคุยกับญาติ แต่ "หมอเก่ง" ไม่ประสงค์ที่จะคุยจึงได้ขอออกจากห้องพักที่ จ.นนทบุรี

จากนั้นทั้งคู่มีความตั้งใจจะไปหาคุณตาคุณยายที่จังหวัดลำพูน แต่มาแวะพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.อยุธยา เข้าห้องพักในเวลาประมาณ 22.30 น. ต่อมาเวลา 04.00 น. นายยู โทรแจ้งมูลนิธิกู้ภัย เพราะว่า "หมอเก่ง" ปวดท้องหนักมาก เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่มีการปั๊มหัวใจก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ นายยู เมื่อ "หมอเก่ง" เข้าโรงพยาบาลแล้ว ก็รู้สึกเครียด จึงเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดลำพูน 

จากการสอบปากคำเบื้องต้น "นายยู" ให้การไม่เป็นประโยชน์ บอกเพียงแต่ว่า สั่งอาหารมาในห้องเพื่อต้องการทานด้วยกัน "หมอเก่ง" กินส้มตำ แกงเห็ด แล้วก็มีอาการปวดท้อง และสั่งน้ำเปล่ากับน้ำอัดลมมาดื่ม แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบว่าแม่บ้านได้นำกระป๋องน้ำอัดลมบางส่วนที่เป็นหลักฐานสำคัญทิ้งไปแล้ว จึงต้องตรวจสอบจากพยานหลักฐานชิ้นอื่น  ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของ "นายยู" มีการแบ่งหน้าที่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสังเกตพฤติกรรมของ"นายยู" และ "หมอเก่ง"

และจากการหาพยานหลักฐานเบื้องต้นพบว่า "หมอเก่ง" มีความคิดจะฆ่าตัวตาย โดยหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับ "ไซยาไนด์" และสารหนู ซึ่งหาต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.2567 เรื่อยมา มีการหาข้อมูลว่า สารไซยาไนด์ พิษของมันจะเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน และได้แคปข้อความเหล่านั้นเก็บไว้โทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ พบว่า
มีการสั่งซื้อไซยาไนด์ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 แล้วของมาส่งวันที่ 9 สิงหาคม 2567 แต่มีการกดยกเลิกและคืนเงินเรียบร้อย  จากการหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตและมีการสั่งซื้อไซยาไนด์ จึงเชื่อได้ว่ามีความประสงค์อยากจะฆ่าตัวตาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ ตำรวจต้องมาดูก่อนว่าสาเหตุในการฆ่าตัวตายเกิดจากอะไร ส่วนจะมีใครทำให้ตายหรือไม่หรือทานยาตายเอง หรือตายเพราะสารไซยาไนด์ ระหว่างนี้อยู่ในระหว่างการสอบสวน

และจากการตรวจสอบแผงยาที่พบภายในรถ และที่เกิดเหตุ พบว่าส่วนใหญ่เป็นยารักษาโรคประจำตัว อาทิ ยาแก้ปวดหัวไมเกรน ยังไม่พบว่ามียาพิษแต่อย่างใด 

พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เปิดเผยว่า สภาพร่างของ "หมอเก่ง" ริมฝีปากดำคล้ำ ซึ่งตามความเชื่อของคนโบราณ หากปากดำคล้ำแบบนี้ คือ โดนยาพิษ อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

พร้อมกันนี้ ได้มีการตรวจสอบประวัติของ "นายยู" พบว่า เคยติดคุกคดีพรากผู้เยาว์ เป็นเวลา 5 ปี ส่วนกระแสข่าวที่ว่า "นายยู" มีการจัดหาแรงงานต่างด้าวส่งให้กับบริษัท แล้วยักยอกเงินนั้น ประวัติในคดีนี้ยังไม่พบ ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า "นายยู" ปล่อยข่าวว่า ตัวเองจะฆ่าตัวตายนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่พบข้อมูลนี้ 

หลังจากนี้ จะต้องรอสอบปากคำ "นายยู" อย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากว่า เจ้าตัวยังให้การไม่เป็นประโยชน์ อ้างว่า ง่วง พักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อถามถึงรายละเอียดในที่เกิดเหตุ "นายยู" จะบอกว่าจำไม่ได้ และมักจะโยนให้กับ "หมอเก่ง" ผู้ตายที่เป็นคนรู้ความจริงทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ ยังไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ กับใคร