svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดคำสารภาพ มือสังหาร นศ.หนุ่มปี 1ก่อนเผาอำพรางคดี

มือสังหารโหด หนุ่ม นศ.ปี 1 ก่อนเผาร่างอำพรางคดี สารภาพแล้ว ลงมือเพราะโดนจิกหัว หลังมีปากเสียงถูกทวงเงินค่าตัว หลังใช้บริการ ตร.แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ก่อนส่งฝากขังศาลนนทบุรี

จากกรณีนายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาทำร้าย นายวิศว (สงวนนนามสกุล) หรือน้องซัน นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดัง เสียชีวิตก่อนเผาร่างเพื่ออำพรางคดี เหตุเกิดภายในหอพักซอยประชาชื่น 8/1 ต.บางเขน อ เมือง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้แกะรอยเส้นทางหลบหนีของคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวได้ที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เมื่อคืนที่ผ่านมา จากนั้นได้ควบคุมผู้ต้องหามาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดี ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ ช่วงกลางดึก

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายณัฐวุฒิ ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้ตกลงซื้อบริการทางเพศกับผู้ตาย แล้วนัดมามีความสัมพันธ์กันที่ห้องพักของผู้เสียชีวิต โดยตกลงกันในราคา 2,000 บาท หลังเสร็จกิจแล้ว ผู้ก่อเหตุได้ขอมีเพศสัมพันต่ออีกครั้ง โดยตกลงค่าตัวเพิ่มขึ้นอีก 1,000 บาท จนเสร็จกิจครั้งที่ 2 เมื่อผู้เสียชีวิตทวงเงินค่าตัวจากผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ก่อเหตุไม่มีเงินจ่าย จึงมีปากเสียงกันเกิดขึ้น ผู้เสียชีวิตได้ใช้มือจิกที่ศีรษะจนเส้นพบติดอยู่ในมือ ทำให้ผู้ต้องหาเกิดความโมโห จึงวิ่งไปหยิบมีดปลายแหลมในห้องผู้เสียชีวิตมาจ้วงแทงใส่ร่างผู้ตาย และเกิดการต่อสู้กันภายในห้องพัก จนผู้ตายล้มฟุบไปกับพื้นในสภาพเปลือยเปล่า ผู้ก่อเหตุจึงได้นำผ้าห่มมาคุมตัวผู้ตายแล้วจุดไฟเผา พร้อมกับหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของผู้ตายวิ่งออกมาจากห้อง แล้วขี่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมาหลบหนีไป ก่อนจะไปนำโทรศัพท์ไปขายต่อที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านปทุมวัน

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีศักดิ์ รองผกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษภ.จว.นนทบุรี (พยัคฆ์นนท์ 66)  ได้ควบคุมตัว นายณัฐวุฒิ หรือ "เจ๊ณัฐ" หรือ นามแฝง "เตเต้" ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หอพักที่เกิดเหตุ โดยจุดแรกเป็นจุดที่ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าหอพัก จุดที่2 บนห้องพักผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นจุดที่ลงมือก่อเหตุ 

เปิดคำสารภาพ มือสังหาร นศ.หนุ่มปี 1ก่อนเผาอำพรางคดี

ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามแต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใดๆ ซึ่งหลังจากผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมผู้ต้องหากลับมาที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดนนทบุรีภายในวันนี้ 

ด้านน้องเมย์ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันกับ น้องซัน ผู้เสียชีวิต เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมคนก่อเหตุได้ ตนดูข่าวตั้งแต่วันแรก รู้สึกเศร้าและเสียใจสงสารน้องเขามาก ไม่คิดว่า คนร้ายจะโหดเหี้ยม และลงมือได้ขนาดนี้ โดยส่วนตัวไม่ได้เรียนห้องเดียวกัน หรือคณะเดียวกันกับผู้ตาย แต่ว่าเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็ดีใจที่เขาถูกจับกุมได้แล้ว 

นางน้อย (นามสมมุติ) อายุ 45 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกับหอพัก เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ตนเองตกใจมากคิดว่าไฟจะไหม้มาถึงบ้านแล้ว โชคดีแล้วก็ต้องขอบคุณคนในหอพักที่ช่วยกันดับไฟได้เร็ว ทีแรกคิดว่าเป็นการเกิดเพลิงไหม้ธรรมดา มาทราบที่หลังว่ามีการฆาตกรรม ตกใจมากไม่คิดว่าคนร้ายจะจิตใจโหดเหี้ยมขนาดนี้ หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมาไล่กล้องวงจรปิดในซอย และทำงานได้ว่องไวมาก จนสามารถจับกุมคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนตัวเจอน้องเขาประจำ แต่ไม่ได้พูดคุยกัน ไม่คิดว่าจะประสบชะตากรรมโหดร้ายเช่นนี้ โดยหลังเกิดเหตุคนในซอยก็อยู่กันอย่างหวาดกลัว ตนอยู่ที่นี่มามากกว่า 20 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย พอทราบว่าตำรวจจับคนร้ายได้ในวันนี้ก็รู้สึกโล่งใจและดีใจ 

เปิดคำสารภาพ มือสังหาร นศ.หนุ่มปี 1ก่อนเผาอำพรางคดี

ต่อมา พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์​ เปิดเผยว่า​ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ สอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมมา โดยสารภาพว่า ได้เอากองผ้านวมไปสุมบนร่างของผู้เสียชีวิตแล้วจุดไฟเผา​ ส่วนปมในการก่อเหตุ ผู้ต้องหาบอกว่า มีปัญหาเรื่องเงินกับผู้ตาย ที่มีการหยิบยืมกันไปก่อนหน้านี้ โดยผู้ต้องหาได้มีการพูดคุยกับผู้ตาย​แล้วไม่ลงตัว​ เป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท และเปลี่ยนเป็น 5,000 บาท หลังจากนั้นมีเรื่องทะเลาะกัน​ ผู้ต้องหาได้ใช้มีดที่อยู่ภายในห้อง​ทำร้ายผู้เสียชีวิต ก่อนจุดไฟเผาร่างและได้โยนมีดลงบนกองไฟ​ ก่อนจะหลบหนีไป 

นอกจากนี้ ผู้ต้องหายอมรับว่า รู้จักกับผู้ตายผ่านทาง facebook เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีการติดต่อกันมาโดยตลอด แล้ววันที่เกิดเหตุคือวันที่นัดเจอกันครั้งแรก ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหา ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้าน เนื่องจาก ผู้ตายได้นัดหมายให้มาหาที่ห้องพัก ผู้ก่อเหตุจึงเดินทางจากโรงแรม ย่านพญาไท มาที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ จากนั้นคิดว่าห้องพักของผู้ตายอยู่ใกล้จึงเดินทางมาจนถึงซอยชินเขต โดยดู Map มาเรื่อยๆ พอเห็นว่าเริ่มไกลแล้วและเห็นว่ารถจักรยานยนต์จอดเสียบกุญแจรถทิ้งไว้จึงได้ขับขี่มา ที่หอพักฯ​ ส่วนทรัพย์สินที่ผู้ก่อเหตุขโมยไป เท่าที่รับสารภาพและตรวจสอบ มีโทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง​ 

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ข้อหาฆ่าผู้อื่นตาย 2.ซ่อนเร้นอำพรางทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย 3.วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และ 4.ชิงทรัพย์ 

ทั้งนี้ ผู้ต้องหา​ มีอาการเครียด ส่วนการหลบหนีหลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาบอกว่า ได้เดินทางไปที่จังหวัดเพชรบูรณ์ จากนั้นได้ย้อนกลับมาที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ก่อนหน้าที่จะมาก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้เดินทางไปเที่ยวที่เชียงใหม่ แล้วเดินทางกลับมาที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 5  ส.ค.2567 เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านพญาไท แล้วเช็กเอาท์ออกมา จากนั้นก็เดินทางมาหาผู้ต้องหาในวันที่ 8 วันที่เกิดเหตุนั่นเอง 

สำหรับผลการชันสูตรร่างของ นศ.หนุ่ม ผู้เสียชีวิต พบมีรอยบาดแผลจากการถูกแทง มีควันไฟภายในปอด ส่วนมีดที่ผู้ต้องหาอ้างว่า นำไปแทงผู้เสียชีวิตแล้วโยนไปในกองไฟ ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบของกลางคือมีดที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ที่พื้นบริเวณที่เกิดไฟไหม้