
จากกรณี เฟสบุ๊กของ Chaloemsak Maleerod ได้โพสต์รูปและคลิปวีดีโอ พร้อมข้อความว่า...
"ช่วยแชร์หน่อยนะครับ
เมื่อคืนผมไปเล่นดนตรีมา
ผมเป็นมือกลอง แฟนผมเป็นนักร้อง ไปเล่นดนตรีร้านหนึ่งแถวหทัยราษฎร์ ผมเล่นที่นี้มาหลายเดือนแล้วครับ แล้วแฟนผมที่เป็นนักร้องก็ค่อนข้างสนิทกับเมียเจ้าของร้าน แล้วเมียเจ้าของร้านก็ชอบมาบ่นเรื่องราวชีวิตให้ฟัง จนแฟนผมเห็นใจ แล้วก็ชวนกินเหล้าต่อที่ร้านจนปิดร้าน แล้วแฟนผมก็จะกลับ แต่XXพาไปบ้าน แล้วแฟนผมไปกะXXแค่คนเดียว ผมไม่ได้ไป
แล้วพอถึงบ้านมัน ก็นั่งกินกันต่อ แล้วบอกให้แฟนผมไปอาบน้ำ ถอดเสื้อผ้า แล้ววินาทีนั้น ผัวXXก็เดินออกมาแฟนผมก็ตกใจ ไหนบอกว่าทะเลาะกัน สุดท้าย มันจับแฟนผมแก้ผ้าแล้วจะขืนใจ แต่แฟนผมไม่ยอม มันก็ลุมกระทืบ ตบตีแฟนผม เมียตบ ผัวจะข่มขืน
สุดท้ายแฟนผมก็วิ่งหนีออกมาแบบไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วก็มีพวกมันตามมา เอาเสื้อผ้ามาให้ใส่ แฟนผมร้องไห้ โทรหาผม ผมก็รีบไปรับกลับมา จังหวะนั้น ผมต้องใจเย็นมากๆ เพื่อให้ได้ตัวแฟนผมกลับมา
ผมได้เจอแฟนผม สภาพมีการโดนซ้อม มีเลือดออกจมูก มีแผลช้ำตามภาพ แล้วข้าวของทุกอย่าง ก็โดนพวกมันเอาไปหมดเลย ตอนนี้ผมกำลังดำเนินคดีให้ถึงที่สุดครับ ผมเสียใจมากๆ ที่ร้านเหล้าร้านหนึ่ง ที่ผมให้ใจ จะมาทำกับพวกผมแบบนี้ อันนี้เรื่องคร่าวๆ นะครับ รายละเอียดมีเยอะมาก ๆ ผมไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับผม เสียใจมากๆครับ จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ทั้งนี้หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ืชที่ผ่านมา นางสาวนุ้ย (นามสมมติ) 36 ปี พร้อมแฟนหนุ่ม เดินทางไปปากคำเพิ่มเติม กับ ร.ต.อ.สมโภช สืบวงศกร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา เกี่ยวกับเรื่องที่ถูกเจ้าของร้านลวงไปที่บ้านแล้วพยายามจะขืนใจ ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกายแฟนสาวจนได้รับบาดเจ็บ และยังเอาโทรศัพท์มือถือของแฟนสาวไปด้วย ซึ่งทั้งคู่ได้ให้ปากคำนานกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนที่จะเดินทางกลับ
นางสาวนุ้ย อ้างว่า เพลีย ยังไม่ขอให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เพียงแต่ยอมเปิดบาดแผลที่ใบหน้าให้สื่อมวลชนดูเท่านั้น
ขณะที่แฟนหนุ่ม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า แฟนสาวโทรหาตนเองตอนประมาณ 05.00 น. บอกว่าช่วยด้วย ก่อนที่จะโดนแย่งมือถือไป ซึ่งวันเกิดเหตุตนเองเลิกงานจากร้านแล้วกลับบ้าน ส่วนแฟนสาวนั่งกินดื่มต่อที่ร้าน เพราะบอกว่าเห็นใจเจ้เจ้าของร้าน ซึ่งตนเองทำงานที่นี่มาประมาณ 5 เดือน ที่ผ่านมาทางร้านและเจ้าของร้านก็เป็นปกติทุกอย่าง ไม่ได้มีอะไร
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเองไม่เคยคาดคิดเลย ตอนนี้แฟนสาวก็ยังไม่ได้เล่ารายละเอียดให้ตนเองฟังมากนัก โดยตอนที่ตนเองไปเจอแฟนสาวพบว่าบริเวณใบหน้าถูกทำร้ายจนเละหมดเลย ตอนที่ไปเจอแฟนสาวยืนอยู่หน้าหมู่บ้านกับเจ้าหน้าที่ รปภ.ของหมู่บ้าน โดยแฟนสาวสวมใส่ชุดนอนสายเดี่ยว ซึ่งไม่ใช่ชุดที่ใส่ที่ร้าน ปกติแฟนตนเองไม่เคยไปทานเหล้าที่ไหนเลย ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ที่คบกับแฟนสาวมาประมาณ 4-5 ปี
ต่อมาเวลา 20.30 น. วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา นายเดี่ยว (นามสมมติ) อายุ 36 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมโภช สืบวงศกร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ลำลูกกา พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวยืนยันว่า ไม่ได้ทำร้าย ไม่ได้ขืนใจเขา ไม่มีเหตุการณ์ทำร้ายอะไรเลย เหมือนคลิปที่ให้พวกพี่ๆนักข่าวดู ตามคลิปตนเองไม่ได้บังคับเขา แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องไปทำร้ายเขา มีเหตุผลอะไรที่ตนต้องไปกักขังเขา
เหตุการณ์ตอนนั้น ตนกลับมาที่บ้านก่อนและนอนอยู่บนห้องนอน โดยทางหญิงสาวที่กล่าวหากับภรรยาผม และลูกน้องที่ร้านอีก 4 คนได้มานั่งดื่มเหล้ากันต่อที่บ้าน จากนั้นเขาก็เดินขึ้นมาภายในห้องนอน โดยอ้างกับแฟนว่าจะมาขออาบน้ำ เมื่อเขาเดินเข้ามาภายในห้องเขาได้ถอดเสื้อผ้าออกหมด
"ตอนนั้นถอดเสื้ออยู่ข้างๆ ผมเป็นผู้ชาย ไม่ใช่พระอิฐ พระปูนนะครับ"
นายเดี่ยว กล่าวอีกว่า หลังจากที่เขาถอดเสื้อผ้าแล้ว เขาก็มานอนทับตรงเป้าผม แล้วก็เอาหัวมาถูๆ แล้วก็เอามือจับเข้าปาก ตอนเกิดเหตุแฟนตนก็อยู่ในห้องด้วย ถามว่าทำไมแฟนไม่ห้าม ตรงนี้มันเป็นรสนิยมที่เราสองคนรับกันได้
ส่วนบาดแผลที่ตามตัวของ นางสาวนุ้ย นั้น นายเดี่ยว กว่าวว่า ไม่รู้เลยว่าเขาไปโดนอะไร ถ้าให้สันนิษฐาน ซึ่งรู้ตอนหลังว่าแฟนเขามารับ แล้วผมไม่รู้ว่าเขากลับไปสภาพไหน เพราะว่าหลังจากที่อยู่ด้วยกัน ตนก็กลับเข้ามานอนอีกห้องหนึ่ง แล้วก็ไม่รู้เหตุการณ์เลยว่ามันคืออะไรยังไง
ถ้าเขาออกไปในสภาพที่แบบว่าใส่ชุดนอน เพราะเขาถอดเสื้อผ้าแล้วใส่ชุดนอนของแฟนผม ซึ่งเป็นชุดนอนที่วาบหวิว หากออกไปสภาพนั้นแล้วไปเจอแฟนเขา แฟนก็คงต้องถามแล้วอาจจะเกิดบันดาลโทสะ หรือทะเลาะกัน หรืออาจจะเป็นแฟนเขาหรือเปล่า
นายเดี่ยว กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลยจนตอนเช้าตื่นมา เพื่อออกไปทำงาน ตำรวจโทรหาตนถามว่าอยู่ไหน ตนก็เลยบอกว่า จะไปหน้างานพี่มีอะไร ตำรวจบอกว่ามีคนมาแจ้งความจับ ตนจึงถามว่าใครแจ้ง แจ้งเรื่องอะไร ตำรวจบอกว่าเรื่องตนไปข่มขืนเขา เลยบอกว่า..
"เฮ้ยผมข่มขืนใคร ผมจึงส่งคลิปพวกนี้ให้ตำรวจดู"
นายเดี่ยว กล่าวต่อว่า ถามว่าตอนที่เขาวิ่งออกจากบ้านไป ถามว่าโป๊ไหม ก็เขาใส่ชุดนอนออกไป ซึ่งตนไม่สามารถบอกอะไรได้เยอะ เพราะว่าหลังจากเสร็จตรงนั้น ตนก็ไปนอนเลย แต่ตัวเขาก็ยังนอนอยู่บนเตียง ซึ่งอยู่กับแฟนตนเอง โดยตนได้ลุกไปอาบน้ำเสร็จแล้วก็ไปเข้านอน ส่วนที่บอกว่าแฟนของตนไปทำร้ายเขานั้นไม่มี
สำหรับคลิปที่ตนเองถ่ายไว้ เพื่อป้องกันตัวเอง เพราะว่าตนทำร้านเหล้าก็จะมีบางที ซึ่งเราก็พูดตรงๆ เพราะว่าเราเที่ยวผู้หญิง และบางคนเขาก็สมยอม แล้วเขาพากลับมาบ้าน เราก็กลัวการที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนรู้สึกโชคดีที่ถ่ายคลิปไว้ หลังจากนี้ จะดำเนินการฟ้องในส่วนของคนที่เกี่ยวข้องที่ไปคอมเมนต์ ซึ่งคุณยังไม่รู้อะไรเลย คุณยังไม่รู้ ไม่ได้ฟังความจริงจากผม แต่ผมเข้าใจว่าเขาเป็นผู้หญิงแล้วก็สภาพนั้นอะ แต่ถ้าเป็นผม ผมก็ต้องเมนต์ด่าก่อน แต่ผมยืนยันว่า ฟ้องแน่นอน และถ้ายังไม่รู้ความจริงแล้วยังไม่หยุด ผมก็จะฟ้อง รวมถึง มีช่องทีวีบางช่องที่เสนอข่าวตนไปแล้ว ก็จะฟ้องเหมือนกัน
"โดยส่วนตัวกับผู้หญิงคนนี้ ก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลย ร่วมงานกันมาหลายเดือน ก็เห็นเป็นพี่เป็นน้อง และไม่เคยมีความรู้สึกแบบชู้สาวเลย อีกทั้งยังเคยช่วยเหลือเรื่องเงินทองเบิกเงินล่วงหน้า เราช่วยกันมาอยู่กันแบบพี่แบบน้อง มาวันหนึ่งเขาแก้ผ้าอยู่อ่ะ ผมบอกเลย ผมไม่ใช่คนดี ผมไม่ใช่พระอิฐ พระปูนครับ ให้ผมทำยังไง" เจ้าของร้านกล่าว