
จากกรณีนักท่องเที่ยวติดภายใน "ถ้ำน้ำทะลุ" พื้นที่ในเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 22 คน ไกด์ 2 รวมทั้งหมด 24 คน โดยเจ้าหน้าที่อุทยาน สามารถช่วยเหลือออกมาได้อย่างปลอดภัย จำนวน 23 คน สูญหาย 1 คน เป็นไกด์นำเที่ยว และต่อมาเมื่อเวลา เวลา 03.20 น. วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ชุดค้นหาได้พบร่างผู้เสียชีวิต ภายใน"ถ้ำน้ำทะลุ" ทราบชื่อ นายปองยศ เกิดดี อายุ 37 ปี ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
วันที่ 7 สิงหาคม 2567 ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ท่าเรือเทศบาลเขื่อนเชี่ยวหลาน นายเจ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย นายบุญเรือง หลงระลวด ป้องกันบรรเทาภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกุลบล พลวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก ผู้อำนวยการอุทยานแห่งชาติเขาสก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางมารับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ น้ำป่าหลากซัดถล่ม "ถ้ำน้ำทะลุ" ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ไปพักค้างคืนที่แพไกรสร จำนวน 22 คน โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำนักท่องเที่ยวทั้งหมดมาส่งกลับไปยังที่พักของนักท่องเที่ยวซึ่ง ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี ได้มาพบปะ ให้กำลังใจ พร้อมมอบพวงมาลัย ปลอบขวัญนักท่องเที่ยวอย่างเป็นกันเอง เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของจังหวัดสุราษฎร์ธานีในการดูแลนักท่องเที่ยว
นายเจษฎา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ และจุดที่เกิดเหตุ เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกัน คือมีน้ำไหลหลากเข้าไป และอุทยานฯเขาสก ประกาศปิดถ้ำมาก่อนแล้ว แต่มีจุดใกล้เคียงกันที่เป็นเส้นทางให้เดินป่าที่ยังเข้าไปได้ กรณีนี้ได้หารือกับกรมอุทยานฯว่า จะต้องมีการดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนนำนักท่องเที่ยวเข้าไป รวมทั้งดูแลสิทธิผู้เสียชีวิต และระเบียบข้อกฎหมายทั้งหมด คาดว่าพรุ่งนี้จะได้ข้อสรุป
ด้าน นายกุลบล พลวัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาสก เปิดเผยว่า สำหรับ "ถ้ำน้ำทะลุ" อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก เป็นพื้นที่อยู่ในบัญชีแนบท้ายประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เรื่องการปิดท่องเที่ยว และพักแรมในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยาน ประจำปี 2567 โดย "ถ้ำน้ำทะลุ" กำหนดปิดตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 แต่คาดว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวได้ฝ่าฝืนคำสั่งดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบ เพราะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเส้นทางเดินป่า ซึ่งมีการอนุญาตให้สามารถเดินป่าได้ แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวกลับเข้าไปในพื้นที่ที่มีการประกาศปิด โดยจะต้องมีการเข้มงวดกันต่อไป รวมถึงการเข้มงวดปิดเส้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ การนำคณะผู้ประสบภัยขึ้นมายังบริเวณท่าเรือ ได้มีไกด์ที่ดูแลนักท่องเที่ยวรายหนึ่ง เดินมาโวยวายกับผู้สื่อข่าวว่า ให้ข้อมูลผิดพลาดจนทำให้บริษัทเสื่อมเสีย ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวถามกลับว่า ผิดพลาดตรงไหน และถามว่ากรณีที่บริษัทได้ฝ่าฝืนพานักท่องเที่ยวเข้าไปยังภายในถ้ำ ซึ่งได้มีประกาศปิด จะรับผิดชอบอย่างไรโดย ไกด์ คนดังกล่าวได้เงียบไป ไม่ยอมตอบคำถามใด ๆ