svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

"เชียงใหม่" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก

10 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หมอกควันในพื้นที่เชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือยังวิกฤต แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามแก้ไขปัญหา แต่ยังมีการเผาเกิดขึ้นใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่เอาจริง สั่งตั้งรางวัลนำจับคนลอบเผาป่าคดีละ 10,000 บาท

ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นโจทย์หนึ่งที่รัฐบาลต้องแก้ เนื่องจากปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างหนักในทุกปี โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ภาคเหนือ ที่ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพยายามในการแก้ปัญหา ไฟป่า หมอกควันในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ ที่ 16 ที่รับผิดชอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้วาง แนวป้องกันไว้ทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ คือการบริหารจัดการเชื้อเพลิง เน้นพื้นที่ที่มีไฟไหม้ซ้ำซาก การตั้งจุดตรวจบูรณาการชุดเข้าป่าต่างๆ ในพื้นที่อุทยานในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในจุดที่มีพี่น้องชาวบ้านเข้าไปดูสัตว์เลี้ยงดูสวนไร่นา ก็จะมีการให้พี่น้องประชาชนเข้าไปลงทะเบียน ผ่านเจ้าหน้าที่บูรณาการระหว่างพื้นที่ท้องถิ่นพี่น้องประชาชนจิตอาสาต่างๆที่เข้ามาอยู่รายรอบพื้นที่ ตรงนี้ มีการวางจุดถึง 283 จุด ครอบคลุมป่าอนุรักษ์ทั้งหมด 15 ป่าอนุรักษ์ พื้นที่ทั้งหมด 8,300,000 ไร่ที่ดูแล
\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ใจกลางป่า เจ้าหน้าที่จะมีการปรับในเรื่องของการลาดตระเวน ซึ่งปัจจุบันนี้ มีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่ทำหน้าที่พิทักษ์ป่าลาดตระเวนในพื้นที่ป่าอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง 883 นายที่เข้าไปตรึงในพื้นที่ป่าเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือนก่อนสงกรานต์ 

พ่อเมืองเชียงใหม่ เผย ปัญหาหมอกควันไฟป่ามีปัจจัยหลายด้าน

\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
ด้าน นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยอมรับว่า ปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เกิดขึ้นมีปัจจัยหลายด้าน ทั้งปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ ปัจจุบันเริ่มเกิด จุดความร้อนในประเทศเพื่อนบ้านจำนวนมาก ในส่วนของประเทศเราก่อนในเชียงใหม่ เราขอแค่เราไม่เผาปัญหาก็จะเบาบางลง เพราะเชียงใหม่ใหญ่มาก 22,000 กว่าตารางกิโลเมต ถ้าเราไม่หยุดเผาและมัวแต่ไปโทษประเทศเพื่อนบ้าน โทษพื้นที่อื่น ปัญหามันจะไม่จบ ถ้าถามในช่วง 40 กว่าวันที่ผ่านมามีไหมที่ควันจากประเทศเพื่อนบ้านหรือพื้นที่ใกล้เคียงพัดเข้าหาเราคำตอบคือมี
\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก

"เรามีปฏิบัติการในการแก้ เช่น ปฏิบัติการของฝนหลวงที่จะรวมเมฆเมฆช่างลมแรงสร้างฝนเทียมหรือฝนหลวง ช่วยผลักฝุ่นออกไปช่วยสลายฝุ่นเราก็มีปฎิบัติการควบคุมตลอดศูนย์ฝนหลวงอยู่ที่เชียงใหม่ดูแลตลอดก็ทำควบคู่กันไป" นายนิรัตน์ กล่าว

ตั้งรางวัลนำจับมือเผาป่าคดีละ 10,000 บาท
\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
นายนิรัตน์ พ่อเมืองเชียงใหม่ บอกถึงสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และ ฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่ โดยพบว่าขณะนี้มีลมจากตะวันตกพัดพาฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ 5 อำเภอที่ติดแนวชายแดน คือ อำเภอแม่อาย ฝาง เชียงดาว ไชยปราการ และเวียงแหง มีค่าฝุ่นสูงในทุก ๆ วัน และจะเบาบางลงในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นลักษณะนี้มาประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่การเผาก็ยังสามารถควบคุมได้ และได้มีการงดเว้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่าทั้งหมดในช่วงนี้ พร้อมปิดป่าอนุรักษ์ 19 ป่า 
\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
ส่วนการลักลอบเผา ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่โดยเร็วและดับให้ได้ภายใน 1 วัน รวมถึง การตั้งรางวัลนำจับผู้กระทำความผิดคดีละ 10,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการใช้ปฏิบัติการฝนหลวงบินเจาะช่องระบายอากาศเพื่อให้ฝุ่นในพื้นที่พัดขึ้นไปได้

ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถกแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และไฟป่า 17 จว.ภาคเหนือ

ด้าน นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ประชุมติดตามสถานการณ์และการแก้ปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละออง และไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยพลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ Conference จากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อมอบนโยบายกับหน่วยงานในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ โดย ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ ได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย ภายหลังพบว่าสถานการณ์ไฟป่าและฝุ่น PM2.5 เริ่มรุนแรงขึ้น สั่งขอให้ทุกหน่วยนำมาตรการแก้ไขปัญหาในช่วงสถานการณ์วิกฤติไปปฏิบัติอย่างเร่งด่วนและเต็มที่ 

โดยให้ทำการปรับรูปแบบการจัดกำลังดับไฟป่า และการใช้อากาศยาน ให้เข้าถึงพื้นที่และควบคุมไฟไม่ให้ขยายวงกว้าง และให้คำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลป็นสำคัญ งดใช้อาสาสมัครดับที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึง บังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด และขอให้ประชาสัมพันธ์สื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องกับประชาชนอย่างทันท่วงที ย้ำการปฏิบัติงานต้อง "รวดเร็ว แม่นยำ มีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ"
\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
อย่างไรก็ตาม ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสถานการณ์ไฟป่าค่อนข้างรุนแรง เนื่องจากมีลมพัดผ่านเข้ามาจากภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงเหนือที่มีจุดความร้อนเกิดขึ้นจำนวนมาก อย่างข้อมูลล่าสุดจาก GISTDA ได้รายงานจุดความร้อนในประเทศเมียนมา สูงกว่า 5,000 จุด, กัมพูชา กว่า 1,000 จุด และประเทศไทย 730 จุด ซึ่งลดลงจากช่วงก่อนที่สูงถึง 2,000-3,000 จุด โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ป่า ขณะที่ภาคการเกษตรสามารถควบคุมได้ดี 

ขณะเดียวกันในช่วงสัปดาห์หน้า 14-16 มีนาคมนี้ จะต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นอีกครั้ง เนื่องจากลมจะค่อนข้างนิ่ง อัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ และจะมีลมพัดมาจากภาคตะวันตกและภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้ฝุ่นจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้งโดยเฉพาะจังหวัดที่ติดแนวชายแดน ซึ่งจะได้รับผลกระทบมากที่สุด

ทุกภาคส่วนตื่นตัวมากขึ้น 

ขณะที่ นายชัชวาลย์ ทองดีเลิศ ประธานคณะกรรมการอำนวยการสภาลมหายใจเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปีนี้ ทุกภาคส่วนมีการตื่นตัวมากขึ้น โดยเฉพาะแนวทางการป้องกันในช่วงที่เราต้องอยู่กับมลพิษในอากาศ เราเห็นภาคเอกชนมีการขยับตัวเข้ามาทำในเรื่องของห้องปลอดฝุ่นโดยเดิมทีในปีที่ผ่านมาห้องปลอดฝุ่นจะอยู่ในภาครัฐ หรือหน่วยงานของรัฐที่เปิดตามเวลาราชการ ซึ่งไม่ตอบโจทย์การใช้งานของประชาชน  แต่ในปีนี้ห้องปลอดฝุ่นจะอยู่ในร้านอาหารร้านกาแฟห้างสรรพสินค้า  โรงแรมที่พักมากขึ้น ดังนั้นพื้นที่เหล่านี้น่าจะเหมาะสมและมีประชาชนเข้าไปใช้งานได้มากขึ้น

อีกส่วนหนึ่ง คือมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าไปช่วยทำห้องปลอดฝุ่นให้กับศูนย์เด็กเล็กจำนวน 600 กว่าแห่งในจังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกอันหนึ่งคือเชียงใหม่วิสาหกิจเพื่อชุมชน ที่เป็นบริษัทเพื่อสังคมเป็นธุรกิจเพื่อสังคมได้มีการระดมทุน เพื่อให้เป็นรางวัลน้ำใจให้กับหมู่บ้านที่สามารถควบคุมไฟได้ดีมอบให้จำนวนเงิน 25,000 บาท  ความร่วมมือเหล่านี้ถือว่าดีขึ้น รวมถึงกระบวนการที่รัฐบาลเองได้มาติดตาม มากขึ้น ในส่วนของทางจังหวัดเองก็ทำงานกันอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

เสียงถึงรัฐบาล 

จากสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันดังกล่าว ล่าสุดมีรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เตรียมที่จะขึ้นเหนือ มาที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาติดตามการแก้ไขปัญหา ในวันที่ 15-17 มีนาคมที่จะถึงนี้ 

โดย นายชัชวาลย์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการสภาลมหายใจเชียงใหม่ บอกว่า ฤดูฝุ่นแบ่งออกเป็น 3 ช่วงหลัก ๆ ช่วงแรกก็จะเริ่มตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ แต่เมื่อเข้าช่วงที่ 2 ความรุนแรงจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากอากาศแห้ง เชื้อเพลิงในป่าเพิ่ม และอากาศปิด ยาวไปถึงช่วงกลางเดือนเมษายน และ ช่วงที่ 3 หลังเทศกาลสงกรานต์เป็นต้นไป การระบายตัวของอากาศก็จะดีขึ้นความรุนแรงก็จะลดลง 

"แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะเรียกร้องไปถึงรัฐบาล ก็คืองบประมาณ ที่ทุกปีจะมาถึงจังหวัดในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่นพิษคลี่คลายไปแล้ว จึงอยากให้จัดสรรงบกลางเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาได้ทันสถานการณ์" นายชัชวาลย์ กล่าว

\"เชียงใหม่\" น่าห่วงหมอกควัน วิกฤตที่ยังไร้ทางออก
หลังจากนี้ ต้องติดตามกันต่อว่า รัฐบาลจะสามารถบรรเทา ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5 ตามที่ตั้งเป้าไว้ได้หรือไม่

logoline