9 ธันวาคม 2566 จากกรณี ครูชัยยศ นายชัยยศ สุขต้อ อดีตครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3) โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกคำสั่งปลดออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 5 มีคำสั่งปลดออกจากราชการในเวลาต่อมา
กระแสข่าวเป็นที่จับตามองของคนในสังคม ส่วนหนึ่งมาจากการที่คนในสังคมเห็นใจในตัวของ ครูชัยยศ ที่ ตั้งใจทำด้วยหัวใจเพื่อเหล่านักเรียน แต่ถูกให้ออกจากราชการ
ขณะที่ตัวของครูชัยยศเอง ก็ได้ออกมาชี้แจงถึง ที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และให้เหตุผลว่า ตนไม่มีความรู้ด้านกฎหมายทำให้ไม่ทราบว่าการกระทำดังกล่าว ไม่สามารถทำได้และมีความผิดทางด้านกฎหมาย พร้อมเดินหน้าต่อสู้ทางด้านกฎหมาย ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ธันวาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสสัมภาษณ์ "ครูชัยยศ" ผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งได้เปิดเผยว่า ในตอนนี้ตนกำลังเดินทางออกจากตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ไปที่อำเภออมก๋อย เพื่อที่จะเตรียมจัดการกับข้าวของเครื่องใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนส่วนตัวของตน และเตรียมที่จะย้ายออกจากในพื้นที่ที่โรงเรียนตั้งอยู่เพื่อความสบายใจของคนในพื้นที่
อย่างไรก็ตาม ข้าวของเครื่องใช้ที่ตนสนหนักออกมาคงเป็นบางส่วนเท่านั้น ในส่วนของอุปกรณ์ที่เป็นประโยชน์กับตัวนักเรียนตนก็จะทิ้งไว้ที่โรงเรียน เพื่อให้นักเรียนได้ใช้ในการเรียนต่อไป และในอนาคตตนมีความคิดว่าจะมาเปิดร้านขายโรตีเพื่อเลี้ยงชีพอยู่ที่ ทางแยกที่จะขึ้นไปยังอำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่
ครูชัยยศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนยอมรับว่า เริ่มรู้สึกเหนื่อยกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น จนบางครั้งก็ท้อ แต่ก็กลับขึ้นมาสู้ใหม่ เนื่องจากอยากจะล้างมลทินให้กับตัวเอง
ตอนนี้ก็ต้องคิดในแง่บวกเอาไว้ก่อน และยังยืนยันเหมือนเดิมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตนทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจให้กับเด็กนักเรียนให้ได้เรียนหนังสือ
ครูชัยยศ ยังเล่าเพิ่มเติมว่า ในตอนนี้ตนไม่คิดว่ามีใครมาหลอกตนทั้ง อดีตผู้อำนวยการโรงเรียน อดีตเพื่อนร่วมงาน ซึ่งตนก็ไม่ติดใจไม่โกรธใครทั้งสิ้นแต่เรื่องของเอกสารที่เกิดขึ้นตนคิดว่าทุกคนมีเป้าหมายเพื่อที่จะให้โรงเรียนดำเนินต่อไปได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับตัวนักเรียนให้ได้มากที่สุด
“ตอนนี้ตนก็ได้แค่แก้ไขปัญหาและดำเนินชีวิตต่อ ตั้งรับแต่ไม่ไม่ยอมรับ”
อย่างไรก็ตามก็ขอฝากไปถึงคนรุ่นใหม่ที่มีความตั้งใจจะประกอบอาชีพครูเพื่อที่จะให้ความรู้และช่วยเหลือเด็กนักเรียนนอกจากจะมีความตั้งใจแล้วก็ต้องมีความรอบคอบในเรื่องของเอกสารและความรู้ทางด้านกฎหมายเอาไว้ด้วย