svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดเส้นทาง-กลโกง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เงินดี คนไทยแห่ร่วมแก๊งฝั่งกัมพูชา

เปิดเส้นทางเข้าวงการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เงินเดือน 2 หมื่นบาท เพิ่มอีกร้อยละ 6 จากยอดเงินเหยื่อ คนไทย แห่สมัครทำงาน ลักลอบผ่านชายแดน ตั้งฐานหลอกเหยื่อฝั่งกัมพูชา “ผู้การจ๋อ” เผย ขยายผลเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีกกว่า 10 ราย ประสานกัมพูชา ช่วยจับกุมส่งกลับดำเนินคดีในไทย

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 สืบเนื่องจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบสวนนครบาลประสานกับทางการกัมพูชา ในการติดตามจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์  อ้างตัวเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารกสิกรไทย จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาชาวไทย 3 ราย ที่สมัครใจไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งกัมพูชา ก่อนส่งมอบให้ทางการไทย บริเวณ ด่านช่องจอม จ.สุรินทร์

หนุ่มสาวไทยหลายรายที่สมัครใจไปทำงานกับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แม้จะต้องเดินทางไปทำงานฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน หรือ เสี่ยงต่อการถูกจับกุม แต่แรงจูงใจคือ รายได้ดี จนทำให้ตัดสินใจร่วมงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อหวังเงินเปอร์เซ็นต์ จากการหลอกลวงเหยื่อ

 

เปิดเส้นทาง-กลโกง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เงินดี คนไทยแห่ร่วมแก๊งฝั่งกัมพูชา

เปิดเส้นทางการเข้าสู่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

ผู้ต้องหากลุ่มนี้เริ่มเข้าสู่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยการหางานผ่านเพจเฟซบุ๊ก ตามสื่อโซเชียล ที่เปิดรับสมัครทำงานเป็นแอดมินเพื่อตอบคำถามลูกค้า แต่การเปิดรับสมัครบนสื่อออนไลน์ รูปแบบนี้ไม่มีใครรู้ว่าเป็นการรับสมัครเข้าสู่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

 

เมื่อแอดมินประจำเพจ ติดต่อกลับมาเพื่อตอบรับเข้าทำงาน พร้อมทั้งเผยความจริงว่าต้องเป็นแก็งคอลเซ็นเตอร์ เพื่อโทรหลอกเหยื่อให้โอนเงิน หากบุคคลนั้นสมัครใจเข้าทำงาน ทางแอดมินเพจ จึงให้นั่งรถเดินทางไปลงที่ บขส. จังหวัดสระแก้ว

 

หลังจากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จะส่งรถรับจ้างมารับ เพื่อพาไปส่งยังชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อถึงชายแดนแล้ว ชาวกัมพูชา พาข้ามแดนไปตามช่องทางธรรมชาติ เมื่อถึงฝั่งกัมพูชา ได้มีรถตู้มารับ พาไปส่ง เมืองโอเสม็ด  จังหวัดอุดรมีชัย เพื่อทำงานเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์สาย 1 ที่สำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ในจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา

 

เปิดเส้นทาง-กลโกง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เงินดี คนไทยแห่ร่วมแก๊งฝั่งกัมพูชา

 

เผยกลโกงขั้นตอนหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงิน

 

เมื่อเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์เต็มตัว เรียนรู้วิธีการโทรหลอกลวงเหยื่อแล้ว กลุ่มที่ทำหน้าที่พนักงานคอลเซ็นเตอร์ สาย 1 มีหน้าที่ในการล่อลวงเหยื่อเริ่มจาก

 

1. อ้างตัวเป็นฝ่ายเร่งรัดหนี้สินธนาคารกสิกรไทย ออกอุบายสอบถามเหยื่อว่า เลขท้ายบัตรเครดิตสี่หลัก เป็นของเหยื่อหรือไม่ เมื่อเหยื่อตอบว่าไม่ใช่ ก็จะแจ้งกับเหยื่อว่าข้อมูลของท่านอาจรั่วไหล แนะนำให้แจ้งกับที่ สภ.เมืองตาก โดยให้กดปุ่มสี่เหลี่ยม (#) 2 ครั้ง 

 

2. ระบบจะโอนสายอัตโนมัติไปยังกลุ่ม สาย 2 ที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก ยศสิบตำรวจ ถึง ดาบตำรวจ โดยสาย 2 จะอ้างว่าเหยื่อจะแจ้งความเรื่องอะไร พร้อมทั้งหลอกว่าข้อมูลของเหยื่อ มีคนร้ายนำไปใช้ ทำให้เหยื่อมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินและยาเสพติด เหยื่อจะต้องโอนเงินมาตรวจสอบ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ หากเหยื่อยังไม่หลงเชื่อ จะทำทีเดินไปเคาะประตู และให้คุยกับตำรวจระดับ ร้อยตำรวจเอก  ขึ้นไปเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ 

 

3. กลุ่มสาย 3 อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก ระดับ ร้อยตำรวจเอก ขึ้นไปเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ โดยขู่เหยื่อว่าจะต้องถูกดำเนินคดีเนื่องจากเข้าไปพัวพันกับขบวนการฟอกเงิน ค้ายาเสพติด และมีการส่งข้อมูลหลอกเหยื่อผ่านทางไลน์ เช่น หมายจับ (ปลอม) หรือบางครั้งใช้วิธีวิดีโอคอล และใช้เทคนิคตัดต่อ สร้างความน่าเชื่อถือว่าเป็นตำรวจจริงๆ 

 

ท้ายที่สุดเมื่อเหยื่อตกใจ จนหลงเชื่อจึงได้โอนเงินไปตรวจสอบความบริสุทธิ์ ทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิดใดๆ แต่ต้องสูญเสียเงินทอง

 

ค่าตอบแทนที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะได้รับนั้นมี 2 ส่วนคือ ได้เงินเดือน ๆ ละ 20,000 บาท และหากสามารถหลอกลวงเหยื่อได้สำเร็จ ก็จะได้ค่าตอบแทนเพิ่มอีกร้อยละ 6 จากยอดเงินที่เหยื่อหลงกลโอนให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ 

 

เปิดเส้นทาง-กลโกง "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เงินดี คนไทยแห่ร่วมแก๊งฝั่งกัมพูชา

 

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (ผบก.สส.บช.น.) เปิดเผยว่า หลังจากจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายแล้วได้มีการสอบสวน เพื่อขยายผลจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้ที่อ้างเป็นพนักงานเร่งรัดหนี้สินของธนาคารกสิกรไทย เบื้องต้นพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีกกว่า 10 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกหมายจับเพิ่มเติม เพื่อนำหมายจับผ่านช่องทางการทูต เพื่อให้ทางการกัมพูชา ช่วยติดตามจับกุมเพิ่มเติม ในการส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย

 

 

นี่ถือเป็นแรงจูงใจที่คนไทย หลายคนเดินเข้าสู่ขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนไทยด้วยกัน เนื่องจากมีรายได้ดี จนถึงขณะนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยังอาละวาดอย่างหนัก รวมทั้งมีคนไทยอีกกว่าร้อยคน ยังทำงานอยู่ที่สำนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา