
วันที่ 27 ตุลาคม 2566 "หมอวัติ" หรือ นายประวัติ กิจธรรมกูลนิจ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.กาญจนบุรี และ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี คนใหม่ แทนนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี (อบจ.)และหัวหน้าทีม "พลังกาญจน์" ที่ลาออกไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจ จากนายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของประเทศไทย และมหาเศรษฐีในลำดับที่ 14 ของไทยเมื่อปี พ.ศ.2563 ให้เป็นผู้ดูแลผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ทั้ง 5 เขต ของจังหวัดกาญจนบุรี ร่วมถึงผู้สมัคร ส.ส.ภาคกลาง โดยผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 "หมอหนุ่ย" ผู้เดินเกมส์การเมืองที่อยู่เบื้องหลังของผู้สมัคร ส.ส.กาญจน์ ทั้ง 5 เขต ของพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าสู่สภาอันทรงเกียรติ 4 เขตในจำนวน 5 เขตเลือกตั้งของจังหวัดกาญจนบุรี ดังนี้ 1.นายอัครนันท์ กัญณ์กิตตินันท์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1, 2.นายชูศักดิ์ แม้นทิม ส.ส.กาญจนบุรี เขต 2, 3.นายศักดิ์ วิเชียรศิลป์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 ,4.นายพนม โพธิ์แก้ว์ ส.ส.กาญจนบุรี เขต 5 ส่วนเขต 3 นางสาวพลอย ธนิกุล บุตรตรีนายแคล้ว ธนิกุล อดีตเจ้าพ่อเบอร์ 1 ของประเทศไทย จากพรรคเพื่อไทยแพ้ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคภูมิใจไทย
ศึกเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี ทั้ง 5 เขต เพื่อไทย 4 ภูมิใจไทย 1 ในส่วนของจังหวัดกาญจนบุรีที่ส่ง ส.ส.ลงสมัครครบทั้ง 5 เขต "ได้มา 4 เสียไป 1 ทำให้ผลงานของ "หมอหนุ่ย" นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ เข้าตากรรมการที่ชื่อ "คีรี กาญจนพาสน์" ให้โควต้าเข้ารับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการคมนาคม ถือเป็นคนกาญจน์คนที่ 7 ที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะรัฐมนตรี "เศษฐา 1 "
ในส่วนของผู้สมัครหมายเลข 1 คู่แข่งของ "หมอวัติ" นั้น เป็นอดีตผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 จากพรรคก้าวไกล "ทนายวี" หรือ นายสุกวี แสงเป่า จากทีมอนาคตกาญจน์ เคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.กาญจนบุรี เขต 1 มาแล้ว 2 สมัย โดยลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคก้าวไกล ผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทนายวี ได้คะแนนเป็นอันดับ 2 รองอันดับ 1 ทั้ง 2 สมัย
และการลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.กาญจน์ ของ "ทนายวี" ผู้สมัครหมายเลข 1 ครั้งนี้ แม้ไม่ได้ลงในนามพรรคก้าวไกล แต่บรรดาขุนพลและพลพรรคของพรรคก้าวไกล ต่างเดินทางมาลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้กับ "ทนายวี" ผู้สมัครหมายเลข 1 ทำให้ศึกเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี(อบจ.)ในครั้งนี้ช่วงแรก เซียนการเมืองให้ราคาต่อรองของผู้สมัครเบอร์ 2 เป็นต่อเบอร์ 1 ในราคา 5-1
อย่างไรก็ตาม การหาเสียงของทั้งคู่ต่างเร่งลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนเพื่ออ้อนขอคะแนนเสียง แต่ด้วยสภาพพื้นที่ของจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่หาเสียงที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ ผู้สมัครทั้งสองมีความได้เปรียบเสียเปรียบกันคนละอย่าง อย่างเบอร์ 1 "ทนายวี" ได้เปรียบเรื่องของกระแสพรรคก้าวไกล ส่วนเบอร์ 2 "หมอวัติ" อาศัยผู้นำท้องถิ่นเป็นผู้ช่วยหาเสียง รวมถึงเพื่อนร่วมทีม "พลังกาญจน" ที่เป็น ส.อบจ.ประมาณ 25 คน แต่ละคนก็มีฐานเสียงอยู่ในแต่ละพื้นที่ที่ตัวเองอยู่ ส่วนเบอร์ 1 "ทนายวี" ยังไม่มีลูกทีม แม้จะชนะเลือกตั้ง แต่การเข้าไปบริหารงานใน อบจ.คงจะยากลำบากไม่เหมือนที่ผ่านมา
นักสู้การเมือง "ทนายวี" แม้รู้ตัวเองว่าเป็นรองคู่แข่งก็จริง แต่ความหน้ากลัวที่ผู้สมัครเบอร์ 2 ถึงกับเอ่ยปากเลยว่า เสียงรอบนอกไม่กลัว ที่กลัวคือคะแนนในเมืองโดยเฉพาะกระแสของพรรคก้าวไกล แม้พรรคจะไม่ได้ส่งในนามพรรคก็ตาม แต่ขุนพลของพรรคก็เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ช่วย "ทนายวี" ผู้สมัครหมายเลข 1 หาเสียงแทบจะทุกวันโดยหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันมาลงพื้นที่
ศึกเลือกตั้ง นายก อบจ.กาญจน์ ครั้งนี้ ชาวบ้านต่างรอคอยความหวังเงินหล่นทัพเหมือนศึกเลือกตั้งต่างๆที่ผ่าน รอแล้วรอเล่า โดยเฉพาะบรรดาหัวคะแนนที่หวังว่างานนี้จะได้รับเงินเหมือนเช่นเคยก็ต้องผิดหวัง เมื่อผู้สมัครทั้ง 2 เบอร์ ไม่มีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเหมือนเช่นที่ผ่านมา เมื่อไม่มีการซื้อเสียงเกิดขึ้น ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สอบถามชาวบ้านตามชุมชนต่างๆ คำพูดที่พูดเหมือนกันก็คือ จะเทคะแนนให้กับผู้สมัครหมายเลข 1 กระแสข่าวนี้ทำให้ "บ้านใหญ่ภาคตะวันตก" ถึงกับเรียกทีมงานมาประชุมหารือกันที่ฟาร์มวัวของ "หมอหนุ่ย" รมช.คมนาคม ผู้ได้รับฉายาใหม่ หลังเข้ามาเป็นรัฐมนตรีในโควต้าของ นายคีรี ผู้ให้การสนับสนุนพรรคเพื่อไทยเช่นเดียวกับอีก 3 พรรค เพื่อหาทางแก้ไข พร้อมกับเชื่อมั่นในทีมงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็น ส.อบจ.ที่มีฐานเสียงของตัวเองอยู่ในแต่ละพื้นที่มีความได้เปรียบคู่แข่งเบอร์ 1 พร้อมกับประกาศวัดดวงกับศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ ทำให้บรรดาเซียนพนันที่เคยต่อรองกันไว้ในราคา 5-1 มาเป็นราคา 3-1 ก่อนถึงวันเลือกตั้งเพียงแค่ 2 วัน