
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 ตุลาคม 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยัง วัดหัวหินประเสริฐธรรม บ้านโคกสูง ม.6 ต.โนนธาตุ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยทางทิศใต้ของวัดใช้เป็นสถานที่สร้างเมรุชั่วคราวเตาเผาเชิงตะกอน เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพ นายพงษ์เทพ กุสะรัมย์ อายุ 26 ปี และนายพิชิต นาจันทร์ อายุ 27 ปี ทั้งสองคนเป็นแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสยิงตายในสงครามอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 ต่อมาทางการอิสราเอลได้ส่งร่างผู้ตายกลับมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้ตั้งศพสวดมาติกาที่บ้านเป็นเวลา 3 คืน และจะมีพิธีฌาปณกิจพร้อมกันในวันนี้ ซึ่งการจัดสถานที่และการสร้างเมรุชั่วคราว เป็นไปอย่างเรียบร้อยเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จากการสอบถาม น.ส.อรวรรณ บุญจง อายุ 42 ปี เจ้าของร้านแดงหีบศพ ซึ่งนำลูกจ้างช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ ที่ตั้งเมรุลอย กล่าวว่า ร้านแดงหีบศพได้รับการว่าจ้างจากครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ให้จัดโลงเย็นพร้อมเครื่องสวดมาติกา รวมถึงการจัดเมรุลอย เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ตายทั้งสอง โดยการจัดเมรุลอยเพื่อเผาศพครั้งนี้ ใช้การก่ออิฐบล็อคขึ้นสูงประมาณ 1 เมตรครึ่ง , ยาว 2 เมตร , กว้าง 1 เมตร และทำเสาทั้ง 4 ด้าน เพื่อใช้ผ้าขาวมุงด้านบน ประดับโดยด้วยผ้าลูกไม้สีขาว-ดำ และดอกไม้สีขาว ให้สวยงาม รวมค่าจัดการจนเสร็จงานในราคาศพละ 20,000 บาท
ด้าน พระอธิการชาย ธมมโชโต เจ้าอาวาสวัดหัวหินประเสริฐธรรม กล่าวว่า พิธีการจะเริ่มในช่วงบ่าย โดยเริ่มจากพิธีจูงศพผู้เสียชีวิตจากบ้าน มาที่เมรุชั่วคราว ซึ่งอยู่ทางด้านทิศใต้ของวัด จากนั้นพ่อแม่ญาติพี่น้องของคนตาย ก็จะจูงศพผู้ตายเดินเวียนซ้ายรอบเตาตะกอน จำนวน 3 รอบ และเคลื่อนศพขึ้นบนเตาตะกอน ซึ่งจะมีถ่านอยู่ชั้นล่างสุด ตรงกลางเป็นโลงศพผู้ตาย วางทับด้วยฟืน หลังจากนั้นจะเข้าสู่พิธีการสวดมาติกาบังสุกุล ฟังเทศน์ 1 กัณฑ์ ทอดผ้าบังสุกุล ไตรเปิด ไตรปิด ถวายพระ ทอดผ้าบังสุกุล สวดพระอภิธรรมหน้าไฟ โดยมีพระสงฆ์นำสวดประกอบพิธี 4 รูป ก็จะเสร็จสิ้นพิธี
พร้อมกันนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านของแรงงานไทย 2 รายดังกล่าว โดยที่บ้านของ นางหมวย นาจันทร์ มารดาของนายพิชิต ยังมีญาติพี่น้องที่อยู่ต่างหมู่บ้าน เพื่อนผู้ตาย เดินทางมาร่วมงานศพจำนวนมาก แม่หมวยบอกว่ามีกำลังใจดีขึ้น หลังจากที่รับศพลูกกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด แม้ลูกจะมาในร่างไร้วิญญาณ แต่ก็รู้สึกอุ่นใจที่ลูกได้กลับมาบ้านแล้ว
ทั้งนี้ แม่หมวย สุดจะกลั้นน้ำตา สะอื้นร่ำไห้ กล่าวว่า เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ได้อยู่กับลูกชาย พอทำใจได้บ้างหลังได้ตั้งศพสวดอภิธรรมศพมาจนวันสุดท้าย และต้องเคลื่อนศพลูกชายไปสู่เมรุเพื่อฌาปนกิจศพ ทำให้คิดว่า เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องพบเจอ เพียงแต่ลูกชายตายจากการกระทำที่เกิดจากความรุนแรง โหดเหี้ยม เท่านั้น แม่ป่วยเป็นมะเร็งผิวหนังที่เท้าข้างขวา ช่วงที่ลูกชายไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล และต้องพบแพทย์รักษาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเดินไม่ไหว แต่แม่ตั้งใจไปส่งลูกชายให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี มีสุข เกิดชาติหน้าก็ขอให้มาเป็นแม่ลูกกันอีก
เช่นเดียวกับ นายลำเพย กุสะรัมย์ พ่อของนายพงษ์เทพ แต่ในส่วนของพ่อลำเพยนั้น สูญเสียลูกชายจากเหตุการณ์นี้ไปถึงสองคน บรรยากาศที่บ้านของพ่อลำเพย ก็ไม่ต่างกันกับบ้านแม่หมวย มีญาติพี่น้องจากต่างจังหวัด ต่างหมู่บ้าน เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจและเคารพศพลูกชายจำนวนมาก
พ่อลำเพย กล่าวว่า การเคลื่อนศพลูกชายและหลานชาย จะเคลื่อนไปในเวลาบ่ายโมงตรง โดยเคลื่อนศพลูกชายออกก่อน และนางหมวย ก็เคลื่อนศพตามไป ไปยังวัดหัวหินประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี เมื่อเผาศพคนน้องเสร็จ ก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับศพลูกชายอีกคน มาประกอบพิธีสวดอภิธรรมต่อที่บ้าน ซึ่งคาดว่ากระทรวงการต่างประเทศจะนำศพส่งในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ตอนนี้พ่อเหนื่อยมาก แต่ต้องเข้มแข็ง เพื่อทำทุกอย่างที่จะส่งลูกชายไปสวรรค์ ไปอยู่กับแม่เขา พ่อก็ยังมีกำลังใจจากหลานชายที่เป็นลูกของลูกชายคนโต มาอยู่ด้วย ก็พอหายเหนื่อย หายเครียดลงได้บ้าง
ขณะเดียวกันบนศาลาการเปรียญภายในวัด พระครูกันตธรรมสาร เจ้าคณะตำบลโนนธาตุ ได้อุปสมบทบวชหน้าไฟให้กับน้องชายและหลานของผู้เสียชีวิต โดยพระสถาพร สูงดำ อายุ 25 ปี ลูกพี่ลูกน้อง มีศักดิ์เป็นน้องชายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ครอบครัว กล่าวว่า ตนเองเกิดและเติบโตมากับพี่ชายที่เสียชีวิตทั้ง 3 คน คือ นายพิชิต นายพงษ์เทพ และนายอภิชาต เปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน เมื่อพี่ขายทั้ง 3 เสียชีวิต ก็เศร้าใจ จึงอยากบวชให้เพื่อให้พี่ชายได้เกาะชายผ้าเหลือง หากพี่ทั้ง 3 ฟังอยู่ ขอให้ไม่ต้องห่วง ตนเองจะดูครอบครัว พ่อแม่แทนเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พิธีการเริ่มจากจูงศพเคลื่อนออกจากบ้านช่วง 12.00 น. มาตั้งศพที่เมรุชั่วคราว โดยทำเป็นแบบเตาเผาเชิงตะกอน ซึ่งจะเคลื่อนศพของนายพงษ์เทพ ออกจากบ้านมาก่อน แล้วชะลอเพื่อรอศพของนายพิชิต ก่อนจะเคลื่อนศพทั้งสองเข้าวัดพร้อมกัน เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจภายในเมรุลอยแบบเตาเผาเชิงตะกอน เพื่อส่งดวงวิญญาณ