วันที่ 18 ตุลาคม 2566 เวลา 09.00 น ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.ดวงกมล วุฒิโรธง อายุ 49 ปี แม่ของนายธนกฤต หรืออ๊อฟ วุฒิโรธง อายุ 21 ปี ดาราวัยรุ่นที่ประสบอุบัติเหตุ ถูกหญิงสาวเมาสุราขับรถชนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และต้องนอนเป็นเจ้าชายนิทรา นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือทางคดี หลังจากเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดลำพูน มีคำพิพากษาลงโทษหญิงสาววัยรุ่นที่ขับรถชน ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี และให้ชดใช้เงินทางแพ่งเป็นเงินกว่า 4 ล้านบาทน.ส.ดวงกมล กล่าวว่า เวลาผ่านมากว่า 5 เดือน หญิงสาววัยรุ่นคนดังกล่าว กลับไม่เคยติดต่อมาขอโทษ หรือชดใช้เงินเลยแม้แต่บาทเดียว หลังจากนั้นได้มีพลเมืองดี ส่งรูปภาพชีวิตความเป็นอยู่ของวัยรุ่นสาวที่ก่อเหตุรายนี้มาให้ตนได้ดู ก็พบว่าเธอใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบาย เหมือนกับว่ากับเรื่องที่ขับรถชนลูกชายของตนจนเป็นเจ้าชายนิททราไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้ตนรับไม่ได้กับเรื่องนี้ จึงตัดสินเดินทางจาก จ.ลำพูน เพื่อมาร้องเรียนและขอคำปรึกษากับทนาย ให้ช่วยเหลือเรื่องคดี โดยจะทำเรื่องขออุทธรณ์ศาลต่อไปน.ส.ดวงกมล เล่าทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ตนต้องดูแล น้องอ๊อฟ ที่นอนป่วยติดเตียง และต้องดูแลยายที่มีอายุมากแล้ว เพียงคนเดียว ก่อนหน้านี้เคยมีแผงขายเสื้อผ้าในตลาด กระทั่ง น้องอ๊อฟ ถูกคนขับรถที่อยู่ในอาการเมาสุราขับรถชน ตนต้องขายแผงเสื้อผ้า เพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษาน้องอ๊อฟ และต้องอยู่บ้านคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะน้องอ๊อฟไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ทุกวันนี้ตนต้องไลท์สดขายของเล็กๆน้อยๆ ข้างเตียงของลูกชายทุกวัน เพื่อหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแล บ้างวันก็ขายได้ บางวันก็ขายไม่ได้
ตามที่ศาลสั่ง มันก็คงไม่พอที่จะดูแลน้องให้หายขาด หรือดูแลน้องไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว แต่นี้เขากลับไม่เคยติดต่อมาหาตนเลยว่าจะชดใช้อย่างไรจนผ่านมากว่า 5 เดือนแล้ว จนมีพลเมืองดีส่งรูปสาววัยรุ่นที่ขับรถชนลูกชายมาให้ดูก็พบว่าหลังศาลตัดสินแล้วเขายังคงใช้ชีวิตกินหรู อยู่สบาย ไปเที่ยวอย่างสบายใจกินอาหารที่ตนกับลูกไม่เคยกินเพราะมันแพงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตนรับไม่ได้กับเรื่องนี้จึงตัดสินใจเดินทางจากจ.ลำพูนมาขอให้ทนายรณณรงค์ช่วยเหลือ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วกับชีวิตทุกวันนี้ลำบากมากไม่รู้จะสู้แบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน สงสารก็แต่ลูกชายกับยายถ้าหากตนเป็นอะไรไปก่อน
น.ส.ดวงกมล กล่าวอีกว่า ตนอยากขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ร่วมถึงบริษัทน้ำเมายี่ห้อต่างๆ พวกคุณควรลงมาช่วย เพราะคุณก็มีส่วนผิด อย่างกรณีนี้คู่กรณีไม่ยอมชดใช้ ทำให้คนที่ได้รับผลกระทบเดือดร้อนมาก ซึ่งพวกคุณควรมีกองทุนสำหรับชดใช้ให้กับเหยื่อ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เพราะชาวบ้านอย่างพวกตน จะไปจ้างทนายความ เพื่อให้ไปสืบทรัพย์บังคับคดีคนทำผิดมาชดใช้ ก็ไม่มีเงินที่จะดำเนินการได้นายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีคล้ายกับกรณีที่เด็กเยาวชนขับรถไปชนคนตายแล้วไม่รับผิดชอบ ซึ่งคดีนี้ศาลมีคำพิพากษาแล้วให้คนก่อเหตุชดใช้เงินกว่า 4 ล้านบาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา ทำให้คนก่อเหตุไม่ยอมจ่ายเงินให้กับแม่น้องผู้เสียหายแม้แต่บาทเดียวซึ่งทางแม่น้องก็เคราพคำตัดสินของศาล หลังจากนี้ยังมีกระบวนการทางกฎหมายที่สามารถทำได้ด้วยการไปสืบทรัพย์บังคับคดีตนจะให้แม่น้องไปร้องที่กระทรวงยุติธรรมที่จ.ลำพูน ให้ส่งเจ้าหน้าที่เขามาช่วยเหลือแม่น้องเขาด้วยเพราะเขาไม่มีเงินที่จะทำเรื่องนี้ได้ ต้องเขาใจว่าทุกอย่างมีต้นทุนหน่วยงานหรือกลไกของรัฐต้องเข้ามาช่วยเหลือให้ความยุติธรรมกับเขาด้วย
ซึ่งเรื่องนี้แม่น้องอ๊อฟ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลจาก จ.ลำพูน เข้ามาขอให้ตนช่วยถึง กทม. เลยด้วยซ้ำ แต่เพราะเขาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร และจะต้องทำอย่างไรต่อไปกับเรื่องที่เกิดขึ้น วันนี้จึงอยากให้สังคมได้รับรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้ ซึ่งเป็นข่าวใหญ่โตตอนเกิดเรื่อง มีหลายคนหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ แต่ผลสุดท้ายคู่กรณีไม่รับผิดชอบ ดังนั้น จึงขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าถ้าเมาแล้วขับ ต้องมีการแก้กฎหมายให้ติดคุก ต้องติดคุกจริงๆเพื่อให้ทุกคนที่คิดจะดื่มนำ้เมากลัวไม่กล้าขับรถ ไม่งั้นก็จะเหมือนกับกรณีนี้เมาชับ ชน พิการ ติดเตียง แล้วลอยชายไม่รับผิดชอบตนว่ามันไม่ใช่