
นนทบุรี วันที่ 26 กันยายน 2566 เวลา 11.00 น. กลุ่มผู้ศรัทธากว่า 10 คน ซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็นลูกหลานอากง รวมตัวกันนำเอกสารหลักฐานเข้าพบ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ให้ช่วยตรวจสอบ หลังสงสัยว่าถูกโกงเงินบริจาคร่วม 50 ล้านบาท จากหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งเป็น “ร่างทรงอากงซุนหงอคง” และ “ร่างทรงเฮ่งเจีย” ที่วิหารซุนหงอคง เขตมีนบุรี กทม. ซึ่งผู้เสียหายให้ความเคารพนับถือมาตั้งแต่ปี 2558 โดยได้ร่วมบริจาคทั้งเงินและสิ่งของเพื่อสร้างวิหาร 3 ชั้น ไว้กราบไหว้บูชา แต่ผ่านมาเกือบ 8 ปี ยังไม่มีการก่อสร้างวิหารดังกล่าวแต่อย่างใด สร้างเพียงศาลรองชั้นเดียวเท่านั้น พอสอบทราบเรื่องยอดเงินบริจาคก็ถูกร่างทรงคนดังกล่าวบีบไล่ออกจากไลน์กลุ่ม จึงตัดสินใจรวมตัวกันเดินทางมาร้องเรียนกับทนายความเพื่อขอความช่วยเหลือในการตรวจสอบพฤติกรรมของร่างทรงรายนี้
จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีการเริ่มสร้างศาลอย่างที่เคยบอก พอตนสอบถามไปก็ถูกบีบให้ออกจากกลุ่ม และไปบอกกับลูกศิษย์คนอื่นๆว่าตนเป็นคนไม่ดี ทุกคนที่สอบถามเรื่องเงินบริจาคในบัญชีจะโดนเหมือนกับตนแทบทั้งหมด ทำให้กลุ่มผู้ศรัทธาเชื่อว่าอาจจะมีการแอบอ้างใช้องค์เทพ เพื่อหาผลประโยชน์ส่วนตน และทำให้องค์เทพเสื่อมเสีย
ขณะที่ นายรณณรงค์ กล่าวว่า กรณีนี้ เข้าข่ายความผิด 3 ข้อหา คือ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์ ฉ้อโกงประชาชน และผิดพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร หลังจากนี้จะพาผู้ศรัทธาไปยื่นเรื่องต่อตำรวจไซเบอร์ แต่หากหญิงร่างทรงสามารถชี้แจงบัญชีการเงินได้ก็จะจบ ทางผู้ศรัทธาก็ไม่เอาเรื่องและจะขออนุโมทนาบุญด้วยถ้าหากสร้างศาลได้สำเร็จ