จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "กลุ่มชาวปากเกร็ด ร่วมแจ้งข่าวสารในพื้นที่ปากเกร็ดและนนทบุรี" รายหนึ่งโพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความว่า “ถามถึงความรับผิดชอบ ในการทำงานที่ปล่อยสายไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เกี่ยววินมอเตอร์ไชค์ ซอยทรายทอง ถนนติวานนท์ 45 ทำงานได้ทุเรศมาก อาทิตย์นี้เจอ 2-3 ราย-ข่าวนนทบุรี”
นนทุบรี เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 19 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณซ.ติวานนท์ 45 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว พบสายไฟ ยี่ห้อ Bangkok Cable NYY ขนาด 2x2.5 SQ.MM. ที่ห้อยลงมาเกี่ยวคอชาวบ้านที่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านไปมาทำให้รถล้มได้รับบาดเจ็บ ทางชาวบ้านได้โยนสายไฟขึ้นไปเก็บไว้ชั่วคราว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำ
![]()
จากการสอบถามนายทอน เถื่อนถ้ำ อายุ 61 ปี วินมอเตอร์ไซค์ เบอร์ 44 (ผู้บาดเจ็บที่ถูกสายไฟเกี่ยวล้ม เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา) เผยว่า วันเกิดเหตุตนขี่มอเตอร์ไซค์อยู่เจอสายไฟหล่นลงมาคล้ายบ่วงเกี่ยวลำตัวรถลอยขึ้นนิดนึง ทำให้ล้มลงไป โชคดีที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาก่อน ครั้งนี้ครั้งแรก มีบาดเจ็บตรงแขน ตอนเกิดเหตุมีคนขี่วินมอเตอร์ไซค์ด้วยกันเข้ามาช่วยเหลือ อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเก็บสายไฟให้เรียบร้อย ก่อนหน้านี้มีคนเจอเหตุการณ์แบบนี้เช่นกัน คาดว่าเจ็บหนัก เพราะเห็นว่าไปโรงพยาบาลด้วย
นายรุ่งรวิน ทรงธนศักดิ์ อายุ 47 ปี ลูกเจ้าของร้านชำ กล่าวว่า เคสที่วินมอเตอร์ไซค์โดนสายไฟเกี่ยวล้มตนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ แต่เห็นตั้งแต่วันแรกที่ผู้บาดเจ็บเป็นผู้หญิง ตนเห็นมีรถบรรทุกขับออกจากซอยไป แล้วสายไฟจึงหล่นลงมา ไม่รู้ว่าอะไรไปเกี่ยว ผ่านไปพักเดียวมีมอเตอร์ไซค์ขี่ออกมาคนขี่เป็นผู้หญิง เห็นเขารถล้มแต่จังหวะนั้นมีรถบรรทุกสวนเข้ามาพอดี ไม่แน่ใจว่าเฉี่ยวกับรถบรรทุกหรือโดนสายไฟเกี่ยวล้ม แต่มาทราบทีหลังว่าเกี่ยวกับสายไฟ ช่วงเกิดเหตุเขาล้มลงนอนกับพื้นถนน มีวินมอเตอร์ไซค์ขับผ่านเข้ามาช่วยไปหน้าซอย คาดว่าไม่ได้เจ็บหนักเพราะไม่เห็นเลือด อาจจะขี่มาไม่แรง หลังจากนั้นก็มีเกิดเหตุอยู่เรื่อย ๆ
![]()
น.ส.วรัญญา เหมือนบุญ อายุ 47 ปี เจ้าของร้านซักอบรีดคนเห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ตนเห็นเหตุการณ์วันที่ป้าคนนึงโดนสายไฟเกี่ยวคอจนรถล้ม ออกมาจากร้านเห็นว่าผู้บาดเจ็บไปนอนอยู่กลางถนนแล้ว มีวินมอเตอร์ไซค์เข้ามาช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครกล้าจับเพราะกลัวจะเป็นอะไรหนัก ช่วยกันพยุงเข้ามาริมถนนและปฐมพยาบาลเบื้องต้น วันเกิดเหตุผู้บาดเจ็บมีอาการมึนงง คำถามแรกที่ถามกลับมา ถามว่าจะไปไหน จะไปทำอะไรกัน ตนมีเข้าไปสอบถามว่าป้าเจ็บตรงไหนหรือไม่ ผู้บาดเจ็บบอกมีอาการเจ็บหัว นั่งอยู่หน้าร้านนาน จึงโทรตามรถพยาบาลมารับ
นางยุพิน ทวีกรรณ์ อายุ 59 ปี กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนจะออกไปรับลูกกับหลาน ช่วงเวลาประมาณ 16:00 น. จังหวะที่ขี่รถออกไปมองเห็นแล้วว่ามีสายไฟห้อยลงมา ขี่หลบแล้วแต่พอดีมีรถขับสวนเข้ามาทางขวา จึงเลี่ยงหลบแต่ไม่พ้นสายไฟ ทำให้เกี่ยวคอรถล้มลงไป มีหัวกระแทกพื้น มึนไปพักนึง เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล มีเอ็กซเรย์ ตรวจคลื่นหัวใจ นอนพักที่โรงพยาบาล 3 วัน 2 คืน เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 15 ก.ย. 66 ที่ผ่านมา เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาเมื่อวานตอนบ่ายโมง ยังมีเจ็บที่ข้อศอก หัวไหล่ สะโพก และหัว ตั้งแต่อยู่ที่นี่มา 30 กว่าปี เพิ่งเกิดเหตุการณ์ตรงนี้ครั้งแรก ก่อนหน้านี้ไม่ทราบว่ามีใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง ทราบแค่วินมอเตอร์ไซค์ที่ล้มเช่นเดียวกัน
"หลังจากวันที่ตนล้ม ค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด พรบ.เป็นฝ่ายจ่ายให้ โชคดีที่เพิ่งต่อ พรบ.พอดี อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้าหรือสายเคเบิ้ล อยากให้เข้ามาดูแลอุปกรณ์ของตัวเองหน่อย ช่วงตรงนั้นสายไฟเยอะ แล้วขาดบ่อยมากและมีเสาไฟเอนอยู่ตรงหัวมุม ไม่รู้จะล้มลงมาวันไหน เส้นไหนที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอยากให้นำออกไป หากสายไฟฟ้าช็อตขึ้นมาจะอันตรายกว่าเดิม วันเกิดเหตุตนไม่ได้ขี่รถเร็ว เพราะเพิ่งออกจากปากซอยไป ความเร็วไม่ถึง 40 ด้วยซ้ำ คิดว่าถ้าขี่เร็วกว่านี้อาจจะไม่ได้มานั่งพูดตรงนี้แล้ว และตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเยียวยาตนบ้าง เพราะอายุเยอะแล้ว ถ้าไม่มีพรบ.จ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น คงต้องควักเงินจ่ายค่ารักษาเองเป็นหมื่น" นางยุพิน กล่าว