
30 สิงหาคม 2566 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สภ.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมี พ.ต.อ.กิตติ์ธเนศ สุริยศักดิ์ภูบดี ผกก.สภ.บ้านไร่ พร้อมตำรวจ สภ.บ้านไร่ ให้การต้อนรับ
จากนั้น ได้ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายใช้อาวุธปืนและมีดทำร้ายหญิงวัย 57 ปี จนเสียชีวิต ภายในไร่มันสำปะหลัง ก่อนนำจักรยานยนต์ของผู้ตายไปเผาทิ้งบริเวณป่าอ้อยที่อยู่ใกล้กัน เหตุเกิดในหมู่ 6 บ้านทุ่งนา ต.ทัพหลวง อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. วันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นคดีสะเทือนขวัญของคนในพื้นที่
โดยประเด็นสำคัญของคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญครั้งนี้ คือยังไร้วี่แววผู้ต้องสงสัยที่ชัดเจน ประกอบกับข้อมูลหลักฐานและพยานแวดล้อมที่ยังไม่บ่งชัด ทำให้ตอนนี้ตำรวจทำงานกันอย่างหนัก เพื่อแกะรอยหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ซึ่ง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผบช.ภ.6 ได้ระดมชุดสืบสวนของสอบสวนของภาค 6 เข้ามาร่วมกับชุดสืบสวน สอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี และ สภ.บ้านไร่ ทำการสืบสวนสอบสวนกันอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวให้ได้เร็วที่สุด เพื่อให้คนทำผิดรับโทษตามกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ยังคงทำการสอบปากคำคนในครอบครัวผู้ตาย คือ สามี และลูกชายทั้ง 2 คน อย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 3 วันติดต่อกัน
พล.ต.ต.สุเมฆ บวรเศวตฉัตร ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจทำงานกันอย่างเต็มที่ ซึ่งข้อมูลความคืบหน้าของคดี ตอนนี้ขอยังไม่ลงรายละเอียดมาก เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของการสืบสวนทั้งหมด ส่วนการสอบปากคำและการตรวจค้นจากบุคคลในครอบครัวแล้วนั้น เบื้องต้นตรวจพบอาวุธและเครื่องกระสุนปืนไทยประดิษฐ์ในบ้านพัก 2 กระบอก เป็นอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก ปืนยาว 1 กระบอก ประกอบกับกระสุนปืนตรงกับที่อยู่ในร่างของผู้เสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังคงรอผลตรวจก่อน พร้อมกับขอกำลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาช่วยงมหามีดในสระน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ โดยยังไม่พุ่งเป้าไปที่บุคคลใดชัดเจน และยังไม่ตัดปมสังหารใดๆ ออกทั้งสิ้น