
18 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (17 ส.ค.66) พ.ต.ท.สำเนียง ศรีพรหม พนักงานสอบสวนเวร สภ.หนองหาน จ.อุดรธานี รับแจ้งมีคนถูกทำร้ายโดยอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บถูกส่งตัวมารักษาตัวที่ รพ.หนองหาน และได้เสียชีวิตระหว่างรักษาตัว เหตุเกิดที่หน้างานศพบ้านหลังหนึ่ง ที่บ้านนาอุดม หมู่ 5 ต.ดอนหายโศก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ น.ส.สะไบคำ อายุ 41 ปี แม่ค้าขายลูกชิ้น สภาพศพมีบาดแผดถูกแทงที่บริเวณหน้าอกซ้ายเหนือราวนม 1 แผล
ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายปรีชา อายุ 45 ปี สามีของผู้ตาย หลังก่อเหตุได้ขี่รถจยย.หลบหนีแล้วไปผูกคอตายที่บ้านพัก แต่มีชาวบ้านเข้าไปช่วยไว้ทันรีบนำส่ง รพ.หนองหาน โดยน.ส.สะไบคำ ผู้ตาย และนายปรีชา ผู้ก่อเหตุ เป็นสามีภรรยากันแต่ไม่จดทะเบียนสมรส มีบุตรด้วยกัน 2 คน และน.ส.สะไบคำ มีอาชีพขายของเร่ โดยใช้รถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายส้มตำ ลูกชิ้น ตามหมู่บ้านทุกวัน ต่อมาได้มีปากเสียงทะเลาะกันเนื่องจากนายปรีชา ชอบดื่มสุราและเสพยา น.ส.สะไบคำ จึงบอกเลิกและแยกกันอยู่ ได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ น.ส.สะไบคำ นำรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง มาขายลูกชิ้นอยู่หน้าบ้านที่จัดงานศพที่บ้านนาอุดม นายปรีชา ได้ขี่จักรยานเพื่อตามมาง้อขอคืนดี น.ส.สะไบคำ ไม่ยอมคืนดีด้วย นายปรีชา จึงโมโหประกอบกับเมา ได้ชักอาวุธมีด ที่พกติดตัวแทงที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย น.ส.สะไบคำ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ท่ามกลางความตกใจของชาวบ้านที่มาร่วมงานศพและร้องด้วยความตกใจ โดยชาวบ้านได้รีบช่วยกันนำร่าง น.ส.สะไบคำขึ้นรถนำส่ง รพ.หนองหาน แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วน นายปรีชา หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป ต่อมาผู้ใหญ่บ้านและเพื่อนบ้านได้ติดตามไปที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน พบว่านายปรีชา ผู้ก่อเหตุได้ใช้ผ้าขาวม้าผูกคอตนเอง เพื่อฆ่าตัวตายภายในห้องน้ำบ้านพัก จากนั้นผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านได้ช่วยกัน นำส่ง รพ.หนองหาน และแพทย์โรงพยาบาลหนองหานได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยายาลอุดรธานี ขณะนี้อาการยังไม่พ้นขีดอันตราย ขณะเดียวกัน พนักงานสอบสวนสภ.หนองหานได้อายัดตัวและแจ้งข้อหากับนายปรีชา ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา”
ต่อมาวันนี้ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านงานศพของน.ส.สะไบคำ ผู้เสียชีวิต มีชาวบ้านจำนวนมากเดินทางมาร่วมงานศพท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ ทั้งแม่ ญาติและเพื่อนบ้าน
นางจันทร์ อายุ 71 ปี แม่ของน.ส.สะไบคำ เปิดเผยว่า ตนมีลูกด้วยกัน 6 คน คนที่เสียชีวิตเป็นลูกคนสุดท้อง ขยันทำมาหากิน วันที่เกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ที่บ้านงานศพบ้านหลังที่เกิดเหตุ ส่วนลูกสาวขายของที่หน้าบ้าน จากนั้นได้โทรศัพท์มาบอกว่า สามีมากวนอีกแล้วให้ออกมาดู แต่พอออกไปก็พบลูกสาวนอนจมกองเลือดแล้ว
เท่าที่รู้ทั้งสองคนมีเรื่องทะเลาะกันภายในครอบครัว โดยลูกสาวตนได้ขอแยกทางกับสามี จากนั้นลูกสาวก็ย้ายได้มาอยู่กับตนที่บ้าน ก่อนหน้านี้ลูกสาวเคยมาปรับทุกข์กับตนว่า “ตนไม่สามารถทนพฤติกรรมของสามี เพราะเสพยาบ้าและกินเหล้า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจ ทำไมถึงกล้าทำ ซึ่งวันอาทิตย์นี้จะทำการฌาปนกิจศพลูกสาว
ด้าน นางจี อายุ 71 ปี แม่ของนายปรีชาผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ลูกชายเคยบอกกับตนว่าเมียออกออกไปขายของ ก็หึงหวงหาว่าเมียปันใจมีคนใหม่ ตนก็เตือนว่าอย่าไปคิดแบบนั้น นิสัยลูกคนนี้เป็นคนดีหาเงินเก่งสร้างบ้านสร้างครอบครัวจนมีลูก 2 คน หลังติดยาเสพติดลูกก็เปลี่ยนไป “การที่ผู้ชายก่อเหตุแบบนี้ตนรู้สึกโกรธมาก หลังได้ยินข่าวว่าลูกชายผูกคอคิดจะตายตาม ตนยังไปต่อว่าคนที่ไปช่วยเลยว่าไปช่วยเหลือทำไม ทำไมไม่ปล่อยให้มันตายไป หากย้อนเวลาไปได้อยากให้ลูกสะใภ้มีชีวิตอยู่ และอยากให้ลูกชายของตัวเองตายแทน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวยังได้เดินทางไปยังบ้านของนายปรีชา โดยมีนายคำพัน อายุ 56 ปี อสตร.พาดูจุดที่ผู้ก่อเหตุผูกคอ และเล่าว่า ขณะที่นายปรีชาอยู่ที่บ้านรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุม แต่ปรากฎว่าเจ้าตัวขอเข้าห้องน้ำ แต่ผิดสังเกตเห็นเข้าไปนาน ตนจึงปีนขึ้นไปดูพบผู้ต้องหาผูกคอแล้ว จึงเข้าไปช่วยและพานำส่งโรงพยาบาล สาเหตุเพราะนายปรีชาหึงเมีย ไม่ทำการทำงานกินแต่เหล้าเมาแต่ยา ทำให้เมียขอแยกทาง และจะไปขอคืนดีเมียแต่เมียไม่เล่นด้วย จึงก่อเหตุสลดดังกล่าว