
10 สิงหาคม 2566 เจ้าอาวาสไล่พระ เณร เด็กวัด ออกจากวัดกลางดึก เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 9 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ว่า มีพระสงฆ์ และสามเณร ประมาณ 10 รูป พร้อมเด็กวัด เดินอยู่บนถนนเส้น 304 มุ่งหน้าขาเข้ากรุงเทพฯ แต่ละรูปถือสิ่งของเครื่องใช้ประจำตัวเดินมาตามถนน
พระนพดล สุชาโต กล่าวว่า ตนไม่มีจุดหมายว่าจะไปไหนเลย เพราะโดนเจ้าอาวาสบีบบังคับ นำตำรวจมาให้ออกจากสำนักสงฆ์แสงธรรมคีรี หมู่ที่ 1 ต.เขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม สาเหตุมาจากทางอาตมาได้พากันไปร้องเรียนเจ้าอาวาส กับ เจ้าคณะตำบล เรื่องของเจ้าอาวาสมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม แต่ไปร้องเรียนแล้วไม่ได้รับความเป็นธรรม เลยต้องพากันออกมา เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัย เพราะเจ้าอาวาสองค์นี้เป็นคนมีอิทธิพล
ด้าน พระวายุสันติธรรมโม กล่าวว่า ได้ไปร้องเรียนเจ้าอาวาสประเด็นเงินกฐินของปี 65 ยอดเงินประมาณ 3 แสน แล้วออกจากวัดหายไป 7-8 เดือน จากนั้นช่วงกลางเดือนกรกฎาคม 2566 เจ้าอาวาสองค์ดังกล่าวได้กลับมาวัด ทางพระลูกวัดไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเจ้าอาวาส จึงได้มีการร้องเรียนไปยังเจ้าคณะตำบล เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 9 สิงหาคม แต่ตกเย็นได้มีการหนังสือย้ายพระและเณรออกจากสำนักสงฆ์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาพร้อมกับเจ้าอาวาส โดยบอกว่า ขึ้นอยู่กับเจ้าอาวาสว่าให้ออกหรือให้อยู่ต่อ แต่เจ้าอาวาสได้ให้พวกตนทั้งหมดออกจากสำนักสงฆ์ ซึ่งพวกตนก็ขอเวลาเนื่องจากเป็นช่วงเข้าพรรษาด้วย แต่เจ้าอาวาสให้เวลาแค่วันพรุ่งนี้ก่อนเที่ยง ไม่เช่นนั้นจะดำเนินคดีในข้อหาบุกรุก ทั้งที่อาตมาบวชและอยู่ที่นี่มา 7 ปี แค่ร้องเรียนก็โดนไล่ออก ตำรวจก็ไม่ถามอะไรเลย มากับเจ้าอาวาสก็จะเอาพวกเราออกอย่างเดียวเลย ไม่ถามเหตุผลอะไรสักคำ แต่บอกเพียงแค่ว่าได้รับมอบหมายมาจากเจ้าคณะจังหวัด
จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีพระ 3 รูป และสามเณร 5 รูป เด็กวัด 1 ราย ตอนนี้ภายในสำนักสงฆ์เหลือเพียงเจ้าอาวาส และเลขา เท่านั้น หลังจากนี้พระนพดล จะได้นำพระและเณรที่ออกมาจากสำนักสงฆ์ดังกล่าวไปหาขอจำวัดต่างตำบลก่อน และจะดำเนินการเรียกร้องความยุติธรรมกับพระผู้ใหญ่ตามลำดับชั้นต่อไป โดยช่วงนี้เป็นช่วงเข้าพรรษา จะต้องหาวัดให้กับพระสงฆ์และสามเณรได้จำวัดให้ได้