
8 มิถุนายน 2566 แจ้งความจับ "พันโท" หลอกรับราชการ ช่วยวิ่งเต้นเป็นทหาร ตำรวจ ได้ จนเหยื่อสูญเงินจำนวนมาก เปิดเผยเมื่อ นายชัยวัฒน์ ต่างงาม อายุ 35 ปี ประกอบอาชีพซื้อซากรถเก่า อยู่ตำบลโคกกะเทียม อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี ได้เดินทางเข้าร้องเรียนกับทีมข่าวเนชั่นทีวี หลังจากถูกนายทหารยศพันโท ครูฝึกการบิน หลอกให้โอนเงินจำนวน 250,000 บาท เพื่อไปเดินเรื่องฝากภรรยา เข้าสมัครเป็นตำรวจ แต่หลังจากประกาศผล ปรากฏว่า ไม่มีชื่อของภรรยาแต่อย่างใด หลังจากนั้นได้ไปทวงถามเอาเงินคืนจากพันโทรายนี้ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยมาโดยตลอด
นายชัยวัฒน์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีเพื่อนร่วมอาชีพรุ่นพี่ ได้โทรศัพท์มาบอกกับตนว่า มีนายทหารยศพันโทรายหนึ่ง ซึ่งรู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน และมีความสามารถฝากบุคคลภายนอกเข้าสมัครสอบเป็นข้าราชการทหาร และตำรวจ ได้ โดยมีการให้หมายเลขติดต่อไปหานางเหมี่ยว (นามสมมุติ) ซึ่งตนเองสนใจ เพราะเห็นว่าภรรยาของตนอยู่บ้านว่างงาน จึงได้โทรติดต่อไปหานางเหมี่ยว พร้อมกับบอกว่าสนใจ ที่จะให้ภรรยาสอบเข้าเป็นข้าราชการตำรวจ จากนั้นทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาที่บ้านผู้เสียหาย
ทั้งนี้ พันโทสมพงษ์ (สงวนนามสกุล) อ้างว่า รับราชการอยู่ที่ศูนย์การบินทหารบก จังหวัดลพบุรี พร้อมบอกกับตนและภรรยาว่า สามารถช่วยให้เข้ารับราชการได้ หากสนใจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวน 400,000 บาท โดยจะต้องจ่ายก่อนครั้งแรก 250,000 บาท
หลังจากนั้นต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายน เวลา 17.41 น. นางสาวณัฐธิดา ต่างงาม อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของตนได้โอนเงินจากบัญชี จำนวน 250,000 บาทไปยังบัญชีของพันโทสมพงษ์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ โดยพันโทสมพงษ์ ยังยืนยันว่า ได้ผล 100% จนกระทั่งภรรยารอไปสอบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 9 ธันวาคม 2565 ก็ยังไม่ได้ไปสอบ จนมีประกาศผลสอบออกมา แต่ก็ไม่มีรายชื่อภรรยาตน
ด้วยความสงสัย จึงได้สอบถามไปยัง พันโทสมพงษ์ ซึ่งก็ได้รับคำตอบว่า รายชื่อที่ปรากฏประกาศผล เป็นการบรรจุภายใน ดังนั้น ให้รอจนถึงวันที่ 4 มีนาคม 2566 แต่สุดท้ายก็ไม่มีการบรรจุแต่อย่างใด พวกตนจึงไปขอเงินคืนจากพันโทสมพงษ์ แต่กลับถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด ต่อมาได้ไปแจ้งกับทางผู้บังคับบัญชาของพันโทสมพงษ์ ก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
ต่อมา พันโทสมพงษ์ ได้นัดหมายจะนำเงินทั้งหมดมาให้ภายในวันที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา แต่ปรากฏว่า คราวนี้ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งมีข่าวลงในโซเชีล ทางผู้บังคับบัญชาของพันโทสมพงษ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อมายังตน และบอกว่า ขอให้ทางหน่วย ทำเรื่องไล่ออก พันโทสมพงษ์ เสียก่อน ค่อยไปแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจว่า ทางหน่วยทำไมปกป้องการกระทำความผิดของผู้ใต้บังคับบัญชารายนี้
ล่าสุดวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา นางสาวณัฐธิดา ได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์กับพันตำรวจโทวิโรจน์ เสาทอง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี เป็นที่เรียบร้อแล้ว เพื่อให้ทางตำรวจเรียกตัวพันโทสมพงษ์ และพวกอีก 2 คน มาสอบสวนปากคำ ขณะที่ยังมีเหยื่อผู้เสียหายถูกพันโทสมพงษ์ หลอกในทำนองเดียวกันสูญเงินไปอีกกว่า 2 แสนบาท
ต่อมาทีมข่าวสามารถติดต่อทางโทรศัพย์พูดคุยกับนางส้ม (นามสมมุติ) ซึ่งตกเป็นเหยื่อผู้เสียหายอีกราย โดยนางส้ม เล่าว่า ได้รู้จักกับพันโทสมพงษ์ โดยเพื่อนบ้านแนะนำมา โดยมีการติดต่อขอกู้เงิน จำนวน 90,000 บาท พร้อมเสนอดอกเบี้ยให้ร้อยล 15 บาทต่อเดือนในช่วงเวลา 3 เดือน เพื่อนำไปเดินเรื่องฟ้องหย่าภรรยา โดยนำบัตรข้าราชการ บัตรเอทีเอ็ม. สมุดบัญชีธนาคาร เอามาเป็นหลักฐานยืนยัน เพื่อค้ำประกันเอาไว้ แถมอ้างอีกว่า ปีหน้าจะได้เลื้อนยศเป็นพันเอก ทำให้ดูน่าเชื่อถือขึ้น จึงได้ตกลงโอนเงินไปให้ โดยมีการทำสัญญาเอาไว้
ต่อมา พันโทสมพงษ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อมาสอบถามตนเอง โดยระบุว่า ทางบ้านพวกตนทำงานอะไรกัน มีใครอยากทำงานราชการหรือไม่ เพราะสามารถฝากเข้ารับราชการได้ แต่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 25 เปอร์เซ็น ทำให้พวกตนหลงเชื่อ และเกิดความสนใจ โดยได้ตอบตกลงให้ พันโทสมพงษ์ ฝากหลานชายเข้าทำงานรับราชการทหารที่ศูนย์การบินทหารบก
แต่ในระยะหลัง พันโทสมพงษ์ ได้ติดต่อกับมา และอ้างว่า ขอเงินเป็นค่าเดินเรื่องเพื่อให้เจ้านาย และเป็นช่วงที่ตนโอนเงินไปให้ รวมทั้งหมดเป็นเงิน จำนวน 165,000 บาท สุดท้ายหลานชายก็ไม่สามารถเข้ารับราชการได้จริง แถมยังถูกหลอกเอาไปทั้งหมด กว่า 255,000 บาท อีกด้วย
ทั้งนี้ ทีมข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ นายไสว (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้แนะนำให้เหยื่อ ซึ่งได้เปิดเผยว่า ตนเองรู้จักกับนางเหมี่ยว ในฐานะเพื่อน และที่ผ่านมาก้ได้พูดคุยกันเป็นประจำ และนางเหมี่ยว เคยบอกเอาไว้ว่ามีนายทหารยศนายพันโท สามารถฝากเข้าทำงานรับราชการได้ หลังจากนั้นตนเองคิดได้ว่า นายชัยวัฒน์ เพื่อนร่วมงาน มีภรรยา และยังว่างงานอยู่ จึงหวังดีบอกต่อกันไป โดยได้ให้เบอร์โทรศัพท์นางเหมี่ยว เอาไว้ พร้อมทั้งบอกว่า หากสนใจก็ให้โทรศัพท์ไปพูดคุยรายละเอี่ยดกันเอง ส่วนตัวพันโทสมพงษ์ ตนไม่เคยรู้จักเป็นส่วนตัวแต่อย่างใด และไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน
"เรื่องที่เกิดขึ้น ทำให้รู้สึกลำบากใจมาก เพราะทำให้เพื่อนร่วมงานที่รู้จักกันดี ต้องมาเสียเงิน" นายไสว กล่าว
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ติดต่อไปยัง นางเหมียว โดยได้โทรศัพท์ เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งนางเหมียว เล่าว่า ตนมีรายได้จากรับจ้างเดินเรื่องต่อทะเบียน ต่อ พรบ.รถ ประกอบกับมีญาติพักอาศัยในหน่วยทหารดังกล่าว จึงได้มีการประสานหาลูกค่าต่อทะเบียน พรบ.รถให้ จนกระทั่งมารู้จักกับ พันโทสมพงษ์ จากนั้นพันโทสมพงษ์ ยังหาลูกค้าให้ จนเกิดความสนิทสนมกัน แต่ภายหลังพันโทสมพงษ์ มาบอกว่ามีใครที่มีลูกหลาน หรืออยากเป็นข้าราชการ สามารถฝากให้ได้
พันโทสมพงษ์ ระบุว่า รู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่หลายคน และหากตนหาผู้ที่สนใจอยากเข้ารับราชการมาได้ ก็จะให้เงินค่าตอบแทน ด้วยความอยากได้เงิน ตนเองเจอคนรู้จัก ก็จะบอกข่าวให้ทราบ หากมีใครอยากฝากลูกหลานเข้าทำงานรับราชการ ก็จะให้มาติดต่อไป เพื่อจะพาไปพบกับพันโทสมพงษ์ จนมีเหยื่ยอถูกหลอกหลายราย นอกจากนี้ทางญาติของตนอีก 2 ราย ก็ยังถูกพันโทสมพงษ์ หลอกด้วยเช่นกัน ทำให้ต้องสูญเงินไปกว่า 400,000 บาท อีกด้วย